20 ที่เที่ยวหน้าหนาว ที่หนุ่มสาวเว้าวอนอยากไป

เมื่อเตือนตุลาฯ พ้นผ่าน เป็นสัญญาณเตือนแห่งลมหนาว ที่กำลังเคลื่อนตัวมา หลายพื้นที่ในประเทศไทยอากาศก็เริ่มหนาวกันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน หรือแถบเทือกเขาสูงของผืนป่าตะวันตก ทัศนียภาพและธรรมชาติต่างเพียบพร้อมรอให้ทุกท่านไปชมความงามของพวกเขาแล้ว ชื่นชมเพียงอย่างเดียวนะครับ อย่าทำลาย ที่สำคัญต้องรักษากฎของสถานที่ด้วย ความสวยงามของธรรมชาติจะได้คงอยู่ให้เราดูไปอีกนาน …

แนะนำที่เที่ยวหน้าหนาว ที่หนุ่มสาวเว้าวอนอยากไป

travel.mthai.com ขอพาทุกท่านล่องลอยไปกับ 20 ที่เที่ยวหน้าหนาว เดินป่าขึ้นเขา ชมความงามของยอดดอย พร้อมนั่งคอยพระอาทิตย์ที่กำลังไปทำงานยามขึ้น และกลับจากทำงานในตอนเย็น เป็นทิวทัศน์ที่คนชอบถ่ายภาพจะต้องมีติดกล้องไว้ เพราะเมื่อภูเขา ทุ่งหญ้า สายหมอก และพระอาทิตย์ มาเจอกัน ความมหัศจรรย์จึงเกิดขึ้น

  1. ดอยแม่สลอง

ดอยแม่สลอง อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ดินแดนแห่งไร่ชา แถมยังอบอวลไปด้วยวัฒนธรรมชาวจีน ไม่ว่าจะการแต่งกาย หรือ อาหารการกิน ซึ่งโดยเฉพาะอาหารนั้น จะเป็นที่ขึ้นชื่อลือชาเป็นอย่างยิ่ง อย่างเช่น ขาหมูยูนาน ที่เสิร์ฟมาในจานใหญ่ และต้องกินเคียงคู่กับหมั่นโถเท่านั้น ถึงจะเรียกว่าต้นตำหรับ อีกสิ่งที่พลาดไม่ได้คือ การลิ้มลองชาพันธุ์แท้ ตลอดจนชมวิธีการชงชาแบบต้นตำหรับชาวจีนฮ่อ ซึ่งการเดินทางก็มาได้สะดวก หากมีโอกาสช่วงปลายปีนี้ ลองแวะไปสัมผัสบรรยากาศที่หนาวเย็น ชมวิวสวย ๆ พร้อมจิบชาอุ่น ๆ บนถนนพญาเสือโคร่งกันดู

  1. กิ่วแม่ปาน ดอยอินทนนท์

เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน มีระยะทางการเดิน 3 กิโลเมตร มีทั้งเดินในป่าและสันดอย ทางเดินจะวนเป็นวงกลม เสียค่าเข้าคิดเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 200 บาท ระหว่างการเดินจะมีพี่ไกด์ท้องถิ่นคอยนำทางพร้อมให้ข้อมูลตลอดทาง ทางเดินในกิ่วแม่ปานเดินง่าย มีทางลาดชันบ้างเล็กน้อย ถือว่าเหมาะกับมือใหม่ ตลอดเส้นทางคุณจะได้สัมผัสกับป่าดิบชื้นมีมอส และเฟิร์นขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น ป่าดิบเขา เหล่าต้นไม้สูงใหญ่ แข่งกับความสูงชันของพื้นดิน แถมอากาศที่นี่ยังหนาวและบริสุทธิ์ เพราะมีแหล่งกำเนิดโอโซนรายล้อมเต็มไปหมด

  1. ดอยเสมอดาว

ดอยเสมอดาว เป็นสถานที่ท่องเที่ยวกางเต็นท์พักแรมยอดฮิตอีกแห่งหนึ่งในอุทยานแห่งชาติศรีน่าน อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน เนื่องจากเป็นบริเวณจุดชมวิวอีกที่มีพื้นที่เป็นลานกว้างตามสันเขา เหมาะสำหรับการพักผ่อน นอนดูดาวยามอาทิตย์อัสดง และชมทะเลหมอกพร้อมตะวันโด่งในยามเช้า อากาศบนดอยเสมอดาว ในช่วงบ่ายค่อนข้างร้อน แต่ทันทีที่ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีส้มปนเหลืองทอง อุณหภูมิรอบตัวก็กลับลดลงอย่างรวดเร็ว เหลืองเพียงสายลมเย็น ๆ พัดผ่านผิวกายให้กลุ่มนักเดินทางต้องเป่าปากกันเป็นแถว

  1. ลานหินปุ่ม ภูหินร่องกล้า

ลานหินปุ่ม อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จ.พิษณุโลก มีทั้งสถานที่ประวัติศาสตร์อย่างพิพิธภัณฑ์การสู้รบ โรงเรียนการเมืองการทหาร กังหันน้ำ สำนักอำนาจรัฐ โรงพยาบาลรัฐ ลานอเนกประสงค์ สุสาน ที่หลบภัยทางอากาศ หมู่บ้านมวลชน และมีสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นอย่าง ลานหินปุ่ม และผาชูธง เป็นจุดดึงดูดที่สำคัญ โดยเฉพาะลานหินปุ่ม มีลักษณะเป็นลานหินซึ่งมีหินผุดขึ้นมาเป็นปุ่มเป็นปม ขนาดไล่เลี่ยกัน คาดว่าเกิดจากการสึกกร่อนตามธรรมชาติของหิน ในอดีตบริเวณนี้ใช้เป็นที่พักฟื้นคนไข้ของโรงพยาบาล เนื่องจากอยู่บนหน้าผา มีลมพัดเย็นสบาย

  1. ดอยเมี่ยง

ดอยเมี่ยง สวรรค์เมืองหมอกป้ายแดงแห่ง อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ที่ปักหมุดอยู่สูงประมาณ 1,600 เมตร ในพื้นที่ป่าดิบชื้นและภูเขาสูงชันสลับซับซ้อน เต็มไปด้วยพันธุ์ไม้หลายชนิด เช่น ต้นสน ต้นพญาเสือโคร่ง ต้นมะค่า ความสุขคือการไปสัมผัสธรรมชาติ ณ จุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพทิวทัศน์ของเมืองปายได้อย่างสวยงาม แบบสุดสายตา 360 องศา ท่ามกลางมวลอากาศหนาวเย็นและมีลมพัดเย็นสบาย

  1. ภูกระดึง

ภูกระดึง แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดเลย แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเข้ามาสัมผัสอากาศที่หนาวเย็นกว่า 100,000 คน ไฮไลท์สำคัญในหน้าหนาวคือการเดินเข้าป่าไปชมความงามของพืชพรรณนานาชนิด โดยเฉพาะใบเมเปิ้ลแดงสวยสด การเดินไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น ชมพระอาทิตย์ตกที่ผาหมากดูก หรือถ้าจะให้ดี ต้องเดินไปชมให้ถึงสุดแผ่นดินด้านทิศตะวันตกอบ่าง “ผาหล่มสัก” แลนด์มาร์กสำคัญของภูกระดึง สถานที่ที่หลายคนขึ้นมาหลายรอบโดยไม่เบื่อ เพราะภูกระดึง สวยงามแตกต่างกันไปในทุกฤดู

  1. เขาพะเนินทุ่ง

“เขาพะเนินทุ่ง” อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ยอดเขาสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ1,207 เมตร ในช่วงเช้าจะมองเห็นกลุ่มควันแห่งความหนาวสีขาวนวลปกคลุมทั่วหุบเขา เมื่อเริ่มจางลงบริเวณเบื้องล่างจะปรากฏภาพป่าดงดิบอันแสนชุกชุม มีเทือกเขาสลับซับซ้อนกว้างไกลสุดตาอยู่ด้านหลังโดยจุดชมทะเลหมอกจะมีอยู่ 2 แห่งคือ จุดชมวิวกิโลเมตรที่30 และ 36 สำหรับช่วงที่ทะเลหมอกถูกยอมรับว่างดงามรวมถึงมีอากาศเย็นสบายที่สุด คือตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน เป็นต้นไป

  1. ดอยม่อนจอง

ดอยม่อนจอง ตั้งอยู่ในเขตลึกของป่าอมก๋อย จ.เชียงใหม่ ทิศตะวันออกจรดเขื่อนภูมิพล ทิศตะวันตกติดกับถนนสายอมก๋อย-บ้านแม่ตื่น ทิศเหนือจรดกับพื้นที่อำเภอดอยเต่า ทิศใต้จรดกับลำห้วยแม่ตื่นที่ไหลลงสู่เขื่อนภูมิพล สูงติดอันดับ 1 ใน 10 ของยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย จุดสูงสุดของ ดอยม่อนจอง เรียกว่า หัวสิงห์ เพราะมีลักษณะคล้ายหัวสิงโต ดอยม่อนจอง เป็นสถานที่ชมพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก ที่สวยงามมากอีกแห่งหนึ่ง แถมยามค่ำคืนยังสามารถนอนคุดคู้นับดาวกันตัวสั่น เพราะอากาศบนนั้นหนาวเอาเรื่องเลยล่ะฮะ

  1. มอหินขาว

มอหินขาว ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูแลนคา บ้านวังคำแคน ตำบลท่าหินโงม อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ประกอบด้วยกลุ่มหินทรายสีขาววางเรียงราย จนถูกขนานนามอีกชื่อหนึ่งว่า “สโตนเฮนจ์เมืองไทย” เป็นสวนหินธรรมชาติ ซึ่งเกิดจากการสะสมของตะกอนทรายและดินเหนียวแข็งตัวกลายเป็นหิน ลักษณะของหินกลุ่มต่าง ๆ เกิดจากเคลื่อนไหวของเปลือกโลกบีบอัดจนเกิดการคดโค้ง แตกหัก กัดเซาะทั้งแนวตั้งและแนวนอน สร้างสรรค์เป็นรูปต่าง ๆ ตามจินตนาการของผู้พบเห็น ตอนกลางคืนสามารถนอนดูดาวท่ามกลางอากาศอันหนาวเย็น

  1. ภูชี้ฟ้า

ภูชี้ฟ้า จ.เชียงราย เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,628 เมตร มีลักษณะเป็นยอดเขาที่แหลมชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า ยิ่งตอนที่พระอาทิตย์กำลังขึ้นมาตรงระหว่างปลายยอดเขา จะดูเหมือนเสือคาบแก้วมาก หากรอจนสายหมอกถูกความร้อนระเหยหมดแล้วยังคงมองเห็นสายน้ำโขงไหลคดเคี้ยว ท่ามกลางป่าไม้ของฝั่งลาวที่เขียวสุดสมบูรณ์ ส่วนของหน้าผาเป็นแนวยาวยื่นไปทางฝั่งประเทศลาว ในฤดูหนาวอากาศจะหนาวเย็นจับขั้วหัวใจ

  1. ห้วยคอกหมู สวนผึ้ง

จุดชมวิวห้วยคอกหมู สุดเขตแดนตะวันตก ตั้งอยู่ที่ ต.ตะนาวศรี อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี สูงจากระดับน้ำทะเล 800 เมตร เป็นพื้นที่ของฐานปฏิบัติการร้อย ตชด.137 ตั้งอยู่บนภูเขาสูง เป็นพื้นที่ชายแดนติดกับประเทศเมียนมาร์ มีแนวสันปันน้ำเบื้องล่างเป็นเขตแดน บนจุดชมวิวห้วยคอกหมู นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นภูมิประเทศอันสวยงามของเทือกเขาตะนาวศรี เมื่อมองข้ามไปในฝั่งพม่าจะเห็นต้นไม้ใหญ่และป่าดงดิบที่อุดมสมบูรณ์ มีนกนานาชนิดมากมาย ในช่วงฤดูฝนถึงฤดูหนาว จะมีหมอกปกคลุมหนาแน่น ดุจดั่งทะเลหมอก และในวันท้องฟ้าโปร่ง ที่จุดชมวิวห้วยคอกหมูนี้ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก ที่งดงามอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทยไม่แพ้ภาคเหนือเลยทีเดียว

  1. เขาช้างเผือก

“เขาช้างเผือก” ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี มีความสูงประมาณ 1,249 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง เป็นเส้นทางเดินป่าที่สวยงาม น่าตื่นตาตื่นใจ เส้นทางเดินไปสู่ยอดเขาช้างเผือกเป็นป่าโปร่งสลับกับทุ่งหญ้า มีจุดไฮไลท์ของการเดินทางอยู่ที่ “สันคมมีด” สันเขาที่สวยงามและน่าหวาดเสียวไปพร้อมกัน เมื่อขึ้นไปถึงยอดเขาจะสามารถมองเห็นวิวได้รอบทิศทาง 360 องศา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยยกให้ที่แห่งนี้เป็น 1 ใน 10 Dream Destinations ที่นักท่องท่องเที่ยวควรไปเยือนมากที่สุดอีกด้วย

  1. ภูห้วยอีสัน

ภูห้วยอีสัน จุดชมวิวอันสวยงามแห่งอำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย อันซีนกับทะเลหมอกสามฤดูที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกเช้าตรู่ มองเห็นแม่น้ำโขงและภูเขาสลับซับซ้อน เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งคือการได้ชมวิถีชีวิตของคนท้องถิ่น สัมผัสวัฒนธรรมจากสองฟากฝั่งที่ดูกลมกลืนกันเสมือนเป็นหนี่งเดียวมาช้านาน

  1. ดอยหลวงเชียงดาว

ดอยหลวงเชียงดาว หรือดอยเชียงดาว มีความสูง 2,225 เมตร เป็นยอดเขาสูงอันดับ 3 ของประเทศไทย ตั้งอยู่ใน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ หากคุณขึ้นมาถึงยอดดอยหลวงเชียงดาว คุณจะพบกับอีก 2 ดอยอยู่เบื้องหน้า นั่นก็คือ ดอยสามพี่น้อง และดอยพีรามิด เป็นภาพที่งดงามจับตา ราวกับหลุดมาจากสรวงสวรรค์ ดอยเชียงดาวแห่งนี้ นอกจากจะเต็มไปด้วยผืนป่าและแมกไม้นานาพันธุ์แล้ว ยังมียอดเขาเล็กใหญ่โดยรอบปกคลุมด้วยหมอกจาง ๆ ช่างเป็นทิวทัศน์ชวนฝันอย่างแท้จริง พร้อมมีนกหลากหลายชนิดให้ได้ชื่นชม หรือถ้าโชคดีก็อาจได้เจอกับเจ้ากวางผา เจ้ากวางน้อยในป่าใหญ่ คนรักธรรมชาติไม่ควรพลาด คุณจะได้สัมผัสกับสิ่งเหล่านี้อย่างใกล้ชิดแน่นอน

  1. ปางอุ๋ง

ปางอุ๋ง สถานที่ท่องเที่ยวมาแรง ยอดฮิต ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน จนได้รับขนานนาม ว่าเป็น “สวิตเซอร์แลนด์แห่งเมืองเหนือ” มีลักษณะพื้นที่เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่บนยอดเขาสูง ริมอ่างเก็บน้ำเป็นทิวสนที่ปลูกเรียงราย ปกคลุมร่มรื่นทั่วบริเวณ ถนนทางเข้ามีราชพฤกษ์ต้นใหญ่ ชูช่อดอกสีเหลืองโน้มลงมาต้อนรับผู้มาเยือนตลอดทาง สร้างความสุขให้เราได้ตั้งแต่ก้าวแรกที่มาเยือน ไฮไลท์สำคัญคือการตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นตัดกับไอหมอกสวยงามจับตา

