ทุ่งดอกกระดาษ สีสันสดใสรับลมหนาว บนภูหินร่องกล้า จ.พิษณุโลก

ทุ่งดอกกระดาษ สีสันสดใสรับลมหนาว บนภูหินร่องกล้า จ.พิษณุโลก

ลมหนาวมา อากาศดี จะอยู่บ้านให้หงอยเหงาทำไม เก็บกระเป๋าเที่ยวกันดีกว่าค่ะ ตามเราไปหนาวควันออกปากที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เพลิดเพลินกับ ทุ่งดอกกระดาษ หลากหลายสีสัน ละลานตาอยู่เลียบริมผาใหญ่

ทุ่งดอกกระดาษ หรือ ดอกบานไม่รู้โรย เป็นโครงการพัฒนาป่าไม้ตามแนวพระราชดำริภูหินร่องกล้า เพื่อการฟื้นฟูสภาพป่า เพาะชำกล้าไม้ และพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับราษฎร ปลูกอยู่บริเวณด้านหน้าโครงการฯ ห่างออกไปจากพื้นที่อุทยานฯ ประมาณ 2-3 กิโลเมตร ในอำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก

นอกจากนี้ภายในพื้นที่อุทยานภูหินร่องกล้า ยังมีแปลงปลูกกาแฟสายพันธุ์อาราบิกก้า แปลงสาธิตปลูกสตรอเบอร์รี่พันธุ์พระราชทาน ซึ่งทั้งหมดนี้ปลูกแบบออแกนิค ไร้สารพิษเจือปน และยังมีแนวหินผาตั้งอยู่เรียงกัน ให้ไปยืนรับลมชมทิวทัศน์ผืนป่าเขียวชอุ่ม แต่เตือนก่อน อย่าชะโงกหน้ามองด้านล่างนะ มันเสียวมากขอบอก แต่ละผานั้นล้วนมีชื่อเกี่ยวกับความรักทั้งสิ้น ทั้ง ผาพบรัก ผาบอกรัก  ผาคู่รัก ผาสลัดรัก ผารักยืนยง และ ผาไททานิค 

จากหน้าผาด้านบน จะมีทางเดินลงมาข้างล่าง บริเวณนี้มี ทุ่งดอกกระดาษ ชูช่อสวยงามเรียงแถวเป็นแนวยาวตลอดทาง ให้เดินเลาะริมผาไปเรื่อยๆ จะมีทางเดินกลับขึ้นไปข้างบนค่ะ

ทุ่งดอกกระดาษ จะบานช่วงหน้าหนาว ประมาณเดือนธันวาคม ยาวไปถึงต้นเดือนมีนาคม และหากเพื่อนๆ คนไหนเดินเที่ยวภูหินร่องกล้า เก็บภาพธรรมชาติจนพึงพอใจแล้ว แวะไปถ่ายรูปดอกนางพญาเสือโคร่งกันต่อ ที่ภูลมโล นะคะ ซึ่งจะบานประมาณเดือนมกราคม แล้วทั่วทั้งหุบเขาก็จะกลายเป็นสีชมพู งดงามจนไม่อาจละสายตา

การเดินทางไปอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จากในตัวเมืองของพิษณุโลก ต้องไปตามเส้นทางพิษณุโลก -หล่มสัก ระยะทาง 68 กิโลเมตร ถึงสามแยกบ้านแยง จากนั้นเลี้ยวซ้าย เข้าสู่อำเภอนครไทย ระยะทาง 29 กิโลเมตร และต้องเดินทางต่อด้วยรถสองแถวประมาณ 28 กิโลเมตร

ผารักยืนยง

ผาบอกรัก

ผาพบรัก

ผาคู่รัก

ผาสลัดรัก

ผาไททานิค

หุบเขาสีชมพู ภูลมโล ดินแดนซากุระเมืองไทย

หุบเขาสีชมพู ภูลมโล
ดินแดนซากุระเมืองไทย

อากาศหนาวเย็นแบบนี้ เลยอยากชวนเพื่อนๆ ไปเที่ยวดินแดนสีชมพูของซากุระเมืองไทย กันที่ ภูลมโล จ.พิษณุโลก ซึ่งตอนนี้เริ่มทยอยผลิดอกรอเบ่งบานทั่วหุบเขา พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวตลอดช่วงฤดูหนาว ประมาณเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ค่ะ

ภูลมโล ตั้งอยู่ที่บ้านร่องกล้า ในอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า บนรอยต่อของสามจังหวัด คือ เลย เพชรบูรณ์ และพิษณุโลก เดิมเป็นพื้นที่ปลูกกะหล่ำปลี ทำไร่เลื่อนลอยของชาวเขาเผ่าม้ง ต่อมาทางอุทยานได้ทำข้อตกลงกับชาวม้งให้อาศัยอยู่และทำเกษตรกรรมในพื้นที่อุทยานได้ แต่ต้องปลูกต้นนางพญาเสือโคร่งไปด้วย จนถึงวันนี้ไร่กะหล่ำปีหายไป เหลือเพียงต้นพญาเสือโคร่งบานสะพรั่งสวยงาม บนพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ ถือว่าใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเลยก็ว่าได้

จุดสูงสุดอยู่บริเวณ “ยอดภูลมโล” มีความสูง 1,680 เมตร จากระดับน้ำทะเล อากาศจึงเย็นสบายตลอดปี อุณหภูมิเฉลี่ย 5-20 องศา ซึ่งด้านบนนี้เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อนได้กว้างไกล และตลอดทางขึ้นยอดภู ก็มีดอกนางพญาเสือโคร่งสีชมพูสวยหวาน ประดับประดาอยู่เต็มสองฝากถนน เป็นมุมถ่ายรูปที่เพอร์เฟคมาก

นอกจากนี้ ยังมีแปลงพืชผักเมืองหนาวจำนวนมาก ที่ปลูกโดยชาวเขาเผ่าม้ง เช่น ต้นพลับ ต้นท้อ กะหล่ำปลี แครอท บล็อกโคลี่ สตอเบอรี่ เป็นต้น

ไฮไลท์อีกอย่างหนึ่งที่สร้างความตื่นเต้นให้แก่นักท่องเที่ยวไม่น้อย ก็คือกิจกรรมแรลลี่ลงภู หรือการนั่งรถฟอร์มูล่าม้งขับลงเนิน และมีบริการโฮมสเตย์สำหรับใครที่อยากมาสัมผัสธรรมชาติแบบใกล้ชิด

ใครที่จะเดินทางมาชมดอกนางพญาเสือโคร่ง ที่ภูลมโลนี้ แนะนำให้ใช้บริการเหมารถของเจ้าหน้าที่บริเวณด้านล่าง จะดีกว่า เนื่องจากถนนเป็นทางลูกรัง ชันและแคบ หากไม่ชำนาญเส้นทางอาจเกิดอุบัติเหตุได้

และควรวางแผนเที่ยวให้ดี เพราะดอกนางพญาเสือโคร่งจะเบ่งบานให้เราชมประมาณ 1-2 สัปดาห์ หลังจากนั้นก็จะร่วงโรยไป โดยหลักๆ จะมีให้ชม 3 แปลง ได้แก่ แปลงภูลมโล แปลงก้อนหินใหญ่และ แปลงภูขี้เถ้า แต่ละแปลงจะบานไม่พร้อมกัน คาดว่าจะบานไปจนถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์

ขอบคุณภาพจาก:  ภูลมโล,ซากุระเมืองไทย,นางพญาเสือโคร่ง,กกสะทอน

อัพเดท!! วันที่ 17 ธันวาคม ดอกนางพญาเสือโคร่ง เริ่มสลัดใบทิ้งมากขึ้นเรื่อยๆ มีให้เห็นเป็นสีชมพูบ้างแล้ว

การเดินทาง มี 2 เส้นทาง

เส้นทางที่ 1: สามารถใช้เส้นทางจากจังหวัดพิษณุโลก ผ่านที่ทำการอุทยานภูหินร่องกล้า ไปยังหมู่บ้านร่องกล้า ระยะทางประมาณ 150 กม. หรือจากจังหวัดเพชรบูรณ์ ผ่านไปทางภูทับเบิก อ.หล่มเก่า เข้าสู่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า รวมระยะทางประมาณ 120 กม. และจากภูหินร่องกล้า-ยอดภูลมโล ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตรเส้นทางค่อนข้างสะดวก นักท่องเที่ยวสามารถขับรถเก๋งหรือกระบะขึ้นไปได้ หรือหากใช้บริการของอุทยานฯ  มีบริการรถนำเที่ยวชมภูลมโลทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.00-16.00 น. ค่าบริการคันละ 800 บาท นั่งได้ 10 คน แต่หากต้องการเข้าไปชมถึงภูขี้เถ้า ราคาคันละ 1,200 บาท

เส้นทางที่ 2: หรือจากจังหวัดเลย ไปทางอำเภอด่านซ้าย เข้าสู่หมู่บ้านกกสะทอน 110 กม.และจากที่ทำการตำบลกกสะทอน ผ่านบ้านตูบค้อ-ยอดภูลมโล ระยะทางประมาณ 27 กม. โดยจะคิดค่าบริการเหมารถคันละ 1,500 บาท สำหรับ 1-5 ท่าน และคันละ 2,000 บาท สำหรับ 6-10 ท่าน (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาตรวจสอบอีกครั้ง) เนื่องจากเส้นทางค่อนทางลำบาก หากไม่ชินทางอาจเกิดอุบัติเหตุหรืออันตรายได้ เพราะฉะนั้นหากนำรถไปเองควรระมัดระวังอย่างมาก

 

มันดี กล่องกลางทุ่ง คาเฟ่ open-air ที่แท้จริง จ.พิษณุโลก

01

วิวแบบนี้คาเฟ่ในกรุงเทพฯ คงไม่มีแน่นอนกับวิวทุ่งนาที่เขียวขจี ร้านฮิปๆ ที่นำตู้คอนเทนเนอร์มาตั้งไว้กลางทุ่งนา แล้วทำเป็นร้านกาแฟสไตล์เก๋ๆ นอกจากได้ใกล้ชิดธรรมชาติแล้วกาแฟยังเป็นกาแฟแบบ Organic อีกด้วย

02

03

มีมุมให้นั่งชิลหลายมุม และมุมที่ฮิตที่สุดคือมุมที่ยื่นออกไปจากตัวร้าน นั่งห้อยขารับลมอยู่ด้านนอก เหมาะกับช่วงตอนเย็นที่แดดไม่แรงมาก รับลมและสูดกลิ่นธรรมชาติอย่างเต็มที่

04

05

การเดินทาง หากมาจากพิษณุโลก เจอแยกไฟแดงบ้านกร่างให้กลับรถที่จุดกลับรถที่ 2 สังเกตร้านจะอยู่ซ้ายมือเป็นร้านอยู่ริมทุ่งนา

ที่อยู่ ต.บ้านกร่าง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ตั้งอยู่ริมถนนทางหลวง 12 เส้นพิษณุโลก-สุโขทัย

เปิดทุกวัน 08.00-18.00 น. โทร.094-606-5156

06

07

08

09

10

11

12

ขอบคุณรูปภาพจาก: มันดี กล่อง กลาง ทุ่ง
ขอบคุณข้อมูลจาก:
Food MThai