จุดศูนย์รวมวัยรุ่นใจกลางเมืองกรุงเทพฯ อย่างสยามสแควร์ ทุกสิ่งที่ใหม่และทันสมัยมารวมกันอยู่ที่นี่ ที่สำคัญคือร้านอาหารและร้านขนมหลากหลายสไตล์ เลือกนำแต่ร้านดีๆ มาให้วัยรุ่นได้ชิมเพียบ  ณ ศูนย์การค้าเซ็นเตอร์พอยท์ ออฟ สยาม มีร้านเปิดใหม่ 5 ร้าน ครบทุกรสชาติไม่ว่าจะเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ ชาบู ขนมจากญี่ปุ่น เกาหลี และไอศกรีมเย็นสดชื่นมาพร้อมกับชูโรสจากสเปนแท้ๆ จะน่ากินขนาดไหนไปดูกันเลย

มาเริ่มร้านแรกกันก่อน กับร้าน Bon Gousse  (บงกูซ) เบอร์เกอร์ข้าวเกาหลีมาเปิดสาขาแรกในไทยแล้วจ้า

เจ้าของร้านก็เป็นสาวสวยดาราเอกหน้าหวาน บี มาติกา ได้นำบงกูซมาเปิดสาขาในไทยเป็นเจ้าแรก ขอบอกเลยว่าใครที่เป็นติ่งเกาหลีห้ามพลาด ถึงแม้ว่าจะอิมพอร์ตมาไกลจากเกาหลี แต่รสชาติยังคงเหมือนสาขาเกาหลีแบบเป๊ะๆ

เบอร์เกอร์ข้าวเกาหลีมากับไส้ยอดฮิตอย่าง ทูน่า-กิมจิชีส หรือเมนูหมูเจยุก และ เนื้อบูลโกกิ ราคาเริ่มต้นที่ 85 บาท เท่านั้น ชิ้นเดียวก็อิ่มเพราะชิ้นใหญ่มาก เหมือนทานข้าวหนึ่งมื้อเลยทีเดียว ร้านอยู่ขวามือ หน้าเซ็นเตอร์พอยท์ ออฟ สยาม จะเจอร้านสีเหลืองๆ มีที่ให้นั่งทานด้วยนะจ๊ะ

ร้านที่ 2 Xugar Handcrafted Churros ชูโรสที่มาไกลจากสเปน ทอดกันสดๆ หน้าร้าน ส่งกลิ่นหอมมาก ชูโรสมีดิปปิ้งซอสให้เลือกไม่ว่าจะเป็น ช็อคโกแลต สตอเบอร์รี่ คาราเมล และยังมีอีกมากมายให้เลือก มาพร้อมแพคเกจจิ้งที่ถือง่าย เดินกินสะดวก

ให้เข้าอากาศร้อนๆ ของเมืองไทย เพิ่มเมนูไอศกรีมชูโรสสีสันสดใส มีหลายรสชาติให้เลือก แต่หากเลือกไม่ถูกแนะนำให้เป็นเมนู The Pink Panther ชูโรสแท่งสีแดงกับไอศกรีมหวานน้อยพร้อมโรยสตรอว์เบอร์รีสดกับแยมสตรอว์เบอร์รีกินแล้วชื่นใจแน่นอนค่ะ

ร้านอยู่ตรงข้ามกับร้านบงกูซ เมื่อเห็นป้ายร้านแบบนี้แล้วพุ่งตรงเข้าไปสั่งกันได้เลยค่ะ

ร้านที่ 3 กับร้าน เชย์ชีส มาอยู่ที่มุมญี่ปุ่นกันบ้าง ความเป็นญี่ปุ่นแน่นอนว่าต้องเป็นชีส การกินชีสยืดๆ กลายเป็นเทรนด์มาให่ กินอย่างไรให้ตะมุตะมิต้องกินชีสร้านนี้เลยค่ะ เซย์ชีสร้านนี้เป็นร้านชื่อดังจากฮอกไกโดประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีความเหนียวมาก ยืดได้ยาวโดยที่ไม่ขากแต่ก็จะมีความนุ่มเมื่อได้ลองกัด กินคู่กับขนมปัง

