ชุดฉลามขาวของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สนธิกำลังกับหลายฝ่าย บุกยึดทวงคืนพื้นที่ป่าชายเลนคืนจาก 2 ร้านอาหารชื่อดัง ที่ถมที่ดินรุกพื้นที่ชายฝั่ง และตรวจยึดนากุ้งจากนายทุนคืนอีกหลายราย คุณธนพัต กิตติบดีสกุล ลงพื้นที่ติดตามภารกิจนี้ที่จังหวัดจันทบุรี
แม้จะเป็นช่วงท้ายปี ชุดฉลามขาว พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ, ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 19, ทหารเรือ, กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช, กรมที่ดิน กว่า 40 นาย ได้จัดแบ่งกำลังกันเป็น 4 ชุด ตรวจจับผู้บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเลนบางกะไชย และเขตป่าชายเลนตามมติคณะรัฐมนตรี ที่ตำบลบางกระไชย อำเภอแหลมสิงห์ และตำบลหนองบัว อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ซึ่งถูกกลุ่มนายทุนรายใหญ่ของจังหวัดและชาวบ้านในพื้นที่ บุกรุกพื้นที่ทำเป็นนากุ้งถึง 14 แปลง เนื้อที่ 483 ไร่
นอกจากตรวจยึดคืนพื้นที่บุกรุกทำนากุ้งแล้ว เจ้าหน้าที่ยังได้รับแจ้งมีร้านอาหารชื่อดังของจังหวัดจันทบุรี ก่อสร้างร้านอาหารรุกล้ำยื่นออกมาในทะเล จึงได้เข้าตรวจสอบ "ร้านบางมะนาว" ตั้งอยู่ที่ตำบาลหนองบัว อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี
พบ มีการถมดินรุกล้ำเข้าไปในทะเลจริง จึงได้ขอตรวจสอบเอกสารครอบครอง ซึ่งทางเจ้าของร้านได้นำเอกสาร นส.3 ก. จำนวน 3 ฉบับ เนื้อที่ 6 ไร่ 1 งาน 2 วา มาแสดง แต่เมื่อทำการรังวัด พบมีสิ่งปลูกสร้างเกินกว่าเอกสารครอบครองกว่า 3 ไร่
เจ้าของร้านบางมะนาว ชี้แจงว่า ไม่ได้มีเจตนาบุกรุกพื้นที่ชายฝั่ง เพราะได้ซื้อที่ดินต่อมาจากเจ้าของเดิม ที่เป็นนากุ้งเก่า จึงได้นำแนวที่ดินเดิมมาสร้างร้านอาหาร ซึ่งหากตรวจสอบพบว่าบุกรุกจริง ก็ยินดีจะรื้อถอน
เช่นเดียวกับ "ร้านครัวตัวตอ" ซึ่งตั้งติดกัน มีการก่อสร้างรุกล้ำเข้ามาในทะเลเช่นกัน แต่จำนวนไม่มาก
ปฏิบัติการยึดคืนพื้นที่บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติทั้ง 2 แห่ง และพื้นที่ชายฝั่งทะเลที่ถูกบุกรุกครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายทวงคืนผืนป่าของรัฐบาล ที่สั่งให้ดำเนินการอย่างเข้มงวด จริงจัง พร้อมดำเนินคดีให้ถึงที่สุด โดยไม่มีการเลือกปฏิบัติไม่ว่าจะเป็นนายทุนกลุ่มไหน
สำหรับการดำเนินคดีกับนายทุนบุกรุกป่าสงวนทำนากุ้ง และเจ้าของร้านอาหาร 2 แห่งในจังหวัดจันทบุรีครั้งนี้ ถือว่ามีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 และพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 มาตรา 117 ห้ามมิให้ก่อสร้างรุกล้ำลำน้ำ มีโทษปรับตารางเมตรละ 500-10,000 บาท
