กล้าลองกล้าลุยวันนี้ คุณต้นกล้า ชัยอนันต์ จะพาเราไปที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ไปดูการทำงานของอาชีพ "คนรับจ้างตัดปาล์มน้ำมัน" ทำงานปกติก็ว่ายากลำบากแล้ว แต่ช่วงนี้ยังมีน้ำท่วมสวนปาล์มหลายแห่ง พวกเขาก็ยังออกมารับจ้างหารายได้กันอยู่ การทำงานจะยากลำบากอย่างไรบ้าง ไปติดตามชม...

วันนี้ผมพาคุณผู้ชมทุกท่าน ล่องใต้มาเกาะติดดูการทำงานของ พี่นก และพี่สง่า กับอาชีพ "คนรับจ้างตัดปาล์มน้ำมัน" ในตำบลคลองน้อย อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยจะตระเวนเข้าไปในทุกสวน ที่ถูกว่าจ้างให้ตัดทะลายปาล์มน้ำมัน ที่เราต้องบรรทุกเรือมาด้วย เพราะในสวนปาล์มน้ำมันตอนนี้ถูกน้ำท่วมเกินกว่าครึ่ง หลายจุดน้ำท่วมสูง ลงไปทำงานเก็บทะลายปาล์มน้ำมันกันแบบปกติไม่ได้ เจ้าของสวนแทบจะกุมขมับเลย เพราะถ้าไม่รีบเก็บ จะร่วงหล่นจนเสียหายทั้งหมด

ทันทีที่มาถึงสวนปาล์ม เรารีบจัดแจงเรือ เตรียมพร้อมทำงานกันทันที แต่ตอนนี้ ดูท่าฝนฟ้าไม่ค่อยเป็นใจเท่าไหร่

ในสวนปาล์มที่เราเข้าไปทำงาน จะมีทั้งเศษไม้ ทางปาล์ม และเศษขยะที่ลอยมากับน้ำจำนวนมาก อย่างเศษแก้วนี่ต้องระวังเลย จากที่กองไว้ในสวนอย่างเป็นระเบียบ ตอนนี้ถูกน้ำท่วมพัดกระจัดกระจาย ไม่รู้อยู่ตรงไหนบ้าง แถมยังมีสัตว์มีพิษอย่าง งู และตะขาบ ที่หนีน้ำหลบอยู่ตามที่ต่างๆ ถึงจะตัวเล็ก แต่พิษก็ยังเยอะอยู่

ตอนนี้ทั้ง พี่นก และพี่สง่า บอกว่า เราต้องรีบลงมือตัดทะลายปาล์มก่อน ยิ่งช้า สัตว์พวกนี้ก็จะหนีน้ำมาหาเอาได้ ทุลักทุเลทั้งคนทำงานและช่างภาพของเรา

ทะลายปาล์มแต่ละอันที่ตัดลงมา หนักหลายสิบกิโลกรัม เมื่อตกลงในน้ำ การใช้เหล็กแทงยกขึ้นเรือแบบนี้ เห็นทีจะทำได้ยาก เพราะมันลื่นมาก จึงต้องออกแรงใช้มือยกขึ้นมาอย่างเดียวเท่านั้น

หนามหนาๆ แข็งๆ ที่อยู่โดยรอบทะลาย ถือว่าอันตรายมาก การยกแต่ละครั้งจึงต้องระวังให้มาก การหยิบ จับ ก็ต้องกะ และเลือกให้ถูกจุด ซึ่งวันๆนึง พี่เขาบอกว่าจะยกแบบนี้ไม่ต่ำกว่า 3-4 ตัน เป็นงานที่ไม่ได้สบายเลย

งานนี้ผมเองขออาสาเป็นผู้ช่วย อยากรู้ว่าจะหนักแค่ไหน

นอกจากหนามแหลมที่ต้องระวังตอนยกขึ้นเรือแล้ว ใต้น้ำยังเต็มไปด้วยทางปาล์มจำนวนมาก

หลายคนขนานนามว่า นี่คือเข็มพิษ อันตราย ที่ว่ากันว่าเดินๆอยู่หากโดนตำเข้าไป จะปวดมาก และบวมข้ามคืน เพราะเต็มไปด้วยเชื้อโรค คนที่ไม่ชำนาญอย่างผม ก็เลยโดนเจิมเข้าจนได้

กว่าจะไปถึงปาล์มแต่ละต้น และตัดทะลายลงมาได้ เล่นเอาเราเจ็บตัวกันไปตลอดทาง จุดที่โดนหนามทางปาล์มตำจะปวดมากๆ ความเชื่อของชาวบ้านบอกว่า จะต้องบีบเอาเลือดออกมาก่อน จากนั้นจึงขยี้ผลปาล์มสุก ใช้ส่วนที่เป็นน้ำมันทาปฐมพยาบาลเบื้องต้น ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าถูกต้องหรือไม่

บอกเลยว่ามันปวดจริงๆ ผมเองยังคงเกาะติดการทำงานต่อ อีกอย่างที่ต้องระวังตอนทำงานช่วงน้ำท่วมแบบนี้ คือ การเดินในร่องสวน เดินอยู่ดีๆ จากน้ำที่สูงแค่หัวเข่า แค่ขา อาจจะลึกไปจนเกือบครึ่งตัว บางจุดมิดหัวก็มี เลยต้องลอยคอเกาะเรือกันเอาไว้

ถึงแม้จะมีงานจ้างแทบทุกวัน แต่หลายคนก็ไม่อยากทำ เพราะเหนื่อย หนัก แถมเสี่ยงอันตรายกว่าเดิมหลายเท่าตัว พี่เล็ก สุมาตร เจ้าของลานเทปาล์มน้ำมัน บอกว่า คนที่จะมาทำอาชีพนี้ได้ต้องอดทนจริงๆ

เบ็ดเสร็จต่อวัน จะได้เงินจากงานสุดหินนี้คนละไม่ต่ำกว่า 1,000 บาทเลย