  1. โมโกจู อุทยานแห่งชาติแม่วงก์

ด้วยความสูง 1,964 เมตร จากระดับน้ำทะเล โมโกจู จึงเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดใน อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ จังหวัดกำแพงเพชร อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 27 กิโลเมตร ต้องเดินเท้าเข้าไป ใช้เวลาไป-กลับ 5 วัน ถือเป็นเส้นทางเดินป่าที่โหดหินที่สุดในประเทศไทย มีหมอกปกคลุมจัดบนยอดเขา โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาว เย็นยะเยือก ควันออกปาก พ่นเล่นกันได้ทั้งวัน มองจากยอดเขาลงไปก็จะเห็นทะเลหมอกแห่งป่าตะวันตกอันกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา และพลาดไม่ได้กับจุดที่นักผจญภัยต้องมาถ่ายเป็นที่ระลึกบนยอดโมโกจู นั่นก็คือ “หินเรือใบ”

  1. ภูลังกา

วนอุทยานภูลังกา คือ อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยว ที่มีชื่อเสียงของอำเภอเชียงคำ และอำเภอปง จังหวัดพะเยา สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 900-1,720 เมตร มีลักษณะเป็นภูเขาสูงชันอยู่ในเทือกเขาสันปันน้ำ วางตัวอยู่ในแนวตะวันออก-ตะวันตก คล้ายแอ่งกระทะ ช่วงเช้ามีโอกาสเห็นทะเลหมอกลอยอยู่ทั่วบริเวณ เป็นภาพงดงามเหนือคำบรรยาย โดยสถานที่ท่องเที่ยวบนภูลังกาที่ไม่ควรพลาด คือ “ภูเทวดา” เป็นยอดดอยที่สูงที่สุดในเทือกเขาสันปันน้ำ ไทย-ลาว เป็นจุดชมทะเลเมฆหมอก ดวงอาทิตย์ขึ้นลงและดอกไม้ป่าอันสวยงาม

  1. ทุ่งแสลงหลวง

ทุ่งแสลงหลวง มีพื้นที่ 789,000 ไร่ ตั้งอยู่ในท้องที่จังหวัดพิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ถือเป็นแหล่งผืนป่าสะวันนาแห่งเดียวของภาคเหนือที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ พร้อมด้วยความแตกต่างแห่งพืชพรรณที่พบเห็นไม่บ่อยนัก เหมาะอย่างมากในการมากางเต๊นท์นอนชมวิวธรรมชาติและอากาศอันหนาวเย็น นอกจากนี้ยังเป็นถิ่นอาศัยของสัตว์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และความหลากหลายทางชีวภาพ โดยมีสภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาน้อยใหญ่สลับซับซ้อน เป็นต้นน้ำลำธารหลายสายที่ไหลลงสู่แม่น้ำน่าน อีกด้วย

  1. ม่อนทูเล

ม่อนทูเล หรือ ดอยทูเล ยอดเขาที่สูงที่สุดในอำเภอท่าสองยาง จ.ตาก (1,350 เมตร) โดยชาวปกาเกอะญอ เรียกภูเขาแห่งนี้ว่า “ทูเลโค๊ะ” แปลว่า “ภูเขาสีทอง” เนื่องจากในช่วงเดือนพฤศจิกายน – มกราคม ทุ่งหญ้าอันเขียวขจีตามทิวเขา จะเปลี่ยนเป็นสีทองอร่าม งดงามท่ามกลางทะเลหมอกและอากาศอันหนาวเย็น ยามค่ำคืนก้สามารถมองเห็นดวงดาวได้อย่างชัดเจน บอกเลยว่านักท่องเที่ยวขาผจญภัยและคนที่ชอบถ่ายภาพแลนด์สเคป ต้องมาที่นี่สักครั้ง รับรองว่าต้องถูกใจ และจะกลับมาทูเลอีกครั้งโดยไม่ลังเล

  1. ดอยฟ้าห่มปก

“อุทยานแห่งชาติดอยฟ้าห่มปก” จ.เชียงใหม่ ภูมิประเทศเป็นภูเขาสลับซับซ้อนของทิวเขาผีปันน้ำ มีความสูง 2,285 เมตร จากระดับน้ำทะเล มีดอยสำคัญได้แก่ ดอยฟ้าห่มปก ดอยปู่หมื่น ดอยแหลม และดอยอ่างขาง สภาพป่าส่วนใหญ่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ เชิงเขาเป็นป่าเต็งรังและป่าเบญจพรรณ ริมลำธารเป็นป่าดิบแล้ง ส่วนบนยอดเขาสูงจะเป็นป่าสน เป็นต้นน้ำของแม่น้ำฝาง มีไม้มีค่าทางเศรษฐกิจ เช่น ตะเคียน มะไฟป่า ตะแบก สัก จำปีป่า ฯลฯ รวมทั้งพันธุ์ไม้ที่หายากของไทย เช่น เทียนหาง กุหลาบพันปี เป็นต้น โดยบนจุดชมวิวสามารถมองเห็นทะเลหมอกอันสวยงาม ค่อย ๆ เคลื่อนผ่านทิวเขา

 

ขอบคุณรูปภาพจาก :

คุณ สุรเชษฐ์ เจียมตน
คุณ Little Potchara
คุณ Manus Tagsri
คุณ BaNky Yknab
คุณ Theerasak Saksritawee
คุณ Witita Leelasutanon

เรื่องและเรียบเรียงโดย : Travel MThai

 

15 สถานที่เที่ยวแม่ฮ่องสอน ช่วงหน้าหนาว

1

ตอนนี้ใกล้เข้าฤดูหนาวแล้ว Travel.mthai ก็เลยอยากพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวที่สวยๆ ที่ “แม่ฮ่องสอน” เมืองหมอก 3 ฤดูกัน หนึ่งในสถานที่ยิดฮิตที่คนนิยมไปเที่ยวฝนช่วงหน้าหนาว สถานที่ที่เต็มไปด้วยหมอก ความงามของธรรมชาติแบบไม่สิ้นสุด มันดีต่อใจจริงๆนะ >,< สถานที่เที่ยวแม่ฮ่องสอน ช่วงหน้าหนาว

15 สถานที่เที่ยวแม่ฮ่องสอน ช่วงหน้าหนาว

แม่ฮ่องสอน อยู่ทางภาคเหนือ เป็นหนึ่งสถานที่ยอดฮิตที่คนนิยมไปท่องเที่ยวมากที่สุด ไม่ว่าจะฤดูไหนแม่ฮ่องสอนก็ยังคงความสวยงามของธรรมชาติไว้เสมอ มีสภาพภูมิประเทศเต็มไปด้วยภูเขาสูงสลับซับซ้อน สภาพอากาศมีหมอกปกคลุมตลอดเวลา จนได้ฉายาว่า “เมืองหมอก 3 ฤดู” หรือ เมืองสามหมอก ไม่ว่าจะในฤดูหนาว ก็จะเจอกับหมอกน้ำค้าง, ฤดูร้อน หมอกควันจากการเผาไร่ของชาวบ้าน และฤดูฝน ก็จะพบกับ หมอกในสายฝน

ใครสนใจเดินทางมาแม่ฮ่องสอน สามารถตรงจากเชียงใหม่ หรือหากมาจากกรุงเทพ ก็จะต้องแวะ Transit เชียงใหม่ก่อน สามารถเช็คราคาสายการบินบางกอกแอร์เวย์ (Bangkok Airways) กับ Traveloka ซึ่งมีหลายเที่ยวบินตรงจากเชียงใหม่ไปแม่ฮ่องสอน จองกับ Traveloka ฟรีค่าธรรมเนียม โอนผ่านธนาคารและชำระช่องทางอื่นๆได้ มีส่วนลดมากมาย ทำให้เรื่องเที่ยวเป็นเรื่องง่าย

อีกทั้งแม่ฮ่องสอน มีประชากรน้อยมากเป็นอันดับ 5 ในขณะที่มีพื้นที่มากเป็นอันดับ 8 ของประเทศ จังหวัดแม่ฮ่องสอน มี 7 อำเภอ คือ แม่สะเรียง ขุนยวม ปาย แม่ลาน้อย สบเมย และปางมะผ้า ตาม travel.mthai มาดูกัน กับ ที่เที่ยวแม่ฮ่องสอน ช่วงหน้าหนาว ที่ไหนน่าเที่ยวบ้าง ^^

