ที่เที่ยว 70 เส้นทางตามรอยพระบาท รัชกาลที่ ๙ “ไม่มีที่ใดในแผ่นดินไทย ที่พระองค์เสด็จไปไม่ถึง”

1

“คนไทยโชคดีที่สุดในโลก เพราะเรามีพระมหากษัตริย์ที่ทรงงานหนัก
และทุ่มเทพระวรกาย เพื่อให้ประชาชนของพระองค์ มีอาชีพที่ดี
มีรายได้ที่มั่นคง สามารถพึ่งพาตัวเองได้อย่างยั่งยืน”

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้จัดทำหนังสือ ๗๐ เส้นทางตามรอยพระบาทเพื่อแนะนำเส้นทางท่องเที่ยว ที่เราคนไทยควรไปเห็น ควรไปเรียนรู้ ควรไปสัมผัสด้วยตัวเอง เนื่องในโอกาสมหามงคล ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ ครบ ๗๐ ปี ในวันที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๙ และเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ ๗ รอบ ในวันที่ ๑๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๙

ภายในหนังสือ จะบอกเล่าประวัติความเป็นมาของแต่ละพื้นที่ รวมถึงจัดทริปท่องเที่ยวให้ครบเสร็จสรรพ ซึ่งเราสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ตามนี้เลย อีกทั้งยังบอกถึง ที่เที่ยวห้ามพลาด, กิจกรรมห้ามพลาด, แผนที่ การเดินทาง และข้อมูลสำคัญต่างๆ อีกด้วย

ที่เที่ยว 70 เส้นทางตามรอยพระบาท รัชกาลที่ ๙
“ไม่มีที่ใดในแผ่นดินไทย ที่พระองค์เสด็จไปไม่ถึง”

ภาคเหนือ

2

70 เส้นทางตามรอยพระบาท ภาคเหนือ

เชียงราย

  • โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
  • ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงผาตั้ง
  • ศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ำมัน และพืชน้ำมัน

เชียงใหม่

  • พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์
  • ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตก
  • ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงม่อนเงาะ
  • ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยลึก
  • ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง)
  • ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ อันเนื่องมาจากพระราชดดำริ
  • สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง

น่าน

  • ศูนย์ภูฟ้าพัฒนา อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
  • สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ บ้านสะจุก-สะเกี้ยง

พะเยา

  • ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปังค่า

พิษณุโลก

  • โครงการพัฒนาป่าไม้ตามพระราชดำริ ภูหินร่องกล้า
  • สวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า พิษณุโลก ในพระราชดำริ

แม่ฮ่องสอน

  • ศูนย์บริการและพัฒนาที่สูงปางตอง ตามพระราชดำริ
  • ศูนย์บริการและพัฒนาลุ่มน้ำปาย ตามพระราชดดำริ (ท่าโป่งแดง)

———————————————————————————————–

ภาคอีสาน

3

70 เส้นทางตามรอยพระบาท ภาคอีสาน

กาฬสินธุ์

  • พิพิธภัณฑ์สิรินธร
  • ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมผู้ไทย ผ้าไหมแพรวา บ้านโพน

นครราชสีมา

  • ศูนย์การเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงฯ ค่ายสุรนารี
  • ศูนย์ส่งเสริมกสิกรรมไร้สารพิษ ตามโครงการพระราชดำริ

บึงกาฬ

  • โครงการชลประทาน อ่างเก็บน้ำบึงโขงหลง

เลย

  • ศูนย์วิจัยพืชสวนเลย (ภูเรือ)

สกลนคร

  • ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพบ้านกุดนาขาม
  • ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ

สุรินทร์

  • พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสุรินทร์
  • หมู่บ้านทอผ้าไหม บ้านท่าสว่าง

———————————————————————————————–

ภาคกลาง

4

70 เส้นทางตามรอยพระบาท ภาคกลาง

กาญจนบุรี

  • พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
  • วัดพระแท่นดงรัง วรวิหาร

ฉะเชิงเทรา

  • ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ

ปทุมธานี

  • พิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ประจวบคีรีขันธ์

  • ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี

พระนครศรีอยุธยา

  • ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร
  • พระราชวังบางปะอินและวัดนิเวศธรรมประวัติ ราชวรวิหาร

เพชรบุรี

  • โครงการช่างหัวมัน ตามพระราชดำริ
  • โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ย

ลพบุรี

  • เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์

สมุทรปราการ

  • โครงการประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์

สมุทรสงคราม

  • โครงการอัมพวา-ชัยพัฒนานุรักษ์
  • อุทยานพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย

สระบุรี

  • พิพิธภัณฑ์สองกษัตริย์ไทย-เดนมาร์ค

สุพรรณบุรี

  • ศูนย์เรียนรู้วิถีชีวิตและจิตวิญญาณชาวนาไทย-นาเฮียใช้

อ่างทอง

  • ศูนย์ตุ๊กตาชาววังบ้านบางเสด็จ

———————————————————————————————–

ภาคตะวันออก

5

70 เส้นทางตามรอยพระบาท ภาคตะวันออก

จันทบุรี

  • จุดชมวิวเนินนางพญา ถนนเฉลิมบูรพาชลทิต
  • โครงการศูนย์พัฒนาไม้ผลตามพระราชดำริ
  • 100 ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนฯ

ชลบุรี

  • โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชฯ
  • โครงการป่าสิริเจริญวรรษ
  • ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและอนุรักษ์ป่าชายเลน
  • ศูนย์อนุรักษ์พันธ์ุเต่าทะเล กองทัพเรือ สัตหีบ

ตราด

  •  ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง เรือนจำชั่วคราวเขาระกำ

นครนายก

  • เขื่อนขุนด่านปราการชล
  • โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า
  • ศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ

ปราจีนบุรี

  • โครงการห้วยโสมง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
  • โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร

ระยอง

  • ทุ่งโปรงทอง
  • โครงการศูนย์บริการพัฒนาปลวกแดงตามพระราชดำริ
  • ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก

สระแก้ว

  • โรงเรียนกาสรกสิวิทย

———————————————————————————————–

ภาคใต้

6

70 เส้นทางตามรอยพระบาท ภาคใต้

กระบี่

  • ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งกระบี่ (ศูนย์ปลานีโม)
  • ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร (พืชสวน)

ชุมพร

  • โครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ ตามพระราชดำริ
  • โครงการพัฒนาส่วนพระองค์ 138 อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร

นครศรีธรรมราช

  • โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง

นราธิวาส

  • ศูนย์วิจัยและศึกษาