หากเอ่ยถึงประเทศปากีสถาน ทุกคนอาจจะนึกภาพบ้านเมืองที่แร้นแค้น เต็มไปด้วยถิ่นทุรกันดารและเขตสงคราม เป็นดินแดนที่ไม่น่าพิศมัยนัก คงไม่เหมาะกับการเดินทางไปท่องเที่ยว แต่หากคุณได้เห็นภาพต่อไปนี้ มันจะเปลี่ยนความคิดคุณไปตลอด คุณต้องไม่เชื่อแน่ๆ ว่า 17 สถานที่สุดมหัศจรรย์เหล่านี้ จะอยู่ในปากีสถาน ??

1. เหมือนถูกร่ายมนต์ ด้วยอภินิหารแห่งนาร์เนีย

แม่น้ำ Ghizer แห่ง Gilgit-Baltistan ไหลผ่านหุบเขาและทุ่งหญ้า เป็นภาพที่เหลือเชื่อ ดังอัญมณีในความแห้งแล้ง

2. นี่คือภาพที่คุณเห็น เมื่อเปิดหน้าต่างรีสอร์ท ในกาฐมาณฑุ

พบกับภาพทิวทัศน์ของเทือกเขาหิมะ Hunza Valley แห่ง Gilgit-Balistan ดินแดนแห่งสันติและความสงบสุข

3. เอ๊ะ นี่มันแกรนด์ แคนยอน หรือ เมาท์ รัชมอร์ กันนะ ?

หุบเขาอันสลับซับซ้อนแห่งนี้ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Hingol แคว้น Balochistan มนต์เสน่ห์ที่คุณต้องหลงรัก

4. หมูบ้านกระท่อมไม้ ภาพอันน่ารักแห่งปากีสถาน

จุดท่องเที่ยวเชิงเกษตรและธรรมชาติ ตั้งอยู่ใน Arang Kel แคว้น Azad Kashmir ความสงบสุขที่คุณสัมผัสได้

5. ถ้ำอันสวยงามระยิบระยับ ไม่ได้มีแค่แอฟริกาใต้

ถ้ำที่รู้จักกันในนาม Moola Chotok แห่ง Khuzdar ในแคว้น Balochistan สวรรค์ใต้พื้นพิภพ

6. คาเฟ่สุดชิค กลิ่นอายแบบสวิส ที่นี่ก็มีพร้อมนะ

Kalam Valley ยุโรปน้อยแห่งปากีสถาน จุดท่องเที่ยวสุดฮอต ที่นักเดินทางจะพลาดไม่ได้

7. สวรรค์ของนักเดินทาง ไม่ได้มีแค่บราซิลกับชิลีหรอกนะ

Sajikot, Khyber Pakhtunkhwa น้ำตกสุดตระการตา น่าไปเอกเขนกเอนกาย เหมือนยกอเมริกาใต้มาไว้ใกล้คุณ

8. หิมาลัย แห่งปากีสถาน

เทือกเขานามว่า Rakaposhi-Haramosh แคว้น Karakoram ดินแดนที่นักปีนเขาต้องลองมาสัมผัสดูสักครั้ง

9. ดังสายน้ำหลาก จากน้ำตกไนแองการา

มุมมองสุดอัศจรรย์แห่งนี้ อยู่ที่หุบเขา Neelam แคว้น Kashmir ผืนป่าอันเขียวขจีจะทำให้คุณผ่อนคลายสบายใจ

10. อาจเป็นภูเขาไฟฟูจิ ในแบบฉบับทะเลทราย

โคลนภูเขาไฟแห่งนี้ ถือเป็นจุดท่องเที่ยวที่สำคัญของปากีสถาน ตั้งอยู่ในแถบ Hingol แห่งแคว้น Balochistan

11. คุณต้องโกหกแน่ๆ ถ้าบอกว่านี่ไม่ใช่ภาพในทวีปยุโรป

แต่เชื่อเถอะว่า มันคือสถานที่สุดงามในปากีสถาน นามว่า Attabad Lake ทะเลสาปแห่งหุบเขา Hunza

12. ใครจะคิดว่าปากีสถาน จะมีชายหาดทอดยาวสวยงามเช่นนี้

Ras Muari หาดริมภูเขายาวสุดเหยียดไปถึง Gadani Beach ในเมือง Karachi

13. ทิวทัศน์เหนือจินตนาการ ที่ไม่ได้มีแค่ไอซ์แลนด์

ชมพระอาทิตย์ตกท่ามกลางความหนาวเหน็บ ได้ที่ทะเลสาบ Shandur Lake แห่งเมือง Gilgit-Baltistan

14. เปรียบดั่งดินแดนแห่งทะเลสาบอันเวิ้งว้าง อย่างสก็อตแลนด์

บรรยากาศอันคราครึ้ม ในทะเลสาบ Dharam Sar Lake หุบเขา Kaghan เป็นภาพอันน่าพิศวงที่ต้องไปเห็น

15. หรือนี่จะเป็นฉากในมหากาพย์ซีรีส์ เกม ออฟ โทรน ?

