สูดโอโซน นอนเต็นท์หรูติดแอร์ ที่ Lalamukha Tented Resort @เขาใหญ่

ออกไปสูดอากาศดีๆ ที่เขาใหญ่กัน… กับที่พักแนบชิดธรรมชาติไม่ไกลกรุง ลาลา มูก้า เต้นท์ รีสอร์ท @เขาใหญ่ (Lalamukha Tented Resort Khao yai) นอนเต็นท์หรูติดแอร์สไตล์ซาฟารี บรรยากาศเงียบสงบ โอบล้อมไปด้วยภูเขา เพียงแค่นึกก็ฟินแล้ว แถมสลัดภาพความลำบากในการนอนเต็นท์แบบเก่าๆ ไปได้เลย

สูดโอโซน นอนเต็นท์หรูติดแอร์
Lalamukha Tented Resort@เขาใหญ่

ลาลามูก้า ชื่อนี้มีความหมาย
ลาลามูก้า เต็นท์ รีสอร์ท เขาใหญ่ ที่ใครได้ยินชื่อครั้งแรกก็ต้องสะดุด คำว่า “ลาลา มูก้า” โดยคำนี้มีที่มาจากภาษาชนเผ่าแอฟริกาใต้ แปลว่า “ผ่อนคลาย” นั้นเอง การออกแบบเต็นท์ของที่นี่ จะออกแนว Glamping มีความหรูหรา สะดวกสบายด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ และเน้นการตกแต่งแบบซาฟารี ใช้วัสดุและสีที่กลมกลืนกับธรรมชาติ

และที่นี่ยังให้ความสำคัญเรื่องระบบความปลอดภัย และกฎระเบียบของที่พัก ที่ผู้เข้าพักจะต้องมีคีย์การ์ดเพื่อเข้าออกเสมอ และจะมีกุญแจเล็กๆ ใช้สำหรับล็อคเต็นท์ทุกครั้งก่อนออกไปข้างนอก อ่อ…ไม่ต้องห่วงเรื่องไวไฟ ที่นี่มีไวไฟใช้ได้ทั่วถึงทุกที่

ห้องพัก 3 แบบ 3 สไตล์

สำหรับที่พักที่นี่มีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ คือ

1. Eco Safari tents เต็นท์นอนสำหรับสองคน ภายในมีเตียง โซฟา ทีวี ตู้เย็น โคมไฟ ตู้เย็น และมีขนม ผลไม้ให้ทานฟรี!

หมวก กระเป๋า รองเท้า ร่มภายในห้องพัก ผู้เข้าพักสามารถนำไปใช้บริเวณรีสอร์ทได้

แต่เต็นท์นี้จะไม่มีห้องน้ำในตัว ต้องเดินไปใช้ห้องน้ำรวมที่ตั้งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากที่พัก มีห้องสุขา ห้องอาบน้ำ indoor และ outdoor มีล็อคเกอร์ให้เก็บของและห้องกระจกตรงกลางแทน พร้อมไดร์เป่าผมวางให้ใช้เสร็จสรรพ โดยรวมถือว่าห้องน้ำสะอาดมาก แต่จะลำบากช่วงกลางคืนที่ต้องเดินมาเข้าห้องน้ำนอกเต็นท์ลำพัง

2. Deluxe savanna tent เต็นท์ขนาดใหญ่ หมดปัญหาเรื่องการเดินไปเข้าห้องน้ำ เพราะมีห้องน้ำในตัวพร้อม มีเตียงนอน โซฟา ทีวี และอื่นๆ เหมือนกับ Eco Safari tents

3. Loft Tree house เปลี่ยนจากนอนเต็นท์ มานอนบ้านต้นไม้ เหมาะกับการมาพักแบบครอบครัว ภายในห้องพักมีเตียงนอนสองชั้น ชั้นล่างสำหรับผู้ใหญ่ และชั้นบนเหมาะสำหรับเด็กสามารถปืนขึ้นไปพัก มีหน้าต่างให้ชมวิวบรรยากาศแบบมุมสูงด้วย

