‘หาดสีกายใต้’ ความสวยงามยามภัยแล้ง แห่งแดนอีสาน จ.หนองคาย

‘หาดสีกายใต้’ ความสวยงามยามภัยแล้ง
แห่งแดนอีสาน จ.หนองคาย

บ้านสีกายใต้ อีกหนึ่งตัวเลือกดีๆ ที่เหมาะควงแฟนมาเดินชิลล์ ชวนเพื่อนมาเล่นน้ำ หรือพาครอบครัวมาเปลี่ยนบรรยากาศ พักผ่อนสงบๆ ในเมืองเล็กๆ ริมน้ำโขงอย่างจังหวัดหนองคาย

หนองคาย เอ่ยชื่อนี้ขึ้นมาทุกคนต้องนึกไปถึง ปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคแน่ๆ แต่เดี๋ยวก่อน ช่วงนี้ยังไม่ใช่เวลาของพญานาค แต่เป็นปรากฏการณ์ น้ำโขงลดต่ำ จนเผยให้เห็นหาดทรายขาวโผล่พ้นน้ำขึ้นมา ในหลายอำเภอเลยทีเดียว

มีการประดับทิวธง เพื่อเป็นสัญลักษณ์บอกน้ำตื้นน้ำลึก

บ้านสีกายใต้ ตำบลสีกาย อำเภอเมืองหนองคาย ก็เป็นอีกจุดที่มีหาดเกิดขึ้น เมื่อระดับน้ำในแม่น้ำโขงลดลงอย่างต่อเนื่อง จนต่ำที่สุดเหลือเพียง 1.19 เมตร โดยหาดทรายทอดยาวกว่า 1 กิโลเมตร กว้างประมาณ 100 เมตร ชาวบ้านเลยเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยว เล่นน้ำคลายร้อน ก่อทรายริมหาด รวมถึงมีซุ้มขายอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งในปีที่ผ่านมา ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวอย่างมาก สามารถสร้างรายได้ให้ชุมชน ขณะว่างเว้นจากการทำนา

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมการแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน วอลเล่ย์ชายหาด การประกวดร้องเพลง การก่อเจดีย์ทราย บานาน่าโบ๊ท และการเล่นสงกรานต์ชายหาด มองๆ ดูแล้วบรรยากาศเหมือนอยู่ทะเลพัทยาเลยก็ว่าได้ ^^ โดยจะเปิดหาดอย่างเป็นทางการในที่ 18 มีนาคม 2561 นี้

บ้านสีกาย อยู่ห่างจากตัวเมืองหนองคายประมาณ 18 กม. โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 212 (หนองคาย-โพนพิสัย) มุ่งหน้าไปทางอ.โพนพิสัย ประมาณกม.ที่ 18 มีทางแยกเข้าสู่บ้านสีกายเหนือระยะทางประมาณ 2 กม.

ขอบคุณรูปภาพจาก : หาดทรายสีกายใต้, หาดสีกายใต้

 

หวานฉ่ำริมฝั่งโขงกับ 4 คาเฟ่เด็ด จ.หนองคาย

1

เมืองหนองคาย ทุกๆ ไตรมาสสุดท้ายของปี ก็จะมีงานประจำปีคือเทศกาลบั้งไฟพญานาค ลมหนาวก็กำลังจะมาถึง ใครที่มีโอกาสไปจังหวัดหนองคาย ลองไปนั่งคาเฟ่สวยๆ ในบรรยากาศดีๆ รับรองว่าเมนูน่ากินไม่แพ้คาเฟ่ที่กรุงเทพเลยค่ะ

