พ่อค้าขายผักย่านรังสิต เสียท่าแก๊งมอมยารูดทรัพย์ สูญทรัพย์ไปกว่า 300,000 บาท วันนี้ยอมมาเปิดเผยเรื่องราวของตนเองเป็นอุทาหรณ์เตือยภัยในสังคม ลงสนามข่าวนี้กับคุณศจี วงศ์อำไพ
สุเมธ สมจิตร พ่อค้าขายผักตลาดย่านรังสิต วัย 40 ปี เข้าร้องทุกข์เปิดใจกับทีมสนามข่าว 7 สี ถึงเหตุการณ์ที่ตัวเองเสียท่าให้แก๊งมิจฉาชีพ สูญทรัพย์สินรวมแล้วกว่า 300,000 บาท ก่อนหน้านี้เข้าไปรู้จักสาวคนหนึ่งผ่านทางโปรแกรมวีแชท พูดคุยกันได้ประมาณ 2 วัน จากนั้นวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาก็นัดเจอกันที่ห้างสรรพสินค้าดังย่านรังสิต
สุเมธยอมรับว่า เขาสวมใส่เครื่องประดับทองรูปพรรณเต็มตัว น้ำหนักประมาณ 11 บาท พกเงินสดกว่า 50,000 บาท หวังจะอวดสาวที่เพิ่งรู้จัก ไม่นึกว่านี่จะเป็นสิ่งล่อตาล่อใจมิจฉาชีพ
เมื่อทานข้าวเสร็จ ทั้งสองชวนกันไปเที่ยวผับย่านหลักสี่ ดื่มหนักจนเมาสุรา จากนั้นประมาณตี 3 หญิงสาวขอตัวกลับบ้าน จากนั้นไม่นานก็มีชายวัยกลางคนอ้างตัวเป็นทหารเข้ามาตีสนิท ชักชวนไปกินข้าวต้ม ตนเองไม่เอะใจยอมไปด้วยแต่โดยดี จากนั้นก็เข้าไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ แล้วก็ชวนกันกลับไปพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง โดยชายคนนี้เสนอเหมือนจะหาสาวมาให้ เมื่อนั่งแท็กซี่มาถึงโรงแรมแห่งหนึ่งที่ปทุมธานี ชายคนนี้ก็สั่งเบียร์มาให้ดื่มอีก 2-3 แก้ว จากนั้นก็หมดสติ ตื่นขึ้นมาแทบสลบ ทรัพย์สินในตัวหายเกลี้ยง
เจ้าตัวเชื่อว่า ตนเองน่าจะถูกป้ายยาและใส่ยาในเครื่องดื่มให้หมดสติ จากนั้นคนร้ายก็ฉกทรัพย์ไปหมด โดยมีนางนกต่อล่อเหยื่อ ไปแจ้งความที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เพื่อลากตัวมิจฉาชีพรายนี้มาดำเนินคดี ลงทุนไปขอภาพวงจรปิดตามร้านสะดวกซื้อและโรงแรมที่ไปพัก เพื่อเป็นหลักฐานส่งให้ตำรวจ
ตำรวจเรียกตัวหญิงสาวที่นายสุเมธแชทคุยด้วยมาสอบปากคำแล้ว แต่เจ้าตัวยืนยันว่าไม่ใช่นางนกต่อ และไม่รู้เห็นกับเหตุการณ์ครั้งนี้ ตำรวจจึงต้องปล่อยตัวไป
แม้สุเมธจะมีภาพชายที่เค้าชื่อว่าเป็นคนร้าย แต่ตำรวจก็บอกว่าหลักฐานยังไม่เพียงพอ เพราะไม่มีใครรู้จักชายคนนี้มาก่อน ไม่รู้ทั้งชื่อและนามสกุล จึงไม่สามารถตามตัวมาสอบปากคำได้
สุเมธยอมรับ ตัวเองเสียรู้ และไม่ควรถ่ายภาพทรัพย์สินมีค่าโพสต์โชว์ในโลกออนไลน์เลย วันนี้จึงเป็นบทเรียนราคาแพงที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับใคร
ตำรวจเผยไม่นิ่งดูดาย จะพยายามติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี แต่ต้องมีพยานหลักฐานชัดเจนกว่านี้ พร้อมทั้งฝากย้ำให้ทุกคนอย่าไว้ใจบุคคลแปลกหน้าที่เพิ่งรู้จักผ่านทางโลกออนไลน์ เพราะทุกวันนี้มิจฉาชีพมาหลากหลายรูปแบบ อย่าเปิดช่องให้คนร้ายก่อเหตุได้ง่ายๆ ต้องระวัง เพราะครั้งนี้เราอาจจะเคราะห์ดีเสียแค่ทรัพย์ บางรายต้องสูญเสียชีวิตเพราะน้ำมือคนร้ายหวังทรัพย์ในตัวเรา