หุบเขา Kalash Valley แห่งเมือง Chitral คุณแทบจะหยุดหายใจ เมื่อมาสัมผัสด้วยสายตา

16. อย่าคิดว่าน้ำตกแบบนี้ จะมีแค่ออสเตรเลีย ?

ถ้าน้ำตกมหัศจรรย์ ดุจดังเทพนิยายแห่งนี้ มีชื่อว่า Pir Ghaib ในเมือง Balochistan

17. วัดแห่งศรัทธา โอบอุ้มด้วยแม่น้ำอันศักดิ์สิทธิ์

Katas Raj Temple เป็นวัดพุทธศาสนา ตั้งอยู่ในเมือง Chakwal และยังเป็น 1 ใน 7 วัดโบราณของที่นี่อีกด้วย

ขอบคุณที่มา : www.shughal.com
เรียบเรียงโดย : Travel MThai

สวิตเซอร์แลนด์ ประเทศที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ของ ภูเขา ทะสาบ และธรรมชาติสวยๆ เป็นประเทศที่หมายปองของใครหลายๆ คน วันนี้เรามี 16 ที่เที่ยวในสวิตเซอร์แลนด์ ดินแดนในฝัน! มาฝากกัน หากใครอยากหาสถานที่ฮันนีมูน นี่แหละหนึ่งในประเทศที่ไม่ควรพลาด!

“กลาเซียเอ๊กซ์เพรส” รถไฟด่วนที่วิ่งช้าที่สุดในโลก วิ่งผ่านภูมิประเทศที่งดงามของเทือกเขาแอลป์ ผ่านชมอุโมงค์ สะพาน หุบเหว ผ่านสวิสแกรนด์แคนยอน และหุบเขาที่สูง 2,000 กว่าเมตร ตลอดเส้นทางท่านสามารถชมยอดเขาที่ปกคลุมด้วยธารน้ำแข็งได้

“แมทเธอฮอร์น” เป็นภูเขาที่มีชื่อเสียงมากในเทือกเขาแอลป์ ตั้งอยู่ระหว่างประเทศสวิตเซอร์แลนด์และอิตาลี ภูเขาที่สูงกว่า 4,478 เมตร รูปทรงปิรามิดที่งดงามตั้งอยู่บนพื้นที่ Zermatt ในส่วนของสวิตเซอร์แลนด์ ส่วนเมืองของอิตาลี เป็นภูเขาที่มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาชมความงามไม่เว้นแต่ละวัน เพราะที่นีมีความสวยงาม และมีเสน่ห์

“เจนีวา” เมืองที่เป็นสัญลักษณ์การท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของประเทศ สวิตเซอร์แลนด์ สามารถสัมผัสถึงสิ่งน่าตื่นตาตื่นใจทั้งสถานที่, กิจกรรมต่างๆ และ งานเทศกาล เราะจะพบกับการผสมผสานอย่างลงตัวของวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมกับความทันสมัยและแสงสียามค่ำคืนที่เจนีวา

“ทะเลสาบเจนีวา” ได้รับสมญานามว่าเป็น ไข่มุกของริเวียร่าแห่งสวิส ตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในสวิสและมีบางส่วน ที่อยู่ในเขตประเทศฝรั่งเศส เป็นแหล่งน้ำจืดที่ใหญ่เป็นอันดับสองของทวีปยุโรปกลาง เป็นที่ตั้งของเมืองสำคัญคือเมืองเจนีวาในประเทศสวิตเซอร์แลนด์

credit: Mark Weston

“อินเทอร์ลาเก้น” เป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่สวยงามและน่าค้นหาเมืองหนึ่งในประเทศ สวิตเซอร์แลนด์ สามารถชมทัศนียภาพต่างๆ ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้เข้าไปสัมผัสความงามที่เป็นเอกลักษณ์ของเมือง Interlaken

credit : Patrick

“กรินเดิร์วาลกรุน” เมืองที่มีชื่อเสียงของ กรุงเบิร์น เมืองหลวงที่สวยงามของของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ โดยตัวเมืองตั้งอยู่บนเทือกเขากรุงเบิร์น-แอลป์ ในช่วงฤดูหนาว เมืองเล็กๆแห่งนี้จะคับคั่งไปด้วยผู้คนที่หลั่งไหลมาจากทั่วสารทิศ เนื่องจากกรินเดลวาลด์นั้นเป็นเมืองแห่งรีสอร์ทกีฬาฤดูหนาวและมียังหมู่บ้านที่ใหญ่ที่สุดในยอดเขาจุงเฟรา อีกด้วย