หวานฉ่ำริมฝั่งโขงกับ 4 คาเฟ่เด็ด จ.หนองคาย

1.Black Corner Coffee And Bistro

2

Black Corner Coffee And Bistro – ร้านโทนสีดำ แต่แสนอบอุ่นในสไตล์บิสโทร ขนาดร้านไม่ใหญ่มาก ร้านมีสไตล์เท่ๆ เป็นคาเฟ่ที่จำหน่ายทั้ง อาหาร ขนม และเครื่องดื่ม อาหารประเภทหลักๆ จะเป็นเมนูอาหานอิตาเลียน และอาหารไทยก็จะเป็นฟิวชั่น เห็นร้านเล็กแบบนี้ เมนูมีให้เลือกหลากหลายมาก ตามมาด้วยเมนูขนมหวานอย่าง ฮันนี่โทสต์ บิงซู วาฟเฟิล ไอศกรีม และเครื่องดื่มพวกชา กาแฟ และอิตาเลียนโซดา และทางร้านก็จัดบริการเอาใจคนชอบนั่งชิลล์ นั่งทำงาน ที่นี่มี free wifi และ ปลั๊กไฟให้ใช้ด้วยนะคะ

3

ที่อยู่: ปากซอยชัยภูมิ2 ถนนประจักษ์ อำเภอเมือง หนองคาย 43000
เปิดทุกวัน (ปิดวันพุธ) 10.00 – 21.00 น.
Facebook Black Corner Coffee And Bistro

  1. บ้านทวด Baan Tuad coffee house

4

บ้านทวด Baan Tuad coffee house – ชื่อร้านว่าบ้านทวด ก็คือบ้านของคุณทวดของเจ้าของร้าน ที่เป็นมรดกตกทอดมารุ่นสู่รุ่น จึงเป็นที่มาของร้านกาแฟเก๋ๆ อบอุ่นเหมือนอยู่ในบ้านหลังเก่า บ้านหลังนี้เป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้นหลังแรกของจังหวัดหนองคายเลยค่ะ นอกจากจะได้ดื่มกาแฟร้อนๆ แล้วยังได้ชมอาคารบ้านเรือนที่มีประวัติน่าสนใจ บ้านเดิมๆ แล้วนำมาตกแต่งเพิ่มเติมเล็กน้อย แต่ก็ยังคงอารมณ์เก่าๆ ของตัวบ้านได้เป็นอย่างดี หากมีโอกาสมาเที่ยวที่หนองคาย ก็อย่าลืมแวะมากันได้นะคะ

5

6

ที่อยู่:  ข้างซอยวัดศรีเมือง ถนนมีชัย จังหวัดหนองคาย
เปิดทุกวัน (ปิดวันพุธ) 9.00 – 20.00 น.
Facebook บ้านทวด Baan Tuad coffee house

  1. Natit coffee and crafts

7

Natit coffee and crafts – ในย่านชานเมืองของหนองคายจะมีร้านสบายๆ ขับรถลอดใต้สะพานมิตรภาพไทยลาวไปทางอำเภอท่าบ่อ ร้านจะอยู่ซ้ายมือเยื้องกับโรงแรมรอยัลแม่โขงบรรยากาศร้านเหมือนบ้านมากๆ เป็นบ้านปูน 2 ชั้น แต่ตัวร้านจะอยู่บนชั้น 2 สามารถนั่งทานกาแฟได้ทั้งด้านในและด้านนอกร้าน ส่วนเมนูก็จะเป็นเมนูทั่วไปอย่างเช่น ลาเต้ร้อน ชาเขียวนมสด ฮันนี่โทสต์ และเค้กรสชาติต่างๆ

8

ที่อยู่:  9 ม.1 ถ.พนังชลประทาน ต.กวนวัน อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย 43000
เปิดทุกวัน เวลา 08.30 – 19.00 น.
Facebook Natit coffee and crafts – Nongkhai

  1. Kook cake Dessert Cafe

9

Kook cake Dessert Cafe – ร้านสไตล์ Homemade เมนูอาหารก็จะเป็นแนวอิตาเลียน และอาหารไทย ส่วนของหวานและเครื่องดื่มก็มีให้เลือกมาหมาย ขนมอบสดใหม่ทุกวันเพราะขนมที่นี่ เจ้าของร้านทำเองกับมือ ขนมจึงมีความสดใหม่ในทุกๆ วัน ที่ตั้งร้านอยู่ในเมืองท่าบ่อ อยู่ห่างจากตัวเมืองหนองคายประมาณ 30 กิโลเมตร

10

ที่อยู่:  219 หมู่ 12 ถ.มิตรภาพ เมืองท่าบ่อ จ.หนองคาย
เปิดทุกวัน เวลา 10.00 – 21.00 น.
Facebook Kook cake Dessert Cafe

เรียบเรียงโดย Food MThai

 

เที่ยวแบบ Slow Life ที่หนองคายเมืองชายโขง

01

เมื่อพูดถึงจังหวัดหนองคาย หลายคนรู้จักแค่ว่าเป็นเมืองทางผ่านไปเที่ยวประเทศลาว บางคนรู้จักแค่เรื่องราวของบั้งไฟพญานาค ใครจะรู้ว่าจังหวัดเล็กๆ ริมแม่น้ำโขงแห่งนี้จะมีประสบการณ์ใหม่ๆ ที่รอให้คุณได้สัมผัส แล้วคุณจะรู้ว่า… หนองคายไม่ใช่แค่เมืองทางผ่านอีกต่อไป แต่เหมาะกับการเก็บกระเป๋าแล้วไปใช้ชีวิต Slow Life… เดินทางปั่นจักรยานไปพบกับผู้คนที่พร้อมจะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ดีๆ ร่วมกันมากกว่า มาดูกันว่าจะมีที่ไหนกันบ้าง

02

ตลาดท่าเสด็จ

03

หลายคนรู้จักในชื่อ ตลาดอินโดจีน บางคนเรียกเก๋ๆ ว่าตลาดท่าเรือ เพราะในอดีตเป็นท่าเรือซื้อขายสินค้าระหว่างไทยและลาว ขาช้อปต้องไม่พลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะปัจจุบันตลาดท่าเสด็จเป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าจากกลุ่มประเทศอินโดจีน ทั้ง ไทย ลาว พม่าเวียดนาม และจีน พูดง่ายๆ ว่า มาที่เดียวเหมือนได้ช้อปพร้อมกัน 5 ประเทศ นอกจากนี้บริเวณอาคารตลาดท่าเรือ ได้จำลองบรรยากาศร้านค้าโบราณในยุคคุณพ่อคุณแม่ยังสาวๆ ลองย้อนเวลาวันวานดูสักครั้งก็ดีนะบรรยากาศที่หายากแบบนี้จะทำให้เราได้เห็นภาพว่า ยุครุ่นคุณพ่อคุณแม่นั้นมีความเป็นอยู่และใช้ชีวิตกันอย่างไร

วัดโพธิ์ชัย

04

หรือหลายคนเรียกว่า วัดหลวงพ่อพระใสหลวงพ่อพระใสถูกสร้างในอาณาจักรล้านช้าง หรือประเทศลาวในปัจจุบัน หลังจากที่ล้านช้างได้แพ้สงครามให้กับสยาม จึงได้อัญเชิญหลวงพ่อพระใสมาที่ฝั่งไทยเพื่อนำกลับไปยังกรุงเทพฯ แต่ระหว่างทางได้เกิดปาฏิหาริย์เกวียนที่อัญเชิญหลวงพ่อพระใสหักไม่สามารถเดินทางต่อไปได้ จึงได้นำมาประดิษฐานที่วัดโพธิ์ชัยในปัจจุบันนอกจากนี้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์จะมีการแห่หลวงพ่อพระใสรอบเมืองเพื่อให้ประชาชนได้สรงน้ำพระ ซึ่งถือว่าเป็นงานใหญ่ประจำภูมิภาคเลยทีเดียว

พระธาตุกลางน้ำ

05

เดิมนั้นชื่อพระธาตุหล้าหนอง ตามตำนานกล่าวว่าสร้างมาพร้อมกับพระธาตุพนมพระธาตุแห่งนี้สร้างเพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระบรมธาตุฝ่าพระบาทเก้าพระองค์เดิมตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง แต่เมื่อน้ำหลากกระแสน้ำจึงได้พัดพาองค์พระธาตุจมลงสู่กลางแม่น้ำโขงอย่างที่เห็นกันในปัจจุบัน ยามน้ำลดก็จะเห็นตัวพระธาตุได้มากหน่อย เพราะในช่วงหน้าแล้งส่วนฐานของพระธาตุจะโผล่พ้นน้ำขึ้นมาให้เราชมได้อย่างเต็มตา แต่ถ้าใครยังอยากสัมผัสพระธาตุใกล้ๆ ก็สามารถนั่งเรือหางยาวลัดเลาะลำ น้ำโขงออกไปชมรอบๆ พระธาตุก็ได้ และปัจจุบันก็ยังได้สร้างพระธาตุจำ ลองขึ้นมาใหม่ในตำแหน่งเดิมบนชายฝั่ง เพื่อให้ผู้คนได้มาสักการะบูชาด้วย

ชุมชนธาตุใต้

06

ชุมชนที่ใช้ชีวิตร่วมกันกับสายน้ำ ผู้คนในชุมชนแห่งนี้จะหาเลี้ยงชีพด้วยการประกอบอาชีพหาปลาเป็นหลักด้วยอุปกรณ์พื้นบ้านที่เรียกว่า “เบ็ดเผือก”แค่ฟังชื่อก็งงไปตามๆ กัน เบ็ดเผือกที่ว่านี้มีหลักการคล้ายๆ กับเบ็ดตกปลาทั่วไปแต่จะใช้สายสลิงยาว 20 เมตร แทนเอ็นตกปลา แถมเหยื่อที่ใช้ก็สุดแปลกเพราะใช้ขนมชั้น บางทีก็ใช้ลูกชิ้น ซึ่งก็เป็นเหยื่อชั้นดีที่ทำให้จับปลาได้จำนวนไม่น้อยสงสัยปลาแถวนี้คงติดขนมหวานกันซะแล้ว

สะพานมิตรภาพไทย – ลาว

07

เป็นสะพานที่เชื่อมระหว่างหนองคายและเมืองท่านาแล้ง แขวงเวียงจันทน์ในประเทศลาว เราสามารถเดินขึ้นสะพานเที่ยวชมบรรยากาศกลางแม่น้ำโขงอันเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างไทยและลาวได้อย่างใกล้ชิดได้ แต่เดินได้เพียงครึ่งทางของสะพานเท่านั้นนะ เพราะอีกครึ่งทางจะเป็นเขตของประเทศลาวไปแล้ว

ตลาดแคมของ

08

ตลาดแคมของเป็นภาษาอีสานแปลว่า ตลาดริมแม่น้ำโขง ที่นี่จะเปิดทุกๆ วันเสาร์ ณ ตลาดริมโขงนี้จะมีการจำ หน่ายสินค้าท้องถิ่น ของฝาก อาหารมากมาย เรียกได้ว่าขาช้อป ขากินกิน ห้ามพลาดเด็ดขาด

หากใครอยากหลีกหนีความวุ่นวายในเมืองใหญ่แล้วคิดอยากจะออกมาใช้ชีวิต Slow Life ในแบบฉบับคนริมแม่น้ำโขงสักครั้ง ก็ให้เตรียมเก็บกระเป๋าแล้วลองมาเที่ยวที่หนองคายสักคืน มาสัมผัสวิถีชีวิตมาลองกินอาหาร มาชมที่เที่ยวสวยๆ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเรื่องเล่า ณ หนองคายเมืองชายโขงแห่งนี้ ที่พร้อมจะแบ่งปันความสุขให้แก่นักเดินทางทุกคนเสมอ

เครดิตจาก : นิตยสาร Weekend ฉบับเดือนสิงหาคม 2016
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : www.mbookstore.com
เรียบเรียงโดย : Travel MThai