หนีร้อน หลบฝน มุ่งสู่ 9 ที่เที่ยวต่างประเทศ น่าไปในเดือนพฤษภาคม

9 ที่เที่ยวต่างประเทศ
น่าไปในเดือนพฤษภาคม

ย่างเข้าเดือนพฤษภาคมกันแล้ว ใครที่ชีพเจ้าลงเท้า แอบส่องราคาตั๋วเครื่องบินเวลาทำงานทุกวัน แต่ก็ยังไร้แพลนว่าจะไปไหนดี เราได้รวบรวม 9 ที่เที่ยวต่างประเทศ ที่หมาะสุดๆ กับการไปเยือนในเดือนพฤษภานี้ เพราะดีทั้งอากาศ ดีทั้งวิว ที่พักก็ถูก แถมมีงานอีเวนท์ คอนเสิร์ต รอคุณไปสนุกสนานอยู่เพียบ ไปดูกันเลยว่าจะมีเมืองไหน ประเทศใดบ้าง

  1. แอชวิลล์, รัฐนอร์ทแคโรไลน่า

เดือนพฤษภาคม นับเป็นเดือนที่เหมาะแก่การไปเที่ยวเมืองที่รายล้อมไปด้วยขุนเขา อย่าง เมืองแอชวิลล์ รัฐนอร์ทแคโรไลน่า สหรัฐอเมริกา ที่นั่น คุณจะได้สัมผัสกับอากาศบริสุทธิ์ ทั้งยังเป็นสวรรค์ของคนที่รักในเสียงดนตรี รักการจิบเบียร์เย็นๆ ท่ามกลางบรรยากาศสุดชิลล์ ที่สำคัญคือ มาเที่ยวในเดือนพฤษภาคมนี้ ยังได้สนุกกับเทศกาล LEAF Festival (10-13 พฤษภาคม) และ Montford Music and Arts Festival (19 พฤษภาคม)

************************************************************

  1. เมมฟิส, รัฐเทนเนสซี

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่หลงใหลในการกินแล้วล่ะก็ เมืองเมมฟิสนี่แหละ เวิร์คสุดๆ บาร์บีคิวที่นี่เริ่ดมากๆ ยิ่งเนื้อซี่โครงนี่ฟินสุดๆ และถ้าใครที่เป็นแฟน Elvis ด้วยแล้ว ต้องไม่พลาดมาเยือน เกรซแลนด์ (Graceland) คฤหาสถ์หลังงามของราชาร็อคแอนด์โรลล์ ที่พำนักสุดท้ายก่อนที่เขาจะเสียชีวิต ปัจจุบันได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของ เอลวิส เพรสลีย์ (Elvis Presley) ทั้งสิ้น

Graceland

Credit : mrfood

อีกหนึ่งไฮไลท์เด็ดเลยก็คือเทศกาล Memphis in May International Festival ที่จัดขึ้นปีละครั้ง ระหว่างวันที่ 4 – 26 พฤษภาคม โดยภายในงานจะมีการแสดงดนตรี ศิลปะ และการแสดงที่ทำให้เห็นถึงวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ของคนในแต่ละประเทศ นอกจากนี้ภายในงานยังจะมีการประกวดทำบาร์บีคิว อีกหนึ่งการประกวดที่โด่งดังระดับโลก ที่รับรองว่าสายกินต้องเลิฟมากแน่ๆ

************************************************************

  1. อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน (Yellowstone)
    สหรัฐฯ

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบการเที่ยวธรรมชาติแล้วล่ะก็ ที่นี่ก็ตอบโจทย์มากๆ เพราะ อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน แห่งนี้ นับเป็นอุทยานแห่งแรกของโลกและของสหรัฐอเมริกา มีบ่อน้ำร้อนและน้ำพุร้อนรวมกันมากกว่า 10,000 แห่ง นอกจากนี้ยังมีสัตว์ป่าที่น่าสนใจมากมายเช่น หมีกริซซี่ (Grizzy Bear) หมีดำ (Black Bear) ควายป่าไบซัน กวางมูส (Moose) กวางเอลค์ (Rocky Mountain Elk) แพะภูเขา บิ๊กฮอร์น (Bighorn sheep) แมวปา (Lynx)

************************************************************

  1. แวนคูเวอร์, ประเทศแคนาดา

เหตุผลที่ทำให้แวนคูเวอร์ กลายเป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่ไปเยือนแคนาดาในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ก็คือวัฒนธรรมอันโดดเด่นและวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม รวมไปถึงอาหารหลากหลายชนิด

อีกอย่าง อากาศช่วงนี้ก็กำลังดี พอให้ไปเดินเล่นฟินๆ กันที่ สวนสาธารณะสแตนเลย์ (Stanley Park) หรือไปชมงานศิลป์สวยๆ ในแกลเลอรี่ ฟังเพลงเพราะๆ เดินดูของทำมืออาร์ตๆ กินอาหารแสนอร่อย กันที่ แกรนด์วิลล์ ไอซ์แลนด์ (Grandville Island) ถ้ายังไม่จุใจก็ไปเดินเล่นกันต่อที่ แกสทาวน์ (Gastown) สัมผัสเสน่ห์ของไชน่าทาวน์อีกแห่งที่ใหญ่ที่สุดในแคนาดา

************************************************************

  1. กุสโก, ประเทศเปรู

เดือนพฤษภาคม นับเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเที่ยวเมืองกุสโก (Cusco) เมืองหลวงเก่าของจักรวรรดิอินคา เมืองนี้ยังเป็นทางผ่านไปยัง มาชูปิกชู ซากอารยธรรมโบราณที่ องค์กรยูเนสโก ประกาศให้เป็นมรดกโลก ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวในใจของใครหลายๆ คน นอกจากนี้ มาเที่ยวเมืองกุสโก ยังจะได้สัมผัสกับความสวยงามของโบสถ์แบบโคโลเนียล และกลิ่นอายความเป็นอยู่ของคนในจักรวรรดิเก่าแก่อย่างอินคาอีกด้วย นับเป็นสวรรค์ของคนรักประวัติศาสตร์เลยก็ว่าได้

************************************************************

  1. ริโอ เด จาเนโร, ประเทศบราซิล

เดือนพฤษภาคม เป็นเดือนที่นักท่องเที่ยวที่นี่เริ่มซา ราคาห้องพักก็เริ่มถูกลง เดินเล่นชิลล์ๆ ที่ชายหาดอิปานีมา ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ แถมยังไม่ต้องเบียดเสียดกับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ยิ่งถ้าเป็นคอบอลแล้วล่ะก็ อย่าลืมเช็ครอบแข่งที่สนามกีฬามารากานังด้วยล่ะ เพราะมีแมตช์เจ๋งๆ รออยู่ตลอดทั้งเดือน

นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่โด่งดังมาก ก็คือ รูปปั้นของพระเยซู ชื่อ Christ of Redeemer นับว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และ ได้รับการโหวตให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ ด้วย

************************************************************

  1. ลิสบอน, ประเทศโปรตุเกส

ลิสบอน เมืองหลวงของประเทศโปรตุเกสแห่งนี้ เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมสุด colorful แหล่งศึกษาประวัติศาสตร์ ถนนหนทางสวยๆ มาเที่ยวช่วงนี้อากาศกำลังดี เหมาะแก่การไปเดินทอดน่องเพลินๆ ริมทะเลอย่าง หาดกุนโช (Guincho Beach) เป็นชายหาดในมหาสมุทรแอตแลนติกที่สวยที่สุดของโปรตุเกส  แล้วก่อนกลับก็อย่าลืมไปเช็คอิน ชมวิว ถ่ายรูปเก๋ๆ กันที่แลนด์มาร์คสำคัญ อย่าง Belém Tower เป็นหอคอยริมแม่น้ำเทกัส (Tagus) สร้างด้วยหินอ่อน มีความสูงกว่า 30 เมตร

หอคอยบีเล็ม (Belém Tower)

************************************************************

  1. ฟลอเรนซ์, ประเทศอิตาลี

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบเสพงานศิลป์สวยๆ ชอบเที่ยวไปกินไปเพลินๆ แล้วล่ะก็ ฟลอเรนซ์ ก็นับเป็นอีกเมืองที่ต้องไปเยือนให้ได้ ที่นี่นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยพิพิธภัณฑ์ศิลปะระดับโลก เต็มไปด้วยโบสถ์สวยๆ หากมาเที่ยวในเดือนพฤษภาคม แน่นอนว่าจะได้เสพงานศิลป์ ท่ามกลางเทศกาลศิลปะวัฒนธรรมมากมายให้เลือกกันนับไม่ถ้วน

