มาเลเซียเปิดตัวแพ็คเกจใหม่ “เที่ยวโดนใจนั่งรถไฟไปมาเลเซีย”

1

เที่ยวโดนใจนั่งรถไฟไปมาเลเซีย”

2

รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมแห่งประเทศมาเลเซีย, ดาโต๊ะ ซรี โมฮัมเหม็ด นาซรี อับดุล อซิส ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดเส้นทางท่องเที่ยวทางรถไฟไปมาเลเซียอย่างเป็นทางการ ณ สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ ในวันที่ 14 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา เพื่อแสดงถึงความร่วมมือระหว่างการท่องเที่ยวมาเลเซีย การรถไฟแห่งประเทศมาเลเซีย และเป็นการฉลองครบรอบ 60 ปีความสัมพันธ์ทางการฑูตไทย-มาเลเซียในปีนี้อีกด้วย

พิธีเปิดดังกล่าวมุ่งหวังเพื่อประชาสัมพันธ์แพ็คเกจท่องเที่ยวใหม่จากบริษัทนำเที่ยวชั้นนำในภาคใต้ของประเทศไทย โดยใช้เส้นทางของการรถไฟแห่งประเทศมาเลเซียเดินทางจากหาดใหญ่สู่กรุงกัวลาลัมเปอร์ นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันสวยงามทางใต้ของประเทศไทยระหว่างทางเข้าสู่ประเทศมาเลเซีย แพ็คเกจนี้ไม่เพียงมอบประสบการณ์สุดพิเศษในการท่องเที่ยว แต่ยังรวมที่พัก มื้ออาหาร ตลอดจนกิจกรรมหลากหลายและการเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวสุดพิเศษเข้าไว้ด้วยกันไม่ว่าจะเป็น สวนสนุก ซิตี้ทัวร์ และไนท์ทัวร์ โดยมีราคาเริ่มต้นเพียง 4,451 บาท

3

สถานีรถไฟหาดใหญ่และปาดังเบซาร์ได้รับเลือกเป็นจุดเชื่อมโยงพรมแดนของทั้ง 2 ประเทศ โดยพิธีส่งผู้โดยสารในวันนี้ การท่องเที่ยวมาเลเซียได้รับเกียรติจากทั้งภาครัฐและเอกชนของไทยและมาเลเซียร่วมเป็นสักขีพยานกับทริปปฐมฤกษ์ โดยหลังเสร็จสิ้นพิธีเปิด จะมีตัวแทนกว่า 60 คนจากบริษัทนำเที่ยวตลอดจนสมาชิกสื่อมวลชนเข้าร่วมสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษนี้

ประเทศไทยยังคงเป็นตลาดที่สำคัญสำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของมาเลเซีย การมาถึงของนักท่องเที่ยวจากประเทศไทยยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในปี 2559 มีนักท่องเที่ยวชาวไทย 1.78 ล้านคน เดินทางมายังชายฝั่งของมาเลเซียซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 32.7% โดยมีรายรับ 3.5 พันล้านริงกิต หรือประมาณ 27.5 พันล้านบาท นอกจากนี้ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับให้เป็นอันดับ 4 ใน 10 ประเทศที่สร้างรายได้ด้านการท่องเที่ยวเข้าสู่มาเลเซีย ในขณะเดียวกันในช่วงปีพ. ศ. 2560 ระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคม มาเลเซียต้อนรับนักท่องเที่ยวไทยทั้งหมดประมาณ 813,000 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.8 โดย

แบ่งเป็นกลุ่มตลาดต่างๆ ที่น่าสนใจ เช่น การท่องเที่ยวสำหรับครอบครัว การท่องเที่ยวแบบสโลไลฟ์สำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อน การท่องเที่ยวเชิงศาสนา และผู้ชื่นชอบการชอปปิง