ห้องอาบน้ำมีทั้งแบบฝักบัวและอ่างอาบน้ำ

ส่วนบริเวณใต้ถุนสามารถนั่งเล่น หรือนอนเล่นบนตาข่ายชิลสุดๆ

นอกจากนี้บริเวณโดยรอบรีสอร์ท ยังมีโซนสระว่ายน้ำ สามารถลงเล่นน้ำท่ามกลางธรรมชาติที่โอบล้อมไปด้วยภูเขา

หรือจะเดินเล่นถ่ายรูปโซนรอบกองไฟ ที่ให้ฟิวเหมือนมาเข้าค่ายลูกเสือ ยิ่งถ้ามีโอกาสมาช่วงอากาศเย็นๆ และนั่งรอบกองไฟเพื่อให้ร่างกายอบอุ่นตรงนี้ คงฟินไม่เบา

ต่อด้วยสะพานแขวนที่เชื่อมระหว่างโซนล็อบบี้และบ้านต้นไม้ ที่ใครเห็น ก็ต้องอยากไปถ่ายรูป บวกกับได้แบล็คกราวน์ข้างหลังเป็นบ้านต้นไม้ ยิ่งสวยมาก

ปิดท้ายด้วยมุมห้องอาหาร indoor และ outdoor ที่สามารถนั่งทานอาหารไปชมวิวไป รับลมเย็นๆ ช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยล้าได้เยอะทีเดียว

ส่วนตอนเช้าที่นี่ก็ปลุกแขกน่ารักๆ ด้วย birds sing in the morning ก่อนออกไปทานอาหารเช้าฟรี ที่มีให้เลือกทั้งอเมริกันเบรคฟราส และ อาหารไทย พร้อมชมวิวสูดบรรยากาศช่วงเช้า ของ ลาลา มูก้า เต้นท์ รีสอร์ต เขาใหญ่ ให้เต็มปอดอีกสักรอบ ก่อนกลับกรุง

ที่ตั้ง : ลาลา มูก้า เต้นท์ รีสอร์ต เขาใหญ่ 515 หมู่ 5 ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
ราคา : 2,835 – 9,600 บาท
โทร : 044-300-691
Website : http://lalamukha.com
Facebook : https://www.facebook.com/lalamukha

Lalamukha Tented Resort Khao Yai นอนเต็นท์ติดแอร์ แนบชิดธรรมชาติ

เบื่อไหม กับการนอนโรงแรม ที่มองทางไหนก็เจอแต่ห้องสี่เหลี่ยม แต่ให้นอนเต็นท์ ก็กลัวจะลำบาก งั้นตามเราไปที่ ลาลา มูก้า เต็นท์ รีสอร์ท เขาใหญ่ (Lalamukha Tented Resort Khao Yai)เต็นท์ติดแอร์ ท่ามกลางอ้อมกอดของขุนเขา วิวธรรมชาติ รับรองสะดวกสบาย หรูหราเทียบเท่าโรงแรมเกรดเอ ในบรรยากาศเงียบสงบ น่าพักผ่อน ที่สำคัญคือเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย มันดีตรงนี้ ^^

Lalamukha Tented
Resort Khao Yai
นอนเต็นท์ติดแอร์ แนบชิดธรรมชาติ

ลาลามูก้า เป็นรีสอร์ทเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ สไตล์ Glamping คือการกางเต็นท์กลางป่า อยู่แนบชิดกับธรรมชาติ แต่ไม่รบกวนสัตว์ต่างๆ มีความหรูหราและสะดวกสบายกว่า Camping ทั่วไป

สำหรับคำว่า ลาลา มูก้า มาจากภาษาชนเผ่าแอฟริกาใต้ แปลง่ายๆ ว่าผ่อนคลาย ที่นี่เน้นการตกแต่งแบบซาฟารี ใช้วัสดุและสีที่กลมกลืนกับธรรมชาติ โดยมีที่พักทั้งหมด 3 แบบ คือเต็นท์สองแบบ และบ้านต้นไม้ ให้ฟิลล์เหมือนมาเข้าค่ายลูกเสือเลยล่ะค่ะ

1. Eco Safari tents เป็นเต็นท์ขนาดนอนได้สองคน มีทั้งหมด 18 เต๊นท์ ภายในจะมีเตียง โซฟา ทีวี ตู้เย็น โคมไฟ มีของในตู้เย็นและบนโต๊ะทีวีให้ทานได้ฟรี มีผลไม้ และอื่นๆ แต่เต๊นท์นี้จะเป็นแบบไม่มีห้องน้ำในตัว เราต้องออกมาใช้ห้องน้ำรวม ซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน ห้องน้ำรวมสะอาดมาก สร้างขึ้นมาเป็นบ้านหลังเล็กๆ อีกหลัง มีห้องสุขา ห้องอาบน้ำ indoor และ outdoor มีห้องกระจกตรงกลาง มีล็อคเกอร์ให้เก็บของ และมีไดร์เป่าผมให้เสร็จสรรพ

  • ราคาช่วงเดือนมีนาคม – ตุลาคม Weekday  (วันอาทิตย์พฤหัสบดี) จะอยู่ที่ 2,835 บาท Weekend (วันศุกร์และเสาร์) จะอยู่ที่ 3,240

2. Deluxe savanna tent เป็นเต็นท์ขนาดใหญ่ มีห้องน้ำในตัว มีเตียงนอน โซฟา ทีวี และอื่นๆ เหมือนกับเต็นท์แรกที่กล่าวมา จะเป็นเต็นท์แบบครอบครัว เหมาะสำหรับพ่อแม่ลูกมาพักผ่อน

  • ราคาช่วงเดือนมีนาคม – ตุลาคม Weekday  (วันอาทิตย์พฤหัสบดี) จะอยู่ที่ 3,840 บาท Weekend (วันศุกร์และเสาร์) จะอยู่ที่ 4,200 บาท

3. Loft Tree house เป็นบ้านพักลักษณะเป็นบ้านต้นไม้ บ้านจะค่อนข้างสูง และวิวก็สวยไปอีกแบบ มีใต้ถุนไว้นั่งเล่น เหมาะสำหรับพักผ่อนเป็นครอบครัว เพราะราคาก็ไม่เบาเลยทีเดียว

  • ราคาช่วงเดือนมีนาคม – ตุลาคม Weekday  (วันอาทิตย์พฤหัสบดี) จะอยู่ที่ 8,000 บาท Weekend (วันศุกร์และเสาร์) จะอยู่ที่ 8,800 บาท

วินาทีแรกที่เรามาถึง ที่นี่เงียบเชียบมาก ราวกับไม่มีคน รู้สึกเป็นส่วนตัว ทางที่พักก็จะแนะนำระบบความปลอดภัย และกฎระเบียบของที่พัก ระบบความปลอดภัยของที่นี่คือจะต้องมีคีย์การ์ดเพื่อเข้าออกเสมอ และจะมีกุญแจเล็กๆ ให้เราล็อคเต๊นท์ทุกครั้งก่อนออกไปข้างนอก

ขอบคุณภาพจาก lalamukha

หลังจากพักผ่อนเอาแรงสักพักก็เดินไปสำรวจรอบๆ รีสอร์ท รอบๆ จะติดสายเคเบิล เอาไว้ปล่อยกระแสไฟฟ้า ไม่รู้เอาไว้ป้องกันสัตว์ป่า หรือกันคน มีสะพานให้เดินถ่ายรูปสวยๆ ด้วย

ขอบคุณภาพจาก Lalamukha Tented Resort Khao Yai

เสร็จจากถ่ายรูปก็มาว่ายน้ำ สระว่ายน้ำดีมากๆ อยู่ข้างหน้าเต็นท์เลยไม่ต้องเดินไกล เป็นสระว่ายน้ำ outdoor มองออกไปข้างหน้าเป็นภูเขาและท้องฟ้า สระสะอาดและเงียบสงบมากๆ มาวันธรรมดานี่ดีจริงๆนะ เหมือนที่พักเป็นของเรา ข้างๆ มีเปลให้นั่งเล่นนอนเล่น และบริเวณสระมีที่ให้นั่งเล่น มีขนมให้หยิบทานฟรี มีปลั๊กไฟ ไวไฟทั่วถึงทุกที่

พอตกกลางคืน ก็สามารถขึ้นไปนั่งดูดาว ชมวิว บนชั้นสองที่ออกแบบเป็นสวนขนาดเล็กของห้องอาหาร Jabulani ได้ ส่วนตอนเช้าทางที่พักก็มีอาหารเช้าฟรี ให้เลือกทั้งอเมริกันเบรคฟราส และอาหารไทย ดีงามสุดๆ อ้อ! อีกอย่างหนึ่งคือ ที่นี่งดส่งเสียงรบกวนสัตว์ตั้งแต่เวลา 23.00 . ถึง 7.00 . นะคะ โดยมีคู่มือบอกไว้ว่า birds sing in the morning น่ารักกกก

ลาลา มูก้า เต็นท์ รีสอร์ท” ก่อนมาก็บอกตัวเองว่าอย่าคาดหวัง เพราะจะเป็นยังไงก็เลือกที่จะมาแล้ว สำหรับคนอื่นเราไม่รู้ว่าจะชอบมั้ยนะ คือมันก็ไม่ได้เลิศหรูขนาดนั้น แต่สำหรับเรา ประทับใจมากจริงๆ ไม่ว่าจะบรรยากาศ หรือการใสใจรายละเอียดกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างในเต็นท์ก็มีหมวก ร่ม ถุงผ้าให้ใช้ ถ้ามีโอกาสเราจะกลับไปอีกแน่นอน

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก Imminimus

เที่ยวคลายร้อน สระน้ำผุดธรรมชาติ ใกล้เขาใหญ่ ฤดูไหนก็ไปได้!

เที่ยวคลายร้อน สระน้ำผุดธรรมชาติ ใกล้เขาใหญ่ ฤดูไหนก็ไปได้!

ถ้าใครอยากไปเล่นน้ำคลายร้อน พร้อมได้เห็นธรรมชาติที่ร่มรื่น และน้ำสีฟ้าเขียวใสเหมือนมรกต แต่ไม่อยากนั่งเครื่องบินไปไกลถึงทะเลใต้ ก็ลองมาดูที่ สระน้ำผุดธรรมชาติ ที่ปากช่องกันดู ขับรถชั่วโมงนิดๆ ก็จะเล่นน้ำชมธรรมชาติ เหมาะสำหรับกลุ่มครอบครัว เพื่อนๆ สามารถมาปิคนิคและนั่งพักผ่อนได้!

สระน้ำผุด หรือ บ่อน้ำพุธรรมชาติบ้านท่าช้าง ตั้งอยู่ในตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง เป็นตาน้ำที่มีน้ำไหลมาตลอดปี มีน้ำผุดออกมาโดยธรรมชาติ โดยน้ำที่ผุดขึ้นมาเป็นน้ำฝนที่ตกไปอยู่ในใต้ดินและก่อนที่จะผุดขึ้นมาจากผิวดินก็ได้รับการกรองจากก้อนหิน ที่มีแคลเซียมคาร์บอเนตสูง ทำให้น้ำมีความใส ลักษณะของน้ำมีสีฟ้าเขียวมีคุณสมบัติความเป็นด่างของน้ำนั่นเองคล้ายกับ สระมรกตที่กระบี่ น้ำจะใสมากๆๆๆ

สระน้ำผุด นี้จะมีบ่อหรือชั้นลดหลั่นกัน ไปเป็นบ่อๆ มีประมาณ 4 สระ เชื่อมต่อกัน มีการสร้างฝายกันน้ำ เป็นน้ำตกสามารถลงเล่นน้ำได้ *ยกเว้น บริเวณที่เป็นตาน้ำจะไม่อนุญาติให้ลงเล่น โดยมีถนนทางเดินเล็กๆ เดินเข้าไป มีสะพานข้ามไป ฝั่งตรงข้าม ทัศนียภาพรอบบ่อน้ำ เต็มไปด้วยต้นไม้เป็นร่มเงา เขียวขจี เหมาะสำหรับมาปิคนิคและนั่งพักผ่อน

บริเวณหน้าทางเข้ามี ร้านขายอาหาร ประเภทส้มตำ ไก่ย่างอยู่หลายร้านสามารถ นำเข้าไปทานข้างในได้ แต่ห้ามนำเครื่องดื่มแอลกฮอลล์เข้าไปดื่ม สระน้ำผุดให้เข้าชมฟรีโดย ไม่เสียค่าใช้จ่าย

ที่ตั้ง : อยู่ในสวนกาญจนาภิเษก ต. หมูสี อ. ปากช่อง จ.นครราชสีมา

ขอบคุณรูปภาพ : น่ารู้รอบโลก

ขอบคุณข้อมูล : http://www.paiduaykan.com/