  1. สักการะ พระธาตุดอยกองมู

2

ขอบคุณรูปภาพ www.horonumber.com

ก่อนเดินทางไปเที่ยว เรามาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอนกันก่อนดีกว่า ณ พระธาตุดอยกองมู เดิมชื่อ วัดปลายดอน ตั้งอยู่ที่ดอยกองมู อำเภอเมือง ถือเป็นวัดและพระธาตุประจำจังหวัด และเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองแม่ฮ่องสอนมาช้านาน

3

ขอบคุณภาพ monmuengnuea.blogspot.com

พระธาตุดอยกองมู เป็นปูชนียสถาน ประกอบด้วย พระธาตุเจดีย์ ศิลปะไทใหญ่-พม่า จำนวน 2 องค์ จากวัดพระธาตุ ดอยกองมูนี้ สามารถมองเห็นภูมิประเทศและสภาพตัวเมืองแม่ฮ่องสอนได้อย่างชัดเจน

นอกจากนี้ เมื่อถึงงานเทศกาลประจำปีใหญ่ๆ เช่น วันปีใหม่ วันสงกรานต์ ก็จะมีผู้คนเข้ามากราบไหว้ เสริมดวงชะตากันเยอะมากๆ โดยเฉพาะในวันออกพรรษาจะมีการตักบาตรดาวดึงส์ ซึ่งเป็นประเพณีแต่โบราณ ในปีนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ.2559

————————————————————————————————-

  1. “สะพานอธิษฐานสำเร็จ” สะพานซูตองเป้

ขอบคุณข้อมูลจาก : www.sadoodta.com

สะพานไม้ไผ่ กว้าง 2 เมตร ยาวประมาณ 600 เมตร สร้างขึ้นด้วยแรงศรัทธาของพระภิกษุ สามเณร และชาวบ้าน โดยไม่ใช้งบประมาณของทางราชการ วัสดุที่ใช้หาได้ในท้องถิ่น เสาจากไม้เก่าของชาวบ้านปูพื้นด้วยไม้ไผ่ ทอดยาวจากสวนธรรมภูสมะถึงหมู่บ้านกุงไม้สัก ผ่านลำน้ำแม่สะงา ผ่านทุ่งนาของชาวบ้าน เพื่อให้พระภิกษุสามเณรออกรับบิณฑบาต ถือเป็นสะพานไม้แห่งศรัทธา คำว่า “ซูตองเป้” (Su-Tong-Pe) นั้นเป็นภาษาไทยใหญ่ แปลว่า อธิษฐานสำเร็จ สะพานแห่งนี้จึงเป็นเหมือนตัวแทนแห่งคำอธิษฐานสำเร็จ มีพระสงฆ์บิณฑบาตบนสะพานทุกเช้าเวลา 6.30  -7.30 น.

5

ขอบคุณข้อมูลจาก : www.sadoodta.com

การเดินทาง : จากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ประมาณ 10 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 1095 จากนั้นเราสามารถเดินทางเข้าสู่สะพาน ซูตองเป้ ได้สองเส้นทางดังนี้

  1. เข้าทางแยกหมู่บ้านกุงไม้สัก เลี้ยงซ้านทางไปภูโคลนประมาณ 1.5 กิโลเมตร ถึงแยกเข้าหมู่บ้านให้ลอดซุ้มประตู เข้าไปทางขวามือตามถนนในหมู่บ้าน โดยสามารถจอดรถไว้ที่วัดกุงไม้สักได้
  2. เข้าทางแยกสวนธรรมภูสมะ เลี้ยวซ้ายจากปากทาง ผ่านถนนลูกรังระยะทางประมาณ 1กิโลเมตร จอดรถที่สวนธรรมภูสมะได้

————————————————————————————————-

  1. ชม ทุ่งบัวตองเหลืออร่าม ดอยแม่อูคอ

6

ชมความตระการตาแห่งสีสันพรรณไม้ ณ ทุ่งบัวตอง ดอยแม่อูคอ อำเภอขุนยวมจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นสถานที่หนึ่งซึ่งคึกคักเป็นพิเศษในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว เพราะ ดอกบัวตอง จะบานสะพรั่งพร้อมกันในช่วงเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม นับเป็นทุ่งดอกบัวตองที่ใหญ่และสวยที่สุดในประเทศไทย โดย 1 ปี จะมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ใครอยากเห็นกับตาต้องจัดสรรเวลาไปให้เหมาะ!

จุดที่นักท่องเที่ยวนิยมขึ้นไปชมความสวยของ ทุ่งบัวตอง คือ บริเวณยอดดอยซึ่งมีความสูง 1,600 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล สามารถมาเที่ยวแบบไปเช้า-เย็นกลับ หรือ กางเต็นท์ค้างแรมบนยอดดอย ถ้าโชคดีอาจได้ชมการแสดงดนตรีพื้นบ้านของชนท้องถิ่นที่มาเสริมสร้างให้บรรยากาศสนุกสนานเป็นพิเศษ

การเดินทาง : ใช้เส้นทาง อำเภอขุนยวม ตามเส้นทางหมายเลข 108 (แม่ฮ่องสอน – ขุนยวม) ก่อนถึงตัวอำเภอประมาณ 1 กิโลเมตร มีทางแยกซ้ายตามทางหลวงสาย 1263 เข้าสู่ทุ่งบัวตองอีก 26 กิโลเมตร เป็นถนนลาดยางมีพื้นที่ครอบคลุมเป็นเขากว้างประมาณ 1 พันไร่ อยู่ในความรับผิดชอบของโครงการพัฒนาป่าไม้ที่สูง หน่วยที่ 5 กองอนุรักษ์ต้นน้ำ

————————————————————————————————-

  1. ภูชี้เพ้อถ้าไม่ได้ไป คงต้องเพ้อ …

7

ขอบคุณรูปภาพ : pantip.com/topic/31582434

ภูชี้เพ้อ ตั้งอยู่ในหน่วยจัดการต้นน้ำแม่หยอด อ.ขุนยวม ใกล้กับทุ่งดอกบัวตอง ดอยแม่อูคอ ในระดับความสูง 1,818 เมตร จากระดับน้ำทะเล ภูชี้เพ้อ ถือเป็นจุดวิวแห่งใหม่ที่ยังไม่ค่อยมีใครรู้จักมากนัก

8

ขอบคุณรูปภาพ : pantip.com/topic/31582434

เป็นจุดชมวิวสำหรับชมพระอาทิตย์ขึ้น และสายหมอกที่แผ่กระจายไปทั่วทิวเขาที่สลับซับซ้อน เป็นภาพที่งดงามสุดจะบรรยาย หากมาในช่วงที่ดอกบัวตองบาน ท่านสามารถมองเห็นวิวของทุ่งดอกบัวตองบนดอยแม่อูคอในอีกมุมหนึ่งที่ไม่เหมือนใคร

————————————————————————————————-

  1. จุดชมทะเลหมอกสุดประทับใจ ณม่อนหยุนไหล

9

ภาพจาก http://pantip.com/topic/31415089

ม่อนหยุนไหล จุดชมวิวบนภูเขาสูง โดดเด่นด้วยชื่อสไตล์จีน ตั้งอยู่ในอำเภอปาย เลยหมู่บ้านสันติชลไปประมาณ 3 กิโลเมตร บนจุดชมวิวทะเลหมอกหยุนไหล สามารถมองเห็นตัวเมืองปาย และสายหมอกที่รวมตัวกันเป็นก้อนไหลเหมือนดังสายน้ำท่ามกลางหุบเขาในอำเภอปาย ได้อย่างงดงาม

