ตำรวจภูธรภาค 6 ตำรวจอุทัยธานี และตำรวจกองปราบปราม รวบตัวคนร้ายที่ร่วมกันสังหารโหดชาวบ้าน 4 ศพ ที่จังหวัดอุทัยธานี และออกหมายจับผู้ต้องหา 7 คน โดยมีการซัดทอดว่า นักการเมืองใหญ่ในพื้นที่เป็นผู้จ้างวาน ลงสนามข่าวนี้กับคุณศจี วงศ์อำไพ
กลางดึกวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้น เมื่อจู่ๆมีกระสุนปืนกราดยิงเข้ามากลางวงไฮโลในงานศพ ที่อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี จนทำให้ชาวบ้านเสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 1 คน ชาวบ้านในพื้นที่ต่างเสียขวัญ เพราะคนร้ายอุกอาจกล้าลงมือทั้งที่ในงานศพยังมีผู้คนจำนวนมาก
ตำรวจภูธรภาค 6 ตำรวจในพื้นที่ และตำรวจกองปราบปรามจึงลงพื้นที่คลี่คลายคดีนี้ ใช้เวลาเกือบ 1 เดือน สืบสวนขยายผลจนกระทั่งทราบว่า มือปืนรายนี้คือ นายธเนศ วงศ์เนตร หรือ กั๊ก อายุ 21 ปี แกะรอยตามไปรวบตัวได้ที่บ้านแฟนสาวในจังหวัดระยอง เจ้าตัวสารภาพลงมือก่อเหตุครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ครั้งแรกรับจ้างยิงนายบุญจันทร์ ชาลีนิวัฒน์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 7 อำเภอสานสัก เสียชีวิตเมื่อวันที่ 14 ตุลาคมปีที่แล้ว โดยมีนายบุญส่ง จันทร อายุ 60 ปี เป็นผู้รับงานมาในราคา 10,000 บาท จากนั้นเมื่อปลายเดือนมกราคม นายบุญส่งติดต่อให้รับจ้างสังหาร นายสุชิน นุ่มภักดี สารวัตรกำนันตำบลน้ำรอบ อำเภอลานสัก โดยมีนายมนัส หว่างจีน และนายสราวุธ เรืองตาตะ เป็นคนชี้เป้า ก่อนเกิดเหตุขณะที่นายธเนศกำลังซุ่มจะยิงนายสุทิน กลับมีสุนัขเห่าและมีเสียงไก่ร้อง ชาวบ้านจึงเดินออกไปดู ด้วยความตกใจนายธเนศจึงกราดกระสุนไม่ยั้ง จนมีผู้เสียชีวิตดังกล่าว โดยครั้งนี้ได้ค่าตัว 30,000 บาท แบ่งให้นายมนัส และนายสราวุฒิ คนละ 5,000 บาท และให้นายบุญส่ง 4,000 บาท
ขณะที่ตำรวจอีกชุดไปจับนายบุญส่งได้ที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ตำรวจเค้นสอบจนยอมรับว่า ครั้งแรกที่สังหารนายบุญจันทร์ รับงานมาจากนายสุชาติ อ่อนทิมวงษ์ โดยมีนางสาวเยาวพร รัตนมณีพันธ์ อายุ 47 ปี กำนันตำบลสานสัก เป็นผู้ว่าจ้างในจ้าง 30,000 บาท มูลเหตุมาจากการเมืองท้องถิ่นและเรื่องการถมดินสระ ส่วนคดีที่สองทนายสุภาพ โต๋วสัจจา อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย จ้างให้มาสังหารนายสุทิน ในราคา 30,000 บาทเช่นกัน สาเหตุมาจากการเมืองและขัดผลประโยชน์การทำเหมืองแร่ หลังก่อเหตุเสร็จก็นำปืนเอ็ม 16 ไปฝังไว้ที่ตำบลบ่อถ้ำ จังหวัดกำแพงเพชร
ส่วน นายมนัส คนชี้เป้า ก็ไม่รอดถูกรวบตัวได้ ตำรวจขยายผลจากคำซัดทอดของผู้ต้องหา จึงออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสิ้น 7 คน คือ นายธเนศ, นายบุญยิ่ง, นายมนัส ส่วน นายสราวุธ และนายสุชาติ ผู้รับจ้าง อยู่ระหว่างการหลบหนี
นอกจากนี้ ตำรวจออกหมายจับ นางสาวเยาวพร และนายสุภาพ ในข้องหาจ้างวาน ซึ่งทีมสนามข่าว 7 สีพยายามของสัมภาษณ์นายสุภาพ แต่เจ้าตัวปฏิเสธ พูดสั้นๆว่าไม่เกี่ยวข้องกับคดีนี้
ตำรวจย้ำ แม้ผู้ต้องหาจะปฎิเสธแต่ก็ไม่หนักใจ เพราะนอกจากคำให้การซัดทอดแล้ว ยังมีพยานแวดล้อมและนิติวิทยาศาสตร์อย่างอื่นมาประกอบด้วย
ขณะที่ชาวบ้านและญาติของนายสุทิน สารวัตรกำนัน เป้าหมายคนร้ายแต่รอดตายหวุดหวิด ดีใจที่ตำรวจจับคนร้ายได้แล้ว จึงตั้งใจเดินทางมาดูโฉมหน้าผู้ต้องหา ที่สำคัญอยากให้ตำรวจจับผู้จ้างวานให้ได้ เพราะตอนนี้ชาวบ้านและครอบครัวนายสุทินต้องทนอยู่อย่างหวาดระแวง
จากเหตุการณ์รุนแรงในพื้นที่อุทัยธานี ทำให้ตำรวจ ทหาร และกองปราบปราม สนธิกำลังปฏิบัติการจู่โจมเข้าค้นบ้านผู้มีอิทธิพลและพื้นที่เป้าหมาย 22 จุด สามารถยึดปืนขนาดต่างๆได้ 34 กระบอก เครื่องกระสุน 500 นัด จากนั้นนำปืนทั้งหมดไปตรวจสอบ
นอกจากนี้ ตำรวจสืบทราบมาว่า ปืนเอ็ม 16 ที่คนร้ายใช้ เป็นปืนเถือน ซึ่งผู้ครอบครองเผยว่าเอามาจากในการชุมนุมเมื่อปี 2553 แล้วนำมาเก็บไว้ จากนั้นก็ขายให้นายไก่ในราคา 16,000 บาท
ตอนนี้ตำรวจจับผู้ต้องหาได้แล้ว 5 คน ยังเหลืออีก 2 คนที่หลบหนีอยู่ แต่ตำรวจคาดว่าจะได้ตัวในเร็ววันนี้
นับว่าเป็นอีกคดีที่มีชื่อนักการเมืองระดับประเทศเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งยุคนี้ คสช. ประกาศจะไม่ปล่อยให้ผู้มีอิทธิพลขยายอำนาจ สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านอีกต่อไป