ขนมปังที่ประกบกับชีสมี 3 รสชาติให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นรสนมฮอกไกโดกับชีสเป็นรสชาติออริจินัล และ รสชาโคลชีส กับช็อกโกแลตชีส

โชว์ความยืดของชีสว่าจะยืดได้สุดๆ แค่ไหน

ร้านเซย์ชีสจะเป็นกล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ซึ่งอยู่บริเวณหน้าเซ็นเตอร์พอยท์ ซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกับ ร้านบงกูซและ ชูโรส ซึ่งร้านเปิดใหม่ของหน้าเซ็นเตอร์พอยท์จะมีทั้งหมดสามร้านค่ะ เราจะ move เข้าไปในห้างกันค่ะ ไปต่อกันอีกสองร้านเท่านั้น วันนี้ก็จะเสร็จสิ้นภารกิจ

กดลิฟท์ขึ้นตรงมาที่ชั้น 4 มาเบาๆ ดูแลสุขภาพกันสักหน่อย กับร้าน Natural Rich ใครที่รักความเฮลตี้ต้องมาลอง ร้านนี้ซื้อกลับบ้านเท่านั้น มีขนม อาหารและเครื่องดื่มสำหรับสายคลีนโดยเฉพาะ

หน้าตาขนมเอาใจสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มกินคลีนที่กลัวไม่อร่อยหรือกลัวกินไม่ถูกวิธีแคลอรี่เกินรึเปล่า แต่สินค้าในร้านนี้จะมีสลาดบอกข้างกล่องว่าทั้งหมดในกล่องนี้มีกี่แคล ได้ทั้งของอร่อยและสุขภาพดีไปพร้อมๆ กัน แถมแพคเกจจิ้งเหมาะกับการซื้อไปเป็นของฝากได้

ถัดมาคือร้าน ต้มตุ๋น Shabu ที่อยู่เยื้องๆ กับ Natural Rich ร้านชาบูที่มาเปิดเป็นสาขาที่ 2 แล้ว สาขาแรกอยู่ที่สามย่าน ซอยจุฬาลงกรณ์ 48 แล้วขยายสาขามาอยู่ที่สยาม

มีทั้งแบบบุฟเฟต์ และ A La Carte หากสั่งแบบบุฟเฟ่ต์คิดหัวละ 359 บาทเท่านั้น เป็นราคานักศึกษา ราคาโดนใจมาก มีเมนูสั่งไม่อั้นทั้งหมดกว่า 30 เมนู หากใครรู้ตัวว่ากินไม่คุ้ม กินน้อยรักษาหุ่นก็สั่งแบบอาลาคาทได้สั่งเท่าไหร่จ่ายเท่านั้นเมนูจะเหมือนกันต่างแค่ตรงอาลาคาทจะมีแบบเป็นชุดคือชุดหมูและเนื้อ

น้ำซุปมี 3 รสชาติให้เลือกไม่ว่าจะเป็นซุปปรองดอง ซุปสุกี้อ่อนโยน และซุปขาวเนียน ส่วนน้ำจิ้มก็มี 3 รสชาติด้วยเช่นกัน จะมี เต้าเจี้ยว พอนซึ และน้ำจิ้มสุกี้ ส่วนตัวแล้วชอบทุกรสชาติของจิ้มเลยค่ะ จิ้มได้ตามใจชอบหรือจะเอามาผสมกันก็ไม่มีใครห้ามค่ะ

แหล่งรวมของดีทุกแบบทุกสไตล์อยู่ที่สยามหมดแล้ว ไม่ต้องไปหลายที่ให้เหนื่อย ของอร่อยเยอะแบบนี้ขออยู่ทั้งวันเลยจ้าา…

เรียบเรียง : Food.MThai

จับ “เย็นตาโฟต้มยำ” มาลงหม้อชาบู แล้วกินกันให้หนำใจในราคาแค่ 299 บาท

จะกินชาบู – สุกี้ให้อร่อย นอกจากน้ำจิ้มต้องครบรสแล้ว น้ำซุปก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะมองข้ามไปไม่ได้เลยนะ เพราะทั้งเอาไว้ซดร้อนๆ แล้วยังช่วยเพิ่มความอร่อย เวลาที่ปล่อยให้รสชาติของน้ำซุปแทรกซึมเข้าไปในบรรดาเนื้อหมู เนื้อไก่ ลูกชิ้น และบรรดาเครื่องชาบูทั้งหลายอีกด้วย แต่ครั้นจะมาในรูปของน้ำซุปแบบเดิมๆ มันก็น่าเบื่อไปหน่อยใช่มั้ยล่ะ