“ยอดเขาจูงเฟรา” เป็นสถานที่ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความงาม ได้รับการยกย่องว่า เป็น Top of Europe ยอดเขาจุงเฟรา มีจุดชมวิวที่สูงที่สุดในยุโรป มีถ้ำน้ำแข็งที่แกะสลักให้สวยงามอยู่ใต้ธารน้ำแข็ง 30 เมตร โดยไม่เคยละลาย บนยอดเขา และสถานที่แห่งนี้ยังเป็นที่นิยมของนักสกีมาเล่นกีฬาที่ท้าทายที่นี่ การขึ้นสู่ยอดเขาจุงเฟราสามารถทำได้ โดยใช้รถไฟสายกลาเซียร์ เอ๊กซ์เพรส

“ลานสฟิงค์” เป็นหอดูดาวที่ตั้งอยู่บนภูเขายูงเฟรา สูงเป็นอันดับต้นๆของโลก มีลานกว้างไว้ชนทิวทัศน์อยู่ติดกันซึ่งสามารถขึ้นไปดูได้ฟรี แต่พิเศษตรงที่วิธีขึ้น ลิฟที่ใช้เดินทางจากสถานีเพื่อขึ้นไปยังหอดูดาวนั้นถูกสร้างขึ้นโดยการเจาะผ่านยอดเขา

“อเล็ท์ชกลาเซียร์” เป็นธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่มีความหนาวของน้ำแข็งเกือน 1 กิลโลเมตร และยาวกว่า 23 กิโลเมตรเลยทีเดียว เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเพราะความมหัศจรรย์ของน้ำแข็งปริมาณมหาศาลที่เกิดเป็นความสวยงามที่ธรรมชาติสร้างขึ้น

“ลูกาโน่” ตัวเมืองนั้นถูกล้อมรอบด้วยภูเขาจำนวนมาก อีกทั้งยังตั้งอยู่ริมทะเลสาบลูกาโน เมืองลูกาโน่ ได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญในช่วงฤดูร้อนอันแสนอบอุ่น จนส่งผลให้เมืองเล็กๆแห่งนี้กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์อีกด้วย

“ทะเลสาบโคโม่” เป็นจุดท่องเที่ยวที่สำคัญเพราะมีทัศนียภาพที่สวยงามจากเทือกเขาสลับซับซ้อนที่รายล้อมโอบกอดทะเลสาบเอาไว้ ทะเลสาบนี้เกิดจากการกัดเซาะของธารน้ำแข็งและทิ้งน้ำไว้จำนวนมากเมื่ออุณหภูมิของโลกเริ่มอบอุ่นขึ้น จนกลายเป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับสามของอิตาลี และเป็นทะเลสาบที่ลึกที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรปเลยทีเดียว

“เบอนีน่าเอ๊กซ์เพรส” คือรถไฟสายเก่าแก่ที่สุดของสวิสเซอร์แลนด์ ด้วยความสูง 2,253 เมตรกับวิวสองข้างทางที่ทำให้ เกิดความตื่นตาตื่นใจตลอดเส้นทางการเดินทาง เพราะเป็นการนั่งรถไฟที่สุดแสนโรแมนติก ผ่านเขตใจกลางเทือกเขาแอลป์ที่มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี ผ่านหุบเหว ลำธาร โตรกผา และทะเลสาบแสนสวย

credit: Hans-Rudolf Stoll

“สะพานโค้งแห่งบรูสิโอ” เป็นสะพานโค้งในเส้นทางรถไฟBernina Expressซึ่งมีความสวยงามระดับมรดกโลก ออกแบบมาเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นจากทางลาดชัน แต่กลับกลายเป็นผลงานชิ้นโบแดงของวิศวกรผู้สร้าง

“สะพานคาเปล” เป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่สุดในโลก มีอายุหลายร้อยปี ทอดตัวข้ามแม่น้ำรอยส์ เป็นสัญลักษณ์และประวัติศาสตร์ของเมืองลูเซิร์นเลยทีเดียว แต่ละช่องของสะพานจะมีภาพเขียนเป็นเรื่องราวประวัติความเป็นมาของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เป็นภาพเขียนเก่าแก่อายุกว่า 400 ปี

