พ่อยิ้มออก ปอ ทฤษฎี โต้ตอบได้ น้องมะลิ เต้นให้พ่อดู!!

หลังจากที่ อาน้ำอ้อย ผจก.ส่วนตัวออกมาอัพเดทอาการป่วยของหนุ่ม ปอ ทฤษฎี ไปเมื่อช่วงเช้านี้ ล่าสุดเมื่อช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา(27 พ.ย.) ทางคุณพ่อของหนุ่มปอ เองก็ได้ออกมาคอนเฟิร์มอีกครั้งว่า ขณะนี้ลูกชายมีการ ลืมตา กระพริบตา ขยับแขนตอบโต้ได้แล้ว แถมยังให้น้องมะลิโชว์สเต็ปเต้นให้ดูอีกด้วย ส่วนวันนี้มีการย้ายหนุ่มปอไปชั้นล่างเพื่อเอ็กซเรย์ ยันไม่ใช่การผ่าตัด แต่เปรยจากนี้อาจจะให้ น้องมะลิ มาหาพ่อปอน้อยลงตามความแนะนำของแพทย์ ซึ่งจะใช้วิธีอัดเสียงของ น้องมะลิ เอาไว้ให้พ่อปอฟังแทนนั่นเอง

"มีเรื่องอยากจะบอกกล่าว หลังจากที่มีการแถลงข่าวไปอย่างที่ทราบกันแล้วปรากฏว่าทุกๆ คนทั้งประชาชน แฟนคลับ รวมทั้งญาติมิตร โดยเฉพาะคุณพ่อคุณแม่ก็ใจชื้นขึ้นมาในระดับหนึ่ง มีความสุข เชื่อว่าหลายคนก็คงเบาใจในส่วนที่ปอเขาเป็น หลังจากนั้นเขามีปฏิกิริยาหลายอย่างสามารถที่จะสื่อสาร รับรู้ กับคุณพ่อคุณแม่ มะลิและคุณโบว์ ได้ดีกว่าที่ผ่านมา"

"อย่างไรก็ตามวันนี้มีความเข้าใจอาจจะไม่ตรงกัน เมื่อสักครู่ที่มีการย้ายปอลงไปข้างล่างเป็นการไปเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์เพื่อดูบางอย่าง ซึ่งมันอาจจะอยู่ในตัวเขาอีก ใช้เวลาเพียง 30 นาที ทราบว่ายังมีไปบอกว่าเป็นการไปผ่าตัดอีก ซึ่งไม่ใช่การผ่าตัด ถ้าผ่าตัดตอนนี้คงจะบอบช้ำมาก แต่รายละเอียดไม่ทราบ รู้แค่ว่าไปเอ็กซเรย์"

"ปฏิกิริยาตอบสนองของปอ เช่น กระพริบตา ลืมตา แขนซ้ายขวาขยับและส่ายหน้า เวลาพ่อแม่เข้าไปพบ โบว์เข้าไปพบ บอกว่าพ่อมานะ ถ้ารับรู้ขอให้กระพริบตา เขาก็กระพริบตา อย่างโบว์เข้าไปวันนี้ ก็บอกว่าโบว์มานะจำได้หรือเปล่า ถ้าจำได้ให้กระพริบตาด้วย 2 ครั้ง เขาก็กระพริบ 2 ครั้ง ถามว่าให้มะลิเต้นให้ดูไหม เขาก็กระพริบตา นี่คือปฏิกิริยาที่ปรากฎ การรับรู้เขาดีขึ้น ทำให้เห็นว่าเขาสื่อสารกลับมาหาเราทางไหน วิธีใดบ้าง เป็นสัญญาณที่ดี โดยรวมของตัวเขาไม่ใช่แค่สมอง ปากเขาขยับได้ และทำจมูกบาน จมูกเคลื่อนไหวเหมือนสูดลม ปากเผยอได้ แต่จะพูดออกมาเป็นเสียงคงไม่ได้ นี่เป็นสัญญาณที่ดีที่อยากจะบอก ครอบครัวของเรามีพลังมากขึ้น ดูจากสีหน้าของพ่อก็ได้"

"อีกประเด็นหนึ่งที่อยากจะบอกในความเป็นจริงที่มะลิจะต้องมาที่นี่ที่โรงพยาบาลบ่อยๆ แทบทุกวัน มันเป็นความจำเป็น ทั้งๆ ที่หลายคนเป็นห่วง ผู้หลักผู้ใหญ่หมอเป็นห่วงไม่อยากให้มา ญาติก็โทรเข้ามาหาผม บอกเป็นห่วง ไม่อยากให้หลานมา แต่เวลามะลิมา จะพาไปพบพ่อ เรียกพ่ออย่างที่ทุกคนทราบว่าเขาเรียกว่ายังไง พ่อเขาก็จะรับรู้ มีปฏิกิริยาที่ดีขึ้น นี่คือความจำเป็น แต่อย่างไรก็ตามด้วยความเป็นห่วงเรื่องว่าจะติดเชื้อต่างๆ โดยเฉพาะเด็ก ทั้งๆ ที่ตรงนี้ที่จริงสะอาดกว่า มันไม่มีคนไข้อย่างที่ทุกคนรู้ ได้ปรึกษากับหมอ ท่านแนะนำว่า เราจะใช้วิธีอัดเสียงของมะลิ ของพ่อแม่และโบว์ ไปเปิดให้ฟัง มันจะดีกว่า จะได้ไม่ต้องเสี่ยงว่าจะเอาโรคไปติดเขา และมะลิจะได้ไม่ต้องมาติดโรคที่โรงพยาบาล เพื่อรักษาสุขภาพของหลานด้วย"

"ประการสำคัญคือ การที่อัดเสียงให้เขาฟัง ให้พยาบาลเปิดให้ฟังบ่อยๆ นานๆ จะเป็นการดีกว่า ไม่เสียเวลาให้เราต้องไปอยู่ในนั้น ซึ่งหมอใหัคำแนะนำอย่างนี้ แต่ครอบครัวก็ยังอยู่ มาเฝ้าอยู่แล้ว แต่หมายถึงน้องมะลิคนเดียวที่อาจจะไม่ได้มา ถามว่าหลังจากนี้มะลิจะมาไหม ก็แล้วแต่จังหวะความเหมาะสม"

"ส่วนขั้นตอนการรักษาขั้นตอนต่อไปเป็นเรื่องของหมอ ต้องอยู่ในห้อง CCU อยู่ เป็นเทคนิคของทางการแพทย์ ผมก็ไม่ทราบ เป็นเรื่องของหมอ สิ่งที่เป็นกังวลอยู่เรื่องเดียวคือเรื่องการติดเชื้ออย่างที่หมอบอก

"ที่วันนี้คณบดีคณะแพทย์ บอกว่าวันนี้จะมีข่าวดีคืออะไร ท่านบอกว่าให้พ่อพูดดีกว่า เพราะทางการแพทย์ไม่มีประเด็นลึกซึ้งที่หมอจะต้องออกมาพูด พ่อก็อยากออกมาขอบคุณและให้ข่าวน่าจะได้ ในส่วนของเรื่องปลายเท้ายังต้องเฝ้าระวังอยู่ไหม อันนี้พ่อไม่ทราบต้องถามคุณหมอ" คุณพ่อปอ ทฤษฎี กล่าว

คุณพ่อของ ปอ ทฤษฎี