อย่างที่ Hot Pot Buffet ซุปบูเดชิเกเค้าก็เคยมีแล้ว ซุปต้มยำมันกุ้งแซ่บๆ ก็มีแล้ว ยังขาดน้ำซุปอะไรอีกน้า ที่มันจะอร่อย เมื่อจับมาเข้าคู่เนื้อสัตว์ต่างๆ ลูกชิ้นสารพัดชนิด และผักมากมายที่เรียงรายอยู่ที่บุฟเฟต์บาร์

คำตอบก็คือ “ซุปเย็นตาโฟต้มยำ” ไงล่ะ! ลองคิดถึงกลิ่นหอมๆ และรสชาติเฉพาะตัวของเย็นตาโฟดูสิ มันเข้ากันได้ดีเลยนะ ยิ่งมีเสิร์ฟพร้อมหนังปลาแซลมอน ยิ่งฟินกับพวกลูกชิ้นต่างๆ และเนื้อสัตว์นุ่มๆ ทั้งเนื้อ หมู ไก่ และหัวปลาแซลมอน (เมนูใหม่ไม่ได้หาทานง่ายๆ นะ)

ไปถึงก็จัดเลย! ตักลูกชิ้นต่างๆ ทั้ง ลูกชิ้นกุ้ง ลูกชิ้นปลา หมูห่อสาหร่าย ปลาหมึกแช่ เกี๊ยว ลูกชิ้นแคะ ผักบุ้ง และเห็ดหูหนูขาว จับลงหม้อแล้วรอน้ำซุปเดือดปุดๆ ได้เลย พอน้ำซุปเดือดแล้ว แนะนำให้ปล่อยทิ้งไว้สักพักนะ รอให้รสชาติของน้ำซุปค่อยๆ กำซาบเข้าไปพวกลูกชิ้นอีกสักนิด เวลาเคี้ยวจะฟินมาก

จากนั้นก็ไปต่อกันที่เนื้อสัตว์บ้าง จัดแจงไปตัก เนื้อหมูสไลซ์ เนื้อหมูหมัก เบคอน หมึกทรงเครื่อง และหัวปลาแซลมอนมาเลย จับหัวปลาแซลมอน ใส่ลงในหม้อ ให้ความหวานจากเนื้อปลาและไขมันโอเมก้าอันแสนจะมีประโยชน์ ได้แทรกซึมอยู่ในน้ำซุปก่อนนะ แล้วค่อยจับหมูสไลซ์ หมูหมัก และเบคอนลงไปแกว่งในน้ำซุปให้แค่พอสุก อย่าลวกนาน เพราะเนื้อหมูและเบคอนจะสุกเกินไปจนเสียความเหนียวนุ่ม

และด้วยความที่น้ำซุปเย็นตาโฟมีรสชาติที่เข้มข้นอยู่แล้ว ทั้งเปรี้ยวเค็มและหวานนิดๆ ก็สามารถตักซดได้เลย ไม่ต้องเติมอะไร ส่วนน้ำจิ้ม ใครชอบใส่รสจัดๆ ก็ตักพริกกระเทียมลงไปให้หนักๆ เลย

บุฟเฟต์ที่ Hot Pot Buffet แค่หัวละ 299 บาทเท่านั้น กินได้หนึ่งชั่วโมงครึ่ง แถมไม่ได้มีแค่บุฟเฟต์ชาบูเท่านั้น แต่ยังมีโซน ติ่มซำ, อาหารจานร้อน เช่น ข้าวผัด สปาเก็ตตี้ ปลานึ่งซีอิ๊ว, ของทอดต่างๆ เช่น กุ้งเทมปุระ ทาโกะยากิ ไก่ทอด, ซูชิหลากหลายหน้า และของหวานให้เลือกด้วยนะ มันช่างคุ้มค่าจริงๆ

ขอบคุณข้อมูลจาก: Food MThai

100 องศา กระทะเดือด น้ำซุปยูนิคแบบที่ไม่มีใครเหมือน

มีร้านอาหารประเภทหม้อต้มแบบนี้มากันอีกแล้ว แต่มีความแตกต่างจากร้านอื่นๆ หม้อต้มร้านนี้ไม่ใช่สุกี้และก็ไม่ใช่ชาบู หากได้มาลองสัมผัสดูก็จะรู้ถึงความแตกต่างแน่นอน กับร้าน 100 องศา กระทะเดือด ตั้งอยู่เลี่ยงเมืองปากเกร็ด สนามฟุตบอล The Pop Soccer

ร้อนกว่านี้ก็ร้านนี่แหละ!! 100 องศา กระทะเดือด น้ำซุปยูนิคแบบที่ไม่มีใครเหมือน

100 องศา กระทะเดือด ความเดือดยิ่งกว่าองศาความร้อนที่อยู่นอกร้านเสียอีก ด้วยเมนูจัดเต็มแบบถึงเครื่อง รสชาติที่กลมกล่อม แซ่บ และเผ็ดดุ มีให้เลือกหลายระดับ จะเผ็ดน้อย เผ็ดกลาง หรือเผ็ดมากก็ขึ้นอยู่ว่าจะเลือกให้เข้ากับน้ำซุปชนิดใดนั่นเอง น้ำซุปมีให้เลือกทั้งหมด 8 ชนิด ส่วนขนาดของกระทะไม่ใหญ่ไปหรือเล็กไป ถ้าจะกินให้อิ่มแบบแน่นพอดีคน คนเดียวก็สามารถทานได้ หรือ 2 คนก็ยังได้ค่ะ แล้วแต่ความสามารถในการทานของแต่ละคน

กระทะเดือดเป็นเมนูเซต ที่เลือกเซตเลือกชนิดของของน้ำซุป เช่น ซุปกิมจิ ก็จะใส่ส่วนประกอบที่ทางร้านจัดไว้ว่ากินกับซุปกิมจิแล้วจะเข้ากัน เช่น ต๊อกปกกิ วากาเมะ เต้าหู เนื้อหมูสไลด์เป็นต้น

ทั้งนี้ยังสามารถมาเติมได้ เช่น ผัก เนื้อหมู เครื่องเคียงต่างๆ ที่กินกับกระทะเดือด ส่วนความร้อนของกระทะไม่ต้องห่วง พนักงานจะเติมไฟให้ตลอดเวลาที่ต้องการ และเติมน้ำซุปให้แบบจุใจแน่นอน ส่วนเส้นที่มากับกระทะร้อนเราเป็นคนเลือกได้ 1 กระทะต่อ 1 อย่าง เช่น ข้าว เส้นแก้ว วุ้นเส้น ราเมน อูด้ง

ส่วนรสชาติเผ็ดแน่นอนต้องถูกปากคนไทยแน่นอน ใครที่ชอบทานเผ็ดสั่งเผ็ดระดับสุดไปเลยค่ะ จะได้ความเผ็ดสมใจอย่างแน่นอน ส่วนใครที่มากับเด็กๆ แนะนำให้สั่งซุปมิโสะ รสชาติกลมกล่อมมากๆ

100 องศา กระทะเดือด (เมนู Signature)

มิโซะ กระทะเดือด

กิมจิ กระทะเดือด

มหาสมุทรกระทะเดือด

ส่วนราคาก็ตามชนิดของน้ำซุปเลยค่ะ แต่ความอร่อยยังไม่หมดแค่นี้ ของทานเล่นก็น่าสนใจอยู่เหมือนกัน ทั้งเครื่องดื่มที่มีมากมายหลายอย่างให้เลือก

หลังจากเช็คบิลอิ่มกันเต็มที่แล้ว ทางร้านจะเสิร์ฟ Good Bye Drink ให้เลยฟรีๆ ในแก้วนี้คือน้ำลิ้นจี่ที่ผสมกับเม็ดแมงลัก นอกจากช่วยย่อยแล้วความเผ็ดนั้นยังหายไปอีกด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก: Food MThai