10

ภาพจาก www.goodmorningnorth.com

นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเดินทางขึ้นไปจุดชมวิวทะเลหมอกหยุนไหล ประมาณ 05.30 น. เพื่อรับอากาศบริสุทธิ์ในยามเช้า และรอชมแสงแรกแย้มจากดวงอาทิตย์ อันอบอุ่นในยามเช้า ณ บนจุดชมวิวที่สูงตระหง่านในอำเภอปาย ด้านบนจุดชมวิวมีบ่อน้ำสำหรับใช้ในการบริโภคที่ไหลลงสู่ด้านล่างของภูเขา

ม่อนหยุนไหล มีสิ่งอำนวยความสะดวก ได้แก่ ห้องพัก ลานกางเต๊นท์ ห้องน้ำ และร้านค้า คอยบริการนักท่องเที่ยว
ค่าบริการเข้าชม ท่านละ 20 บาท

การเดินทาง : การเดินทาง ต้องติดต่อรถนำเที่ยวที่หมู่บ้านสันติชล เนื่องจากทางขึ้นเป็นทางลูกรัง และเป็นเขาลาดชัน ถ้าเหมาต่อคันอยู่ที่ราคาคันละ 300 บาท นั่งได้ 10 คน

————————————————————————————————-

  1. ปางอุ๋ง “สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย”
    ลุย 2000โค้ง มาสัมผัสหมอกและไอหนาว ในดินแดนแสนโรแมนติค

11

ขอบคุณภาพจาก facebook/Tat Maehongson

ปางอุ๋ง มีชื่อเต็ม ว่า โครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง) ตั้งอยู่ที่ หมู่บ้านรวมไทย ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน  เป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งในโครงการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อยู่ห่างจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนประมาณ 44 กิโลเมตร เป็นหนึ่งสถานที่น่าเที่ยวช่วงฤดูหนาว ถูกขนานนามว่า สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย

12

ขอบคุณภาพจาก facebook/Tat Maehongson

ปางอุ๋ง มีลักษณะเป็น อ่างเก็บน้ำ ขนาดใหญ่ซึ่งอยู่บนยอดเขาสูง เป็นที่เที่ยวสุดโรแมนติกอันดับต้นๆ ของแม่ฮ่องสอน ภาพแสงอาทิตย์สาดสะท้อนน่านน้ำ ผสานไอหมอกจางๆ สร้างความประทับใจแก่ผู้มาเยือนทุกครั้ง มีกิจกรรมยอดฮิต คือ การล่องแพ ชมทัศนียภาพซึ่งถูกโอบล้อมไปด้วยป่าสน สวนดอกไม้ และกล้ชิดสายหมอก

————————————————————————————————-

  1. ลีไวน์รักไทย รีสอร์ทสไตล์จีนยูนาน

13

ตะลุยฝ่าโค้งพันศอก! เพื่อมาชมความงามของที่นี่ อีกหนึ่งที่พักบรรยากาศสุดยอด ที่เราอยากแนะนำ ลีไวน์รักไทย รีสอร์ทสไตล์จีนยูนาน ที่ถูกเนรมิตรขึ้นกลางไร่ชา ท่ามกลางสายหมอกและขุนเขา รับรองว่าจะทำให้คุณประทับใจจนแทบไม่อยากกลับบ้าน

ลีไวน์รักไทย รีสอร์ท จำลองมาจากหมู่บ้านในมณฑลยูนาน ประเทศจีน หากคุณมาถึง อาจลืมไปว่านี่คือประเทศไทย เพราะมันเหมือนถอดแบบมาจากประเทศจีนจริงๆ อากาศก็แสนบริสุทธิ์ ยิ่งอยู่ท่ามกลางไร่ชาด้วยแล้ว ทำให้ดูอินขึ้นไปอีก แถมยังให้เราลองเก็บชาได้อีกด้วย แค่นึกภาพก็ฟินแล้ว แต่ก็สู้ไปสัมผัสของจริงไม่ได้แน่ๆ

14

วิธีการเดินทาง : จากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ใช้ทางหลวงหมายเลข 1095 (แม่ฮ่องสอน-ปาย) ประมาณ 15 กิโลเมตร จะถึงแยกบ้านกุงไม้สัก ทางซ้ายมือจะมีป้ายบอกทางไปบ้านรักไทย ให้เลี้ยวซ้ายแล้วขับไปตามทางอีกประมาณ 36กิโลเมตร โดยเส้นทางนี้จะผ่านภูโคลน น้ำตกผาเสื่อ พระตำหนักปางตอง ตลอดเส้นทางเป็นทางชันขึ้นเขา มีโค้งหักศอกคดเคี้ยวหลายแห่ง ควรขับรถด้วยความระมัดระวัง เมื่อมาถึงบ้านรักไทยแล้ว จะเห็น ลีไวน์รักไทย รีสอร์ท อยู่ทางซ้ายมือ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0895529650 , 0892621335  หรือ  Facebook.com/ลีไวน์รักไทย-รีสอร์ท

————————————————————————————————-

  1. ดอยเมี่ยงสวรรค์เมืองหมอก

15

ขอบคุณภาพจาก http://pantip.com/topic/31310210 / holidaythai.com สมาชิกหมายเลข 1128724

สวรรค์เมืองหมอก ปักหมุดอยู่สูงประมาณ 1,600 เมตร ในพื้นที่ป่าดิบชื้นและภูเขาสูงชันสลับซับซ้อน เต็มไปด้วยพันธุ์ไม้หลายชนิด เช่น ต้นสน ต้นพญาเสือโคร่ง ต้นมะค่า ความสุขโดยสัมผัส คือการไปยืน ณ จุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพทิวทัศน์ของเมืองปายได้อย่างสวยงาม แบบสุดสายตา 360 องศา ท่ามกลางมวลอากาศหนาวเย็นและมีลมพัดโชยสบายทุกฤดูกาล

16

ขอบคุณภาพจาก http://pantip.com/topic/31310210 / holidaythai.com สมาชิกหมายเลข 1128724

ในจุดที่สูงสุดบนดอยเมี่ยงแห่งนี้ นักท่องเที่ยวจะเห็นมีหมอกหนาขึ้นบนดอย มีลักษณะเหมือนแอ่งกระทะ หรือทะเลหมอกให้ได้ชมในทุกช่วงฤดูเลยทีเดียว อีกหนึ่งสิ่งน่าสนใจไม่ควรพลาด ต้องตื่นมาละเลียดภาพอุ่นๆ ของพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า โดยมีสายหมอกอ่อนละมุนมารอรับแสงแรกของวัน ที่จะทำให้บรรยากาศแปรเปลี่ยน กลายเป็นวินาทีแห่งความโรแมนติก

————————————————————————————————-

  1. เที่ยว ถนนคนเดินปาย

17

จากแผงเล็กๆ ไม่กี่แผงของชาวบ้าน ขายสินค้าที่ระลึก และสินค้าหัตถกรรมพื้นเมืองโดยอาศัยไฟโคมริมถนน หรือแสงเทียนสลัวเรียงรายสองข้างทางยามค่ำคืน คือ บทเริ่มต้นของถนนคนเดินปายซึ่งปัจจุบันได้กลายมาเป็นเส้นทางเดินคึกคักมากสีสันที่สุดแห่งหนึ่งของภาคเหนือ

ช่วยต่อเติมบรรยากาศสบายๆ ให้กับเมืองเล็กแห่งนี้ ทุกวันประมาณ 6 โมงเย็น ผู้คนเริ่มเดินคึกคัก มีกิจกรรมการแสดงเปิดหมวกต่างๆ สินค้าส่วนใหญ่ที่วางขายมักเป็นของที่ระลึกไอเดียเก๋ๆ ทั้งโปสการ์ด เสื้อยืดสกรีนรูปต่างๆ สินค้าหัตถกรรม ผ้าพันคอทอมือ ฯลฯ สลับกับอาหารหลากหลาย หากเดินเหนื่อยก็มีร้านชากาแฟตกแต่งสวยๆ ให้นั่งพัก บางร้านมีดนตรีหลากสไตล์ขับกล่อมอีกด้วย