สะพานเวคคิโอ (Ponte Vecchio)

สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ เช่น สะพานเวคคิโอ (Ponte Vecchio) ถือเป็นสะพานที่เก่าแก่สุดของเมือง เพราะอยู่มาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกที่หนึ่งคือ มหาวิหารซานตา โครเซ่ (Basilica di santa Croce) ภายในเป็นที่ฝังศพของ ไมเคิลแองเจโล และกาลิเลโอ รวมถึงบุคคลชาวอิตาลีในช่วงเวลา 500 ปี อีกหลายคน

************************************************************

  1. บูดาเปสต์, ประเทศฮังการี

บูดาเปสต์ เมืองที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมสวยๆ ที่ผสมผสานทั้งสถาปัตยกรรมรูปแบบเก่า และแบบสมัยใหม่เข้าไว้ด้วยกัน  ไม่ว่าจะเป็น มหาวิหารเซนต์สตีเฟน, อาคารรัฐสภาฮังการี ใกล้ๆ กับรัฐสภายังมี สะพานเชน (Chain Bridge) เป็นสะพานข้ามแม่น้ำดานูบ ที่อนุญาตให้เดินข้ามได้ในเวลากลางคืน ขอบอกเลยว่าวิวยามค่ำสวยงามจับใจ แต่ทริปบูดาเปสต์จะสมบูรณ์ไม่ได้เลย ถ้าไม่ได้ไปแช่อ่างน้ำร้อน (Thermal Baths) กิจกรรมไฮไลท์เด็ดของเมือง

เป็นยังไงกันบ้างกับที่เที่ยวที่เรานำมาเสิร์ฟกันวันนี้ ที่ไหนโดนใจ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เพื่อนๆ ก็จองตั๋วแล้วไปจัดกันเลยด่วนๆ รับรองว่าวันหยุดธรรมดาๆ จะกลายเป็นวันที่แสนวิเศษเชียวล่ะ

Source : businessinsider

 

อะเมซิ่ง! 15 ภาพสะพานลอยสำหรับสัตว์ (Animal Bridges) ช่วยชีวิตได้นับพัน

อะเมซิ่ง! 15 ภาพสะพานลอยสำหรับสัตว์ (Animal Bridges) ช่วยชีวิตได้นับพัน

01

ในปัจจุบันมีสัตว์นับร้อยนับพันชีวิตที่ต้องสูญเสียหรือบาดเจ็บ จากการถูกยานพาหนะเฉี่ยวชน และปัญหานี้ก็ทำให้เกิดไอเดียดีๆ นี้ขึ้น “สะพานลอยสำหรับสัตว์” ที่สามารถช่วยชีวิตพวกมันได้นับพันชีวิตต่อปี! โดยไอเดียสะพานลอยสำหรับสัตว์นี้ สร้างขึ้นครั้งแรกที่ประเทศฝรั่งเศส ในปี 1950 มีชื่อว่า the Natuurbrug Zanderij Crailoo และเป็นสะพานข้ามถนนสำหรับสัตว์ที่ยาวที่สุดอีกด้วย ต่อมาก็ได้มีการสร้างในอีกหลายประเทศ ดูแล้วสวยแปลกตา แถมยังช่วยชีวิตสัตว์ได้อีกมากมาย

  1. สะพานเกาะคริสต์มาส (Christmas Island) สำหรับปู ประเทศออสเตรเลีย

02

  1. สะพานลอยสำหรับสัตว์ ประเทศเนเธอร์แลนด์

03

  1. ท่อทางเดินสำหรับเต่า ประเทศญี่ปุ่น

04

  1. สะพานลอยสำหรับสัตว์ ใน Banff National Park ประเทศแคนนาดา

05

06

  1. สะพานลอยสำหรับสัตว์ สร้างอยู่เหนือ ออโตบาห์น (Autobahn) หรือ  ทางหลวงพิเศษในประเทศเยอรมนี

07

  1. สะพานลอยสำหรับสัตว์ ประเทศสิงคโปร์

08

  1. สะพานลอยเชือก สำหรับนก เหนือ Hume Freeway รัฐวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย

09

  1. หมี ที่กำลังเดินออกมาจากอุโมงค์ ที่สร้างขึ้นใต้ทางหลวง ในประเทศแคนนาดา

10

  1. สะพานลอยสำหรับสัตว์ ที่ นอร์ทบราแบนต์ ตั้งอยู่ทางตอนใต้ ของ ประเทศเนเธอร์แลนด์