“สิงหินหินสลักบนหน้าผา” อนุสาวรีย์รูปสิงโตหิน สร้างเพื่ออุทิศให้กับทหารสวิสที่ตายในหน้าที่ที่ฝรั่งเศส ในด้านความกล้าหาญ ซื่อสัตย์และจงรักภักดี ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เมื่อดูสิงโตตัวนี้ จะเห็นว่ามีลักษณะนอนหมอบ มีหอกปักอยู่กลางหลัง สีหน้าแสดงความเจ็บปวดและเศร้าสร้อย

“ยอดเขาริกิ” เป็นเทือกเขาในภาคกลางของสวิตเซอร์แลนด์ เป็นที่รู้จักกันในฐานะ “ราชินีแห่งเทือกเขา” โดยยอดที่สูงที่สุด มีความสูงถึง 1,797.5 เมตร เราสามารถชมบรรยากาศวิวทิวทัศน์โดยรอบ ได้ทั้ง 360 องศา

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก : tourkrub.co
เรียบเรียงโดย : Travel MThai

เราอาจจะเคยได้ยินชื่อ ประเทศโครเอเชีย กันอยู่บ่อยๆ แต่ก็เชื่ออีกเหมือนกันว่าหลายคนยังไม่รู้ว่าที่นี่มีอะไร ท่องเที่ยวที่ไหน และมีอะไรน่าสนใจ วันนี้เราเลยจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับประเทศนี้กัน ถือว่าเป็นประเทศน่าเที่ยวอีกทีเลยล่ะ ..

ประเทศโครเอเชีย หรือชื่อทางการว่า สาธารณรัฐโครเอเชีย (Croatia) ตั้งอยู่ระหว่างภูมิภาคยุโรปกลาง ภูมิภาคยุโรปใต้ และภูมิภาคยุโรปตะวันออก เป็นประเทศรูปเสี้ยววงเดือนในยุโรป รูปร่างของประเทศคล้ายกับพระจันทร์เสี้ยวหรือเกือกม้า และมีอาณาเขตจรดทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ยุโรปกลาง และบอลข่าน

ซาเกร็บ คือชื่อเมืองหลวงของประเทศโครเอเชีย มีประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ สโลวีเนีย ฮังการี เซอร์เบีย บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา มอนเตเนโกร และอิตาลี

ดูบรอฟนิก (Dubrovnik) ได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองมรดกโลก จาก องค์การยูเนสโก เพราะเป็นเมืองเก่าดั้งเดิม ที่สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 7 ตลอดแนวกำแพง 2 กิโลเมตร ที่โอบเมืองเก่าเอาไว้ จึงเป็นระยะการเดินที่น่าสนใจไปทุกรายละเอียด เพราะนอกจากจะได้ศึกษาประวัติศาสตร์ของเมืองแล้ว ยังได้สัมผัสวิวทิวทัศน์ของเมืองเก่า และของกินทะเลอะเดรียติคอย่างเต็มอิ่ม

ที่พักในเมืองเก่าๆ แบบนี้นี่แหละ ที่เราจะได้ วิวแบบห้าดาว ที่รายล้อมไปด้วยหลังคาสีส้มๆ ตัวอาคารบ้านเรือนสีขาวๆ มีเสน่ห์ชวนมองไปอีกแบบ ซึ่งใครอยากไปพักที่นี่ แนะนำว่าให้พักในเมืองเก่านะคะ เพราะจะได้เดินสำรวจค่ำคืนแสนโรแมนติกของที่นี่ได้ด้วย

ใช่ว่าจะมีแค่ทอดสายตาชมเมืองสวย เดินเล่นริมกำแพงเก่า ที่นี่ยังมีอีกหลายสิ่งให้ทำ ทั้งล่องเรือออกไปชมความงามของท้องทะเลสีน้ำเงินครามแห่งอะเดรียติค มีเรือยอร์ชสุดหรูจอดเทียบฝั่งอยู่เรียงราย หรือนอนเกลือกกลิ้งปิ้งตัวอยู่ชายหาด ก็มีหาดใกล้ๆ เมืองเก่าให้นอนผึ่งแดดกัน หรืออยากจะขึ้นเคเบิ้ลไปชม ดูบรอฟนิก ในมุมสูงก็ทำได้อีกเหมือนกัน

ขอบคุณรูปภาพจาก : http://www.polkadotpassport.com/ ,  tourkrub.co

เรียบเรียงโดย : Travel MThai