————————————————————————————————-

  1. ถ้ำลอดปางมะผ้า

18

ขอบคุณภาพ www.thailovetrip.com

ตั้งอยู่ที่ตำบลถ้ำลอด อำเภอปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน เป็นแหล่งโบราณคดีสำคัญ ปัจจุบันอยู่ ในความดูแลของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มแม่น้ำปาย มีสถานที่น่าสนใจ คือ ถ้ำลอด ซึ่งมีลำห้วยชื่อ น้ำลางไหล ลอดภูเขาไปทะลุออกอีกด้านหนึ่ง ทำให้เกิดเป็นถ้ำที่มีหินงอกหินย้อยสวยงาม จากการพบเครื่องมือเครื่องใช้ โบราณในถ้ำสันนิษฐานได้ว่ามีอายุประมาณ 2,000 ปีมาแล้ว

19

ขอบคุณภาพ www.thailovetrip.com

ถ้ำลอดเป็นถ้ำที่มีชื่อเสียง สวยงาม และเข้าชมได้ง่ายสะดวกสบายที่สุดในบรรดาถ้ำทั้งหมด การเข้าชมถ้ำจาก ด่านด้านหน้าต้องเดินเท้าเข้าไปประมาณ 350 เมตร พร้อมคนนำทางและตะเกียงส่องทาง โพรงแห่งนี้มีความยาวกว่า 500 เมตร กว้าง 20 เมตร สูง 50 เมตร สายน้ำกัดเซาะโพรงถ้ำแห่งนี้มากกว่าล้านปี ก่อเกิดเป็นถ้ำใหญ่ๆถึง 3 แห่ง ได้แก่ ถ้ำเสาหิน ถ้ำตุ๊กตา และถ้ำผีแมน

————————————————————————————————-

  1. หมู่บ้านกระเหรี่ยงคอยาวบ้านห้วยเสือเฒ่า

20

ขอบคุณภาพ www.thetrippacker.com

หมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาวที่อยู่ใกล้เมืองมากที่สุด รถยนต์สามารถเข้าถึงจึงมีนักท่องเที่ยวแวะเข้ามาเที่ยวชม กะเหรี่ยงคอยาวที่นี่เป็นจำนวนมาก อพยพลี้ภัยสงครามเข้ามา อยู่ที่แม่ฮ่องสอนนานแล้ว ดำรงชีวิตแบบดั้งเดิม ภายในหมู่นักท่องเที่ยวสามารถมาชมวิถีชีวิต และถ่ายรูปกับ กะเหรี่ยงคอยาวได้

21

ขอบคุณภาพ www.thetrippacker.com

หากมาในช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ยังจะได้พูดคุยและถ่ายรูปกับเด็ก ๆ ชาวกระเหรี่ยงซึ่งแต่ ละคนหน้าตาน่ารักและช่างเจรจา ซึ่งวันธรรมดาเด็ก ๆ พวกนี้จะไปโรงเรียน นอกจากนี้บ้านแต่ละ หลังจะมีการนำ ของที่ระลึกมาขายให้กับนักท่องเที่ยวเพื่อเป็นการสร้างรายได้ สินค้าส่วนใหญ่จะเป็นพวกเสื้อผ้าและเครื่องประดับ เล็ก ๆ น้อยราคาไม่แพงมาก

————————————————————————————————-

  1. สะพานประวัติศาสตร์ปาย

22

สะพานประวัติศาสตร์เปรียบเสมือนประตูสู่อำเภอปาย สะพานแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดย กองทหารประเทศญี่ปุ่น เพื่อใช้ข้ามแม่น้ำปายและลำเลียงเสบียงและอาวุธเข้าไปยังประเทศพม่า หลังจาก สงครามโลกครั้ง ที่ 2 ยุติลง อำเภอปายจึงกลับคืนสู่ความสงบสุขอีกครั้งหนึ่ง โดยหลงเหลือไว้เพียงแต่สะพาน แห่งนี้ว่า“สะพานประวัติศาสตร์”

กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของ ของเมืองไทย จึงทำให้มีทักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามามาก และด้วยตัว สะพานประวัติศาสตร์ปายแห่งนี้ก็เก่าแก่มากมิอาจรับน้ำหนักของรถที่วิ่งผ่านได้ไหว จึงทำให้สะพานคอนกรีตเกิด ขึ้นเพื่อใช้เป็นสะพานข้ามแม่น้ำแม้ในปัจจุบันจะมีสะพานปูนแบบไม่สร้างอยู่เคียงข้าง แต่สะพานประวัติศาสตร์ เก่าแก่แห่งนี้ก็ยังได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวที่มา เยือนอำเภอปายอยู่เป็นประจำ

————————————————————————————————-

  1. กองแลน (ปายแคนย่อน)

23

ขอบคุณภาพ paitourismclub.paiexplorer.com

กองแลน นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งแรกเมื่อเริ่มเข้าสู่เขตอำเภอปาย มีลักษณะเป็นภูเขาดินแดงในป่าเต็งรังสลับป่าสน เมื่อคุณเดินขึ้นไปถึงด้านบนยอดจะพบหน้าผาสูงชันถูกกัดเซาะคล้ายปรากฏการณ์ดินทรุดตัว หรือแพะเมืองผีที่จังหวัดแพร่ เหมาะสำหรับชมทิวทัศน์อำเภอปาย แต่นักท่องเที่ยวควรใช้ความระมัดระวังในการเดินชมด้วย เวลาที่เหมาะสมในการเข้าชมคือช่วงเช้า และช่วงเย็น เพราะอากาศจะเย็นสบายกว่าช่วงกลางวัน

————————————————————————————————-

  1. ทุ่งปอเทือง เหลืองอร่าม ณ ปาย

24

ขอบคุณภาพจาก MyFirstNIK

หนาวนี้อย่าลืมแสะมาชมความงามของ ทุ่งปอเทือง บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ โดย ชาวบ้านได้ปลูกหว่านต้นปอเทือง หลังจากสิ้นฤดูการเก็บเกี่ยวพืชถั่วและข้าวไร่ เพื่อให้เป็นปุ๋ยสดบำรุงดิน โดยได้นำแนวทางพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ

นอกจากจะพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่สนใจมาชมทุ่งดอกปอเทือง ที่ออกดอกสีเหลืองสดบานสะพรั่ง สวยงามแล้ว ยังเป็นการสร้างจุดขายด้านการท่องเที่ยวของอำเภอปายอีกทางหนึ่งด้วย หนาวนี้ใครมาเที่ยวปาย ก็อย่าลืมแวะไปชมทุ่งดอกปอเทืองกันด้วยนะ

————————————————————————————————-

  1. อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง

25

ขอบคุณรูปภาพ findthailand.com

อยู่ในเขตอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน (คลอบคลุมถึง อ.แม่แตง และ อ.เวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่)  ประกอบด้วยเทือกเขาและภูเขาสูงสลับซับซ้อน สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นสนสีเขียว หน้าหนาวดอกกล้วยไม้เอื้องเงิน ที่ขึ้นตามธรรมชาติออกดอกบานต้อนรับนักท่องเที่ยวผู้มาเยือน และมีดอกนางพญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทย บานแซมอยู่เป็นระยะ ๆ ทำให้ดอยแห่งนี้แต่งแต้มไปด้วยสีเขียว แซมด้วยสีชมพูของดอกซากุระเมืองไทย น่าชมไม่น้อยทีเดียว

26

ขอบคุณภาพจาก MuZtongGraphy

เดินทางสู่จุดชมวิว ดอยกิ่วลม จุดชมทะเลหมอกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ในยามเช้าตรู่ จนถึงสาย ๆ มองไปเบื้องล่าง เห็นทะเลหมอกสีขาวไกลสุดลูกหูลูกตา สลับกับทิวสนสูงลิ่ว สูดบรรยากาศบริสุทธิ์ยามเช้าพร้อมถ่ายรูปทะเลหมอกเก็บไว้เป็นที่ระลึก

นอกจากนี้บริเวณจุดชมวิวดอยกิ่วลม ยังมีพระตำหนักเอื้องเงินที่ทางอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังสร้างขึ้นเพื่อถวายสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ดยรอบพระตำหนักมีดอกไม้เมืองหนาวออกดอกบานสะพรั่งในช่วงหน้าหนาวของทุกปี

 

หนีไปใช้ชีวิตคูลๆ กับ 10 ที่เที่ยวเดือนพฤศจิกายน

1

หนีไปใช้ชีวิตคูลๆ กับ 10 ที่เที่ยว
เดือนพฤศจิกายน

สายฝนเริ่มจางลง ลมหนาวก็เข้ามาทักทาย ใครที่คิดไม่ออกว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี วันนี้เรามีตัวเลือกมาให้เลือกกันตามชอบ แต่ละที่เรียกได้ว่าเด็ดๆ ทั้งนั้น ไม่ไปไม่ได้ เพราะมีกิจกรรมให้ทำมากมาย ทั้งขึ้นเขา ดูหมอก สูดกลิ่นหอมๆ ของดอกไม้ และยังมีวิวสวยๆ หน้าหนาวให้ได้เก็บภาพจนจุใจ ไปดูกันว่ามีที่ไหนบ้าง

  1. ทุ่งบัวตอง ดอยแม่อูคอ
    จังหวัดแม่ฮ่องสอน

2

ดอกบัวตองนั้นงามอยู่บนยอดดอย~~ … เทศกาลทุ่งบัวตองกำลังจะเวียนมาอีกครั้ง ที่ดอยแม่อูคอ อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน จะบานสะพรั่งสีเหลืองอร่ามทั่วทั้งภูเขาช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม มาพร้อมกับลมหนาว สัญญาณเตือนของการออกเที่ยวขึ้นเหนือ นับเป็นทุ่งดอกบัวตองที่ใหญ่และสวยที่สุดในประเทศไทย โดย 1 ปี จะมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ใครอยากเห็นกับตาต้องจัดสรรเวลาไปให้เหมาะไม่งั้นต้องรอถึงปีหน้าเชียวนะ

จุดที่นักท่องเที่ยวนิยมขึ้นไปชมความสวยของ ทุ่งบัวตอง คือ บริเวณยอดดอยซึ่งมีความสูง 1,600 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล สามารถขึ้นไปกางเต็นท์ค้างแรมบนยอดดอย ถ้าโชคดีอาจได้ชมการแสดงดนตรีพื้นบ้านของชนท้องถิ่นที่มาเสริมสร้างให้บรรยากาศสนุกสนานเป็นพิเศษ

*******************************************************************

  1. เทศกาลลอยกระทง เผาเทียนเล่นไฟ
    จังหวัดสุโขทัย

3

ขอบคุณรูปภาพจาก: งานประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย ประจำปี 2560

“เทศกาลลอยกระทง เผาเทียนเล่นไฟ” ประเพณีเก่าแก่ยาวนานของจังหวัดสุโขทัย จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-5 พฤศจิกายน 2560 เอกลักษณ์อย่างหนึ่งที่หลายคนอยากมาชมความวิจิตรตระการตาที่สะท้อนความประณีตของช่างศิลป์เมืองสุโขทัยก็คือ กระทงทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ มีลักษณะเป็นยอดดอกบัวตูม ประดิษฐ์ตามแบบเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ สถาปัตยกรรมเก่าแก่ต้นแบบสุโขทัย นอกจากนี้ภายในงานยังคึกคักด้วยบรรยากาศตลาดโบราณ ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสถึงกลิ่นอายวัฒนธรรมด้วยการแลกหอยเบี้ยแทนเงินสด เพื่อใช้ซื้ออาหารคาวหวานพื้นเมือง มีกิจกรรมขบวนแห่นางนพมาศ ประกวดกระทงเล็ก-กระทงใหญ่ และไฮไลท์สำคัญอยู่ที่การแสดงแสง สี เสียง สุดอลังการให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสเรื่องราวประวัติศาสตร์มนต์เสน่ห์แห่งอารยธรรมเมืองมรดกโลก

4 5

*******************************************************************

  1. ฟลอร่า พาร์ค & โรส พาร์ค
    จังหวัดนครราชสีมา

6

มหกรรมงานดอกไม้ประดับนับล้านๆ ดอก “ฟลอร่า พาร์ค & โรส พาร์ค” (Flora Park & Rose Park) พร้อมเปิดสวนให้เข้าชมแล้วตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 – 30 เมษายน 2561 ภายใต้ธีม “ดอกไม้ เทพนิยาย สายรุ้ง” สวนสวยกลางหุบเขาและไอหมอกแห่งวังน้ำเขียว มีเนื้อที่กว่า 70 ไร่ เราจะรู้สึกตัวเล็กลงทันทีเมื่อเข้ามาเยือน ด้านในมีมุมถ่ายรูปเก๋ๆ ให้แอคได้หลายท่า หลายมุม บรรยากาศโรแมนติกเหมือนอยู่ในเทพนิยายจริงๆ มีทั้งดอกไม้เมืองหนาว อาทิ เทียนฝรั่ง ซัลเวีย บานชื่น พิทูเนีย บีโกเนีย ฟอเก็ตมีน็อต ฯลฯ ซุ้มอุโมงค์ไม้ไผ่ที่มีไม้เลื้อยพันรอบเป็นเถาวัลย์ แปลงองุ่นสายพันธุ์แบล็คโอปอร์ รูทเพอร์เรท และเรดลิ้นจี่ แปลงกุหลาบ English Rose ที่ส่งกลิ่นหอมฟุ้งทั่วไร่ จุดไฮไลท์คือ หอชมวิวฟลอร่า (Flora Tower View) เมื่อมองลงมาจะเห็นเป็นเขาวงกตดอกไม้หลายสีสันสวยงามละลานตา พร้อมชมทัศนียภาพรอบสวนแบบ 360 องศา นอกจากนี้ยังมี “โครงการศูนย์เรียนรู้ฟลอร่าพาร์ค” แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ให้เราเรียนรู้การเพาะพันธุ์และผลิตดอกไม้ประดับ การเลี้ยงไก่ไข่ ปลูกผักออแกนิค ที่สำคัญอย่าพลาดชิม เมล่อนสายพันธุ์ฟ้าประทาน ซึ่งทางไร่คอนเฟิร์มว่าหวาน หอม กรอบ อร่อย!!

7 8

*******************************************************************

  1. ดอยหลวงเชียงดาว
    จังหวัดเชียงใหม่

9

เริ่มเข้าสู่หน้าหนาวแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตของหมู่วัยรุ่นคงหนีไม่พ้นจังหวัดเชียงใหม่ และแน่นอนว่า ดอยหลวงเชียงดาว ก็เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ที่คนรักทะเลหมอกอยากขึ้นมากอดลมหนาว สูดอากาศเย็นๆ ดื่มดับธรรมชาติแบบหนำใจ บนความสูง 2,225 เมตร ซึ่งนับว่าเป็นยอดเขาที่สูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศไทย เมื่อขึ้นมาบนยอด คุณจะพบกับอีก 2 ดอยอยู่เบื้องหน้า นั่นก็คือ ดอยสามพี่น้อง และดอยพีรามิด เป็นภาพที่งดงามจับตา ในส่วนของที่พัก มีทั้งแบบกางเต็นท์ และโฮมสเตย์หลายหลัง ให้คุณได้มาพักผ่อนฟินๆ มีทะเลหมอกมาปลุกถึงเตียง และที่พักส่วนมากจะมีบริการอาหารเย็นด้วย เป็นอาหารเย็นพื้นเมืองแบบขันโตก ยกมาเสิร์ฟไว้หน้าที่พัก คุณจะได้นั่งทานข้าวไปพร้อมๆ กับชมบรรยากาศรอบๆ ตัว ให้ความรู้สึกอิ่มเอมใจและอิ่มท้องในคราวเดียวกัน

10 11

*******************************************************************

  1. เขาสันหนอกวัว
    จังหวัดกาญจนบุรี

12

เขาสันหนอกวัว เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรี มีระดับความสูงที่ 1,767 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ตั้งอยู่ทางเหนือของที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาแหลม อำเภอสังขละบุรี ในแนวเทือกเขาเขียว ที่เป็นป่าฝั่งตะวันตกของพื้นที่อุทยานฯ มีส่วนที่ติดต่อกับพื้นที่ป่าในเขตทุ่งใหญ่นเรศวร จึงมีความเป็นธรรมชาติค่อนข้างสมบูรณ์ สภาพป่ามีต้นไม้ขึ้นหนาแน่น และยังคงมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่ คำว่าสันหนอกวัว มาจากลักษณะของยอดเขาที่นูนออกมา รูปร่างคล้ายกับส่วนที่เป็นสันนูนบนหลังของวัว ที่เรียกว่าโหนก หรือหนอก

13

วิวบนยอดเขา เป็นภูเขาหญ้า คล้ายเขาช้างเผือก มีลักษณะเปิดโล่ง ไม่มีต้นไม้ใหญ่บังทัศนียภาพ จึงสามารถเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามได้สุดลูกหูลูกตา เห็นทะเลสาบจากเขื่อนวชิราลงกรณ์ และภูเขาสลับซับซ้อนเบื้องล่าง

*******************************************************************

  1. เขาพะเนินทุ่ง
    จังหวัดเพชรบุรี

14

เขาพะเนินทุ่ง แหล่งชมทะเลหมอกใกล้กรุงฯ อยู่ในอุทยานแห่งแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี มีอีกชื่อหนึ่งว่า “ภูลวงตา” ด้วยเพราะมีทะเลหมอกปกคลุมเหนือยอดเขาทั้งปี จนไม่สามารถมองเห็นภูเขาเบื้องหน้าได้ และหมอกเปลี่ยนทิศทางอยู่เป็นประจำ ทำให้ยากต่อการจดจำว่าเป็นเขาลูกไหน ซึ่งมีลักษณะเหมือนโดนบังตา หรือลวงตานั่งเอง

15

โดยทะเลหมอกเกิดขึ้นจากความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าและต้นไม้ ที่คลายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาจนกลายเป็นทะเลหมอกหนาตา ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกันในช่วงเช้า เมื่อหมอกเริ่มจาง ป่าดงดิบเบื้องล่างและต้นไม้น้อยใหญ่ก็ค่อย ๆ ปรากฏพร้อมกับภาพทิวเขาเรียงรายสลับซับซ้อน นักท่องเที่ยวสามารถเลือกชมทะเลหมอกได้ 2 จุด คือ จุดชมวิวกิโลเมตรที่ 30 และ 36 สำหรับช่วงที่ทะเลหมอกถูกยอมรับว่าสวยที่สุด และมีอากาศเย็นสบายที่สุด คือตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป ซึ่งเป็นช่วงเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวของทุกปี ในปีนี้ก็เช่นกัน

*******************************************************************

  1. อุทยานแห่งชาติภูเรือ
    จังหวัดเลย

16

ในช่วงฤดูหนาวของทุกปี ต้นคริสต์มาสจะเปลี่ยนจากสีเขียวกลายเป็นสีแดงสดพร้อมๆ กัน ซึ่งในพื้นที่ อ.ภูเรือ จ.เลย แหล่งปลูกและจำหน่ายต้นคริสต์มาสที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จะมีสีสันมากขึ้นจากสีแดงของต้นคริสต์มาส โดยที่ลานต้นคริสต์มาส บริเวณถนนทางขึ้นอุทยานแห่งชาติภูเรือ จะถูกประดับประดาตกแต่งด้วยต้นคริสต์มาสจนกลายเป็นทุ่งคริสต์มาสที่สวยงาม นักท่องเที่ยวสามารถไปเยี่ยมชมได้ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน จนถึงปลายเดือนมกราคมของทุกปี

*******************************************************************

  1. ทุ่งทานตะวัน
    จังหวัดลพบุรี

17

เมื่อถึงช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน เจ้าดอกทานตะวันนับแสนต้นก็พร้อมใจกันเชิดหน้าชูคอท้าพระอาทิตย์ เหลืองอร่ามไปทั่วจังหวัดลพบุรี มีไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปอยู่ 2 จุด คือ ทุ่งทานตะวันที่บ้านหัวดง และเขาจีนแล แต่และแห่งสวยงามแตกต่างกันไป อย่างที่เขาจีนแล ซึ่งได้รับการขนานนามจากนักท่องเที่ยวว่าเป็นทุ่งทานตะวันที่สวยที่สุดของจังหวัดลพบุรี ดอกทานตะวันบานสะพรั่งกลางหุบเขา มีแบล็คกราวน์เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่สีขาวอยู่ไกลลิบๆ ประดิษฐานอยู่บนเขา ซึ่งเป็นพระพุทธรุปของวัดเวฬุวัน คนที่มาเที่ยว ณ จุดนี้ จึงมีโอกาสขึ้นไปกราบนมัสการด้วย ส่วนที่บ้านหัวดงนั้นก็ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน ด้วยภูมิทัศน์ที่รายล้อมไปด้วยภูเขาเตี้ย ๆ มีทุ่งนา ทุ่งข้าวโพด กระท่อมปลายนาเป็นฉากหลัง หวนให้นึกถึงบรรยากาศแบบลูกทุ่ง แต่แฝงไปด้วยความร่วมสมัย ทำให้อดไม่ได้ที่จะยกกล้องขึ้นมาถ่ายภาพเก็บไว้ดู ช่วงเวลาแนะนำคือช่วงเช้าตรู่ไปจนถึง 10 โมงเช้า

18 19

*******************************************************************

  1. ทุ่งดอกเก๊กฮวย
    จังหวัดเชียงใหม่

20 21

ทุ่งดอกเก๊กฮวย สีขาวนวลสวย ที่เบ่งบานรับลมหนาวอยู่นี้ ตั้งอยู่ที่ บ้านอมลอง ต.แม่สาบ อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ ดอกเก๊กฮวยจะออกดอกบาน ช่วงปลายๆ เดือนตุลาคม ถึง กลางเดือนธันวาคม เพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้น และบานที่สุดในช่วงพฤศจิกายน บรรยากาศดูน่ารัก โรแมนติก เคล้าไปกับกลิ่นหอมของดอกเก๊กฮวย บอกเลยว่าคนชอบ (เป็นนางแบบ) ถ่ายภาพต้องชอบแน่ๆ ซึ่งถ้าใครมีโอกาสเจอเจ้าของสวนกำลังเก็บดอกเก๊กฮวยอยู่ละก็ สามารถเข้าไปช่วยเขาเก็บได้ค่ะ แต่ต้องขออนุญาตก่อน เพื่อให้เขาสอนวิธีการเก็บที่ถูกต้อง

*******************************************************************

  1. ภูลังกา บ้านสวน
    จังหวัดพะเยา

22 23

ภูลังกาบ้านสวน อีกหนึ่งที่พักหน้าหนาว ยืนดูทะเลหมอกชิลๆ หน้าห้องพัก หรือชื่อเดิมที่หลายคนคุ้นหูดีคือ ภูลังการีสอร์ท บ้านพักขนาดกระทัดรัด ท่ามกลางอ้อมกอดของขุนเขา บนเขาภูลังกา ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยงามที่สุดของจังหวัดพะเยา ห้องพักตกแต่งสไตล์เรียบง่าย มีวิวด้านล่างเป็นแอ่งกระทะ และเขาหินปูนเต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่เรียงรายสลับกัน ไฮไลค์ของการมาพักผ่อนคือการตื่นมาชมพระอาทิตย์ขึ้นหน้ารีสอร์ท ที่ส่องแสงกระทบกับทะเลหมอกในแอ่ง เกิดภาพสวยงามเกินจินตนาการ

ได้จุดเช็คอินแจ่มๆ รับลมหนาวแรกของปีกันแล้ว ก็อย่าปล่อยให้ตัวเองนั่งหงอยอยู่ในบ้าน จับมือเพื่อน ควงแขนแฟน ออกไปเที่ยวกินฟินยาวๆ กันทั้งเดือน ช้าหมดอดเห็นวิวแจ่มไม่รู้ด้วยนะ