4

นอกจากนี้ การท่องเที่ยวมาเลเซียยังถือโอกาสประชาสัมพันธ์กิจกรรมที่กำลังจะเกิดขึ้นในปีหน้า “Kuala Lumpur International Craft Festival 2017” หรืองาน KLICF 2017 ครั้งที่ 3 ซึ่งจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 23-26 พฤศจิกายน 2560 โดย Malaysian Handicraft Development Corporation (MHDC) ที่ปุตราจายา ประเทศมาเลเซีย โดยในงานดังกล่าวจะมีตลาดจำหน่ายสินค้างานฝีมือจากศิลปินทั่วโลกที่มารวมกันภายใต้แนวคิด “Crafts Unite People” อีกทั้งยังมีกิจกรรมการแสดงด้านวัฒนธรรม การสาธิตวิธีการผลิตงานฝีมือ และนิทรรศการแสดงสินค้าจากศิลปินทั้งในประเทศมาเลเซียและศิลปินต่างชาติ ตลอดจนผู้ประกอบการออนไลน์ทั่วโลกที่จะนำสินค้างานฝีมือมาร่วมจัดแสดงและจัดจำหน่ายกันอย่างคึกคักในครั้งนี้ โดยจะมีช่างฝีมือและผู้ประกอบการจาก 44 ประเทศรวมทั้งสิ้น 442 ประเทศ ได้แก่ อาร์เจนตินา จีน อียิปต์ อินเดียอินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย มอริเชียส โมร็อกโก เนปาล ศรีลังกา ไต้หวัน ไทย ตุรกี สหรัฐอเมริกา และอุซเบกิสถาน

วัตถุประสงค์หลักของงาน KLICF 2017 คือ การดึงดูดชาวต่างชาติและผู้ซื้อที่สนใจสินค้าหัตถกรรม และยังเป็นเวทีที่ศิลปินแต่ละท่านจะได้นำเสนอเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของตนเองอีกด้วย นี่จึงเป็นโอกาสดีที่นักท่องเที่ยวชาวไทยจะได้ร่วมสัมผัสวัฒนธรรมและสินค้างานฝีมือของประเทศมาเลเซีย รวมทั้งผลงานของศิลปินจากหลากหลายประเทศทั่วโลก

 

ตามล่า 5 ร้านขนมน่าหม่ำประจำกัวลาลัมเปอร์

ตามล่า 5 ร้านขนมน่าหม่ำประจำกัวลาลัมเปอร์

01

ใครที่ไปเที่ยวกัวลาลัมเปอร์ช่วงนี้ นอกจากจะไปเที่ยวชมความสวยงามของจัตุรัสเมอร์เดก้า ท้าแดดเซลฟี่กับตึกแฝดสุดดัง ชอปปิ้งสุดปังกับห้างหรูหราอย่างพาวิลเลี่ยนเคแอลไปจนถึงตลาดของที่ระลึกในย่านไชน่าทาวน์แล้วนั้น ใครอยากเติมพลังการเดินทางในเมืองหลวงสุดฮอตแห่งเอเชียด้วยของหวานๆสุดพีค วันนี้ขอพาทุกท่านไปตะลุยชิม 5 ร้านขนมน่าหม่ำประจำกรุงกัวลาลัมเปอร์กันเลย เริ่มจาก…

1. ร้าน Cielo Dolci

02

ร้านอิตาเลียนเจลาโต้ชื่อดัง “เชลโล โดลชี่” ในมาเลเซียที่ติดยอดฮิตรีวิวถล่มทลายจากการรังสรรค์เมนูล่าสุดอย่าง ไอศกรีมรสนาซิเลอมะก์ ที่เขย่าวงการไอศกรีมในมาเลเซียจนสั่นสะเทือนมาแล้ว โดยเจ้าของร้านชาวอิตาเลียนตั้งใจทำร้านให้เป็นแล็บ (Lab) หรือห้องทดลองการรังสรรค์ไอศกรีมที่แตกต่างและโดดเด่นแต่ยังคงไว้ซึ่งรสชาติความอร่อยแบบตะวันตกผสมผสานกลิ่นอายตะวันออกอย่างมาเลเซียได้อย่างลงตัว โดยขั้นตอนพิถีพิถันกว่าจะได้ไอศกรีมแต่ละรสชาตินั้นไม่ง่ายเลย เริ่มตั้งแต่การเลือกสรรวัตถุดิบคุณภาพจากธรรมชาติทั้งหมด การจัดเตรียมผลไม้คุณภาพดี ละลายชอกโกแลต ใส่กลิ่นและเครื่องเทศจากธรรมชาติ บดถั่วและขั้นตอนอีกมากมายที่ปราศจากการใส่สารเคมีส่วนประกอบสังเคราะห์อื่นๆ เพื่อสร้างรสชาติสด ใหม่ให้สมจริงที่สุด ทำให้ไอศกรีมที่ผลิตออกมาแต่ละรสนั้นละมุนนุ่มเนียนลิ้นราวปุยเมฆทั้งหน้าตา รูปลักษณ์และรสชาติแปลกใหม่ต้องตาต้องใจ

เมนูเลื่องลือ:  ไอศกรีมรสนาซิเลอมะก์ รสสตรอเบอรี่บัลซามิค รสคริสต์มาส รสวนิลาออฟดิอีสต์

ราคาโดยเฉลี่ย: 8.80 ริงกิต ต่อถ้วย (เลือกได้ 2 รสชาติ) เพิ่ม 1 ริงกิตหากใส่โคนวาฟเฟิล

เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 10:00 – 22:00 น.

พิกัด: Whimsical – Gelateria & Caffe D2-G3-05, Solaris Dutamas No.1, Jalan Dutamas 1, 50480 Kuala Lumpur

เว็บไซต์: https://www.facebook.com/cielodolci/

2. ร้าน Siew Bao

03

กว่า 30 ปีที่แบรนด์ท้องถิ่นแท้ๆอย่าง Mr. Siew Bao เป็นที่ยอมรับในหมู่คนมาเลเซียเองว่าคือต้นตำรับขนมเปี๊ยะแบบจีนของแท้ ที่ก่อกำเนิดขึ้นจากเมืองสเรมบัน (Seremban) เมืองหลวงของรัฐเนกรีเซมบีลัน ห่างจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ไปประมาณ 50 กิโลเมตร ด้วยเคล็บลับความอร่อยตั้งแต่การคิดค้นสูตรเฉพาะ การคัดสรรวัตถุดิบอย่างพิถีพิถันตลอดจนกรรมวิธีการผลิตจากรุ่นสู่รุ่น ทำให้ได้ขนมเปี๊ยะหลากเมนูที่แสนอร่อย แป้งสดกรอบนอกนุ่มในหอมกรุ่นสอดไส้ชนิดต่างๆอย่างฉ่ำๆไม่แห้งจนเกินไป อาทิเช่นไส้ไก่ ผัก หรือผลไม้ ที่ลองแค่หนึ่งคำก็ติดใจติดปากคนท้องถิ่นมายาวนานกว่า 3 ทศวรรษ

เมนูเลื่องลือ: ขนมเสี่ยวเปา พายกะหรี่ไก่ ทาร์ตไข่และทาร์ตสับปะรด

ราคาโดยเฉลี่ย: 1-4 ริงกิต ต่อชิ้น

พิกัด: สนามบิน KLIA 2 และห้างสรรพสินค้าในเมืองอาทิ Sunway Pyramid

เวลาเปิด-ปิด: สนามบิน KLIA 2 เปิดทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง (สาขาในห้างเปิดปิดตามเวลาห้าง)

เว็บไซต์: https://www.facebook.com/Mr.SiewBao/

3.ร้าน Durian Kafe

04

เรื่องทุเรียนตัวเซียนคือ “มาเลเซีย” เพราะที่นี่จะเลื่องชื่อในการแปรรูปทุเรียนมากจนเกิดเป็น Durian Kafe ร้านขายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับทุเรียนทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นกาแฟทุเรียน น้ำทุเรียน พัฟทุเรียน ขนมเปี๊ยะทุเรียน ทุเรียบอบแห้ง อบกรอบ ทุเรียนทอด ชอกโกแลตทุเรียน ของที่ระลึกที่เกี่ยวกับทุเรียนทั้งหมดและที่พีคสุดคือ ไอศกรีมทุเรียน ที่เนื้อทุเรียนแน่นสุด กลิ่นหอมหวลของทุเรียนที่หอมหวานเย้ายวนเกินห้ามใจ ใครไปก็ต้องลอง และตอนนี้ Durian Kafe เปิดสาขาที่แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังอย่าง KL Tower แล้ว ใครไปผจญภัยที่นี่ก็ไม่ควรพลาดซื้อชิมผลิตภัณฑ์จากราชาแห่งผลไม้ที่มีที่มาเลเซียที่เดียวด้วยประการฉะนี้

เมนูเลื่องลือ: กาแฟทุเรียน ไอศกรีมทุเรียน พัฟทุเรียน ชอกโกแลตทุเรียน

ราคาโดยเฉลี่ย: 2 – 10 ริงกิต ต่อชิ้น

เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 09:00 – 23:00 น.

