กล้าลองกล้าลุยวันนี้ คุณต้นกล้า ชัยอนันต์ จะพาไปดูกลุ่มจิตอาสาที่ร่วมด้วยช่วยกันในทุกเดือน พวกเค้าจะรวมกลุ่มกัน 20-30 คน ขี่มอเตอร์ไซค์เข้าไปในป่า ไปสร้างแหล่งอาหารให้กับช้างป่า เป็นภารกิจที่ทำด้วยใจ ไม่มีค่าตอบแทนให้เป็นอย่างไร ไปติดตามชม

วันนี้กล้าลองกล้าลุย พาคุณผู้ชมทุกท่าน มาเกาะติดเหล่าจิตอาสาคนทำดี ที่อยู่เบื้องหลังการสร้างแหล่งอาหารให้กับช้างป่ามานานหลายปีแล้ว วันนี้เราถ่ายทำกันแบบทุลักทุเลมาก กว่าจะเข้ามาปลูกอ้อยแบบนี้ ได้เจ็บเนื้อเจ็บตัวกันไปหลายคน ในช่วงหน้าแล้งแบบนี้ ปัญหาที่เจอเป็นประจำทุกปีคือ ช้างป่ามักจะขาดแคลนอาหาร พากันออกมาบุกรุกพื้นที่ทำกินของชาวบ้าน สร้างความเดือดร้อนเป็นวงกว้าง หลายคนต้องอยู่แบบหวาดระแวง ไม่กล้าออกมากรีดยางพารา ทำไร่ ทำสวน เพราะมีข่าวช้างป่าทำร้ายชาวบ้านจนได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตมาแล้วหลายราย

ซึ่งแต่ละจุดกว่าที่เราจะเข้ามาปลูกอ้อยได้ เส้นทางไม่ได้ง่ายๆ เลย

เราออกเดินทางกันตั้งแต่เช้าพร้อมกับเหล่าสมาชิก "ชมรมมอเตอร์ไซค์วิบาก ทับช้างป่าลั่น" ร่วมกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ท่านปลัดอำเภอ รวมแล้วกว่า 30 ชีวิต มุ่งหน้าเข้าไปในพื้นที่ของอำเภอสอยดาว เพราะรถใหญ่เข้าไปได้ยาก การเดินเท้าอาจต้องใช้เวลาเกือบครึ่งวัน ดังนั้นต้องอาศัยมอเตอร์ไซค์วิบากจะง่ายที่สุด

สมาชิกในชมรมจะรวมกลุ่มกัน เดือนละ 1-2 ครั้ง ช่วงที่ทุกคนว่างเว้นจากงานประจำ เตรียมต้นอ้อยเป็นท่อนๆ แล้วช่วยกันขี่มอเตอร์ไซค์วิบากเอาเข้ามาปลูก บางจุดเส้นทางค่อนข้างปราบเซียน ถ้าไม่ระวังก็อาจมีล้มลุกคลุกคลานกันได้

คันนี้ล้มไปหลายรอบ จนเบรกงอพับมาอีกด้าน รถพัง แต่คนไม่เป็นอะไร ยกเว้นคันนี้ คันซ้ายมือที่พี่เป็ดทีมงาน และพี่สุวัจน์ผู้ช่วยช่างภาพของเรานั่งซ้อนกันมา กลิ้งลงข้างทาง เจ็บตัว เลือดตกยางออก ต้องปฐมพยาบาลกันอยู่นาน แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครยอมแพ้ ช่วยกันเสร็จ เราก็มุ่งหน้าไปต่อ จุดที่เราจะปลูกอ้อย ต้องเดินเท้าเข้าไปอีกหลายกิโลเมตร เพื่อไม่ให้รบกวนแหล่งที่อยู่ของช้างป่า รวมทั้งสัตว์ชนิดอื่นๆ เพราะเสียงของรถมอเตอร์ไซค์ และกลิ่นควันรถ อาจส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศเป็นวงกว้างได้

จากนั้นจะเลือกจุดที่เหมาะสมที่สุดในการปลูกอ้อย ต้องเป็นพื้นที่โล่ง แสงแดดส่องเข้าถึง และมีความชื้นที่เหมาะสมที่อ้อยจะเจริญเติบโตเองได้ แต่ทั้งหมดนี้ให้ระวังเรื่องความปลอดภัยของตัวเองด้วย เพราะโอกาสที่จะเจอช้างป่ามีอยู่สูง ยิ่งเข้ามาในป่าลึกๆ ต้องมากับเจ้าหน้าที่ ที่สำคัญต้องไม่เป็นการรบกวนสัตว์ป่าด้วย

จิตอาสากลุ่มนี้ไม่ได้แค่ปลูกอ้อยให้ช้างป่าเท่านั้น ยังร่วมแรงร่วมใจกันปลูกอย่างอื่นที่เป็นประโยชน์ สร้างผืนป่าให้คงอยู่ต่อไปอีกด้วย

นี่อาจเป็นเพียงแค่ส่วนเล็กๆ ในสังคมที่ร่วมกันทำ ร่วมกันสร้างแหล่งอาหารให้กับช้างป่า เราอาจไม่เห็นผลในวันนี้ แต่เชื่อว่าสิ่งที่ทำอยู่อาจเกิดประโยชน์ในอนาคตไม่มากก็น้อย