11

  1. สะพานลอยสำหรับสัตว์ ณ รัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา

12

  1. สะพานลอยสำหรับ ลิง และสัตว์ชนิดอื่นๆ ที่ รัฐบาเอีย ประเทศบราซิล

13

  1. สะพานข้ามถนน ใกล้กับ ทะเลสาบ Keechelus รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา

14

  1. ท่อทางเดินสำหรับสัตว์ ใต้ไฮเวย์ ประเทศฟินแลนด์

15

  1. รัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา

16

  1. สะพานลอยสำหรับสัตว์ ประเทศเยอรมัน

17

Source : www.boredpanda.com

เรียบเรียงโดย: Travel MThai

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ดูกี่ที่ก็ไม่เบื่อ! ภาพมุมสูง วิวพาโนรามา เมืองต่างๆ รอบโลก

ดูกี่ที่ก็ไม่เบื่อ! ภาพมุมสูง วิวพาโนรามา เมืองต่างๆ รอบโลก

01

ภาพมุมสูง หรือ Bird’s Eye View ในปัจจุบันนี้ ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะในปัจจุบันมี โดรน กล้องที่ถ่ายทางอากาศได้แล้ว ซึ่งทำให้เราได้เห็นวิวแบบมุมสูง แบบพาโนรามา สุดลูกหูลูกตา ที่ดูแตกต่างไปจากเดิม อย่างเช่น ภาพมุมสูงเมืองต่างๆ รอบโลก ไม่ว่าจะดูกี่ที่ก็ไม่เบื่อจริงๆ ^^

ภาพถ่ายมุมสูงเมืองต่างๆ ทั่วโลกนี้ เป็นฝีมือของช่างภาพชาวรัสเซีย ร่วมมือกับช่างภาพอีกหลายๆ คน ในโปรเจค AirPano เป็นภาพถ่ายไม่แสวงหาผลกำไร แต่เดิมนั้นช่างภาพจะมีการถ่ายภาพมุมสูงที่แตกต่างกันไป เช่น ใช้เครื่องบิน บอลลูน โดรน เป็นต้น เรียกได้ว่าแต่ละภาพนั้นสวยมากๆ ทำให้เราได้เห็นสิ่งก่อสร้างและธรรมชาติ ในอีกมุมมอง

ซากราดาฟามีเลีย (Sagrada Familia)

สถาปัตยกรรมประจำเมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน

02

นิวเดลี (new delhi)

เมืองหลวงของประเทศอินเดีย

03

ดูไบ (Dubai)

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

04

ปารีส (Paris)

เมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส

05

Westerdok

เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์

06

ดูไบ (Dubai)

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

07

ซีแอตเทิล (Seattle)

รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา

08

ซีเอนา (Siena)

ประเทศอิตาลี

09

ป้อมอัครา (Agra Fort)

อนุสรณ์สถานสำคัญ และมรดกโลก เมืองอัครา รัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย

10

ปรัมบานัน (Prambanan)

เทวสถานในศาสนาฮินดูที่ใหญ่ที่สุดใน ประเทศอินโดนีเซีย

11

บัวโนสไอเรส ( Buenos Aires )

เมืองหลวง เมืองใหญ่ที่สุด และเมืองท่าของประเทศอาร์เจนตินา

12

กังกุน (Cancun)

เมืองชายฝั่งทางรัฐตะวันออกสุดของประเทศเม็กซิโก

13

มาดริด (Madrid)

เมืองหลวง และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสเปน

14

เชสกีกรุมลอฟ (Ceský Krumlov)

สาธารณรัฐเช็ก

15

เวียนนา (Vienna)

เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย

16

รีโอเดจาเนโร (Rio De Janeiro)

เมืองหลวงของรัฐรีโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล

17

บูดาเปสต์ (Budapest)

เป็นเมืองหลวงของประเทศฮังการี

18

พาราณสี (Varanasi)

เมืองหลวงของแคว้นกาสี ปัจจุบันตั้งอยู่ในรัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย

19

อัมสเตอร์ดัม (Amsterdam)

ประเทศเนเธอร์แลนด์

20

Monument To The Mexican Revolution

เม็กซิโกซิตี เมืองหลวง และเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเม็กซิโก

21

Source : www.boredpanda.com

เรียบเรียงโดย: Travel MThai