พิกัด: KL Tower, Jalan P Ramlee, 50250 Kuala Lumpur, Wilayah Persekutuan Kuala Lumpur, Malaysia

เว็บไซต์: https://www.facebook.com/Durian-Kafe-Malaysia-237285226472225/

4. ร้าน Alexis Bistro

05

คนมาเลเซียขนานนามให้ร้านนี้ว่า ร้านแห่งการปฎิวัติไลฟ์สไตล์ เพราะนอกจากรูปแบบการตกแต่งร้านที่ได้รับรางวัลด้านสไตล์สุดเท่ห์ เมนูฟิวชั่นหลากหลายที่ผสมผสานรสชาติอาหารฝรั่งและเอเชียได้อย่างลงตัวจนเป็นเอกลักษณ์ของร้านมากว่า 21 ปี ดึงดูดกลุ่มคนทำงาน  ครอบครัวหรือคู่รักและเพื่อนฝูงให้มานั่งชิวกินบรรยากาศสบายๆได้ตลอดแล้วนั้น ความพีคสุคชิคของร้านนี้คือ เค้กกกกโฮมเมดดดด ที่ใช้วัตถุดิบชั้นดีและดีต่อสุขภาพปรุงรสด้วยเชฟเบเกอรี่ชั้นเอก ทำให้เค้กทุกชิ้นทุกรอบที่ทำฉ่ำกลมกล่อม เนื้อเค้กหนานุ่มเนียน อัดแน่นไปด้วยเนื้อผลไม้ ถั่วและเครื่องแต่งต่างๆที่รวมตัวกันสร้างรสชาติพิเศษจนต้องยกนิ้วให้ ที่สำคัญชื้นใหญ่มว้ากกและไม่หวานเลี่ยนจนเกินไป พร้อมจิบกาแฟ ชา หรือน้ำผลไม้สดปั่นยามบ่าย จนต้องยกนิ้วให้ทั้งความสวยงามและรสชาติที่คอเค้กไม่ควรพลาดเลยทีเดียว

เมนูเลื่องลือ: เค้กชอกโกแลต เมอแรงผลไม้รวม เค้กแครอท เค้กทีรามิสุ พายบานอฟฟี่

ราคาโดยเฉลี่ย: 15 – 20 ริงกิต ต่อชิ้น

เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 11:00 – 22:00 น.

พิกัด: 29 Jalan Telawi 3 Bangsar Baru 59100 Kuala Lumpur, Malaysia

เว็บไซต์: http://www.alexis.com.my/

5. ร้าน VCR Coffee & Cake

06

ร้านกาแฟแสนอบอุ่นใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์แห่งนี้ เป็นแหล่งรวมคลับคนรักกาแฟสดจากทุกมุมโลก เพราะเสิร์ฟกาแฟทั้งแบบ Single Origin ที่เมล็ดกาแฟผ่านการควบคุมคุณภาพจากแหล่งผลิตเดียวหรือแบบ Blend ที่ผสมกาแฟหลายสายพันธุ์แต่มีเอกลักษณ์ ขอแนะนำให้มาที่นี่ช่วงเช้าที่ไม่ควรพลาดกับอาหารเช้าแนวสุขภาพพร้อมดื่มด่ำกาแฟสดหอมกรุ่นกลมกล่อมพร้อมสูดอากาศยามเช้าในโซนที่นั่งที่มีทั้งนอกระเบียงและในร้านที่ตกแต่งด้วยกระจกแผ่นกว้างรับแสงแห่งชีวิตที่อบอุ่นท่ามกลางบรรยากาศยามสายในช่วงวันหยุดที่ชีวิตไม่ต้องเร่งรีบนัก ตึกสีดำสูงตระหง่านโดดเด่นอันเป็นที่ตั้งของร้านนี้สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1927 ในบริเวณย่านคุกเก่าปูดู และเคยเป็นที่พักของพัสดีเรือนจำในอดีต ปัจจุบันถูกเปลี่ยนให้เป็นร้านกาแฟสุดชิค ที่ชั้นสองมีเทอเรสให้นั่งชมวิวชิวๆ ฟังเพลงดีดีอีกด้วย

 

เมนูเลื่องลือ: เมนู VCR breakfast มีผัก ไส้กรอก ไข่คน ตามด้วยกาแฟหรือชอกโกแลตร้อนกับเค้ก The King หรือเค้กกล้วยหอม

ราคาโดยเฉลี่ย: 20 – 30 ริงกิต ต่อมื้อ

เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 08:00 – 23:00 น.

พิกัด: 2, Jalan Galloway, Kuala Lumpur, Malaysia

เว็บไซต์: https://www.facebook.com/vcr.my/

 

ขอบคุณข้อมูล: Food MThai

 

 

 

5 สถานที่ท่องเที่ยวในปีนัง ที่คุณไม่ควรพลาด

5 สถานที่ท่องเที่ยวในปีนัง ที่คุณไม่ควรพลาด

สถานที่แห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากด้ามขวานของเรานี่เอง ใช้เวลาบินไปแป๊บเดียวก็ถึงแล้ว โดยปัจจุบัน

ที่นี่ถูกเรียกขานว่าเป็นไข่มุกแห่งตะวันออกด้วยความโรแมนติกและความสวยงามของบ้านเรือน

สิ่งก่อสร้าง ซึ่งที่นั่นก็คือ “ปีนัง” นั่นเอง

unnamed6

 

 

 

  1. วัดเก็กล๊อกซี

unnamed-15-e1432109828599

วัดเก็กล๊อกซีเป็นวัดที่ตั้งเด่นเป็นสง่ากลางเมืองปีนังที่เด่นสะดุดตาด้วยโคมไฟที่แขวนประดับไว้อยู่ทั่ววัด

และจะส่องแสงสวยงามเป็นพิเศษในเวลาค่ำคืน โดยวัดแห่งนี้สร้างในแบบของสถาปัตยกรรมจีน

มีจุดเด่นคือเจดีย์สูงซึ่งมีลิฟท์ให้บริการนักท่องเที่ยวขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามรอบๆ เกาะบนชั้นบนสุดได้

ทำให้วัดเก็กล๊อกซีกลายเป็นวัดยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการชมวิวเมืองปีนัง รวมถึงมาไหว้พระขอพร

กับองค์เจ้าแม่กวนอิมที่ได้ชื่อว่าเป็นรูปปั้นสีบรอนซ์ขนาดใหญ่ที่สวยที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็ว่าได้

 

  1. จอร์จทาวน์

unnamed-24-e1432109833578

จอร์จทาวน์เป็นเมืองหลวงของรัฐปีนังแห่งมาเลเซีย ที่ได้รับการแต่งตั้งและยกย่องให้เป็น 1 ในมรดกโลก

โดยองค์การยูเนสโก้ร่วมกับเมืองมะละกาในเดือนกรกฎาคม 2551เนื่องมาจากมีภูมิสถาปัตยกรรม

และวัฒนธรรมที่งดงามทรงคุณค่ามากมายหลายแห่ง

 

  1. บาตูเฟอรินกิ

unnamed-42-e1432109845809

บาตูเฟอรินกิคือชายหาดที่สวยงามจนได้รับความนิยมมากที่สุดในปีนัง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ

ของเมืองจอร์จทาวน์ ซึ่งชายหาดแห่งนี้มีชื่อเสียงด้วยเรื่องของกิจกรรมบนชายหาดและทางทะเลมากมาย

ไม่ว่าจะเป็นการอาบแดด เล่นกระดานโต้คลื่น พายเรือแคนู พาราเซลลิง ฯลฯ

 

  1. สวนผีเสื้อปีนัง และสวนพฤกษชาติปีนัง

unnamed-33-e1432109839160

หลังจากเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ภายในปีนังแล้ว ก็มาถึงคิวของสวนพฤกษศาสตร์ปีนัง

ซึ่งเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเมืองจอร์จทาวน์ ที่นี่เรียกได้ว่าเหมาะสำหรับการมาพักผ่อนอย่างแท้จริง

และเป็นที่รู้จักกันในนามของสวนน้ำตก เนื่องจากมีน้ำตกอยู่หลายแห่ง

 

  1. วัดไชยมังคลาราม

unnamed-51-e1432109853559

วัดไชยมังคลารามเป็นวัดไทยที่สำคัญและเก่าแก่ในเกาะปีนัง โดยตั้งอยู่ตรงข้ามกับวัดพม่าธรรมิการาม

ซึ่งเป็นวัดพม่าที่มีชื่อเสียงเช่นเดียวกัน วัดไชยมังคลารามถือเป็นวัดที่เป็นดั่งศูนย์รวมจิตใจของชาวไทย

และชาวพุทธมาเลเซียเชื้อสายไทยมาเป็นเวลากว่า 96 นอกจากนั้นสิ่งที่มีชื่อเสียงที่สุดภายในวัดแห่งนี้

ก็คือรูปปั้นพระพุทธไสยาสน์ที่ตั้งอยู่ในศาลหลักซึ่งมีความยาวถึง 33 เมตรนั่นเอง

 

บทความจาก : มัชรูมทราเวล

เรียบเรียงโดย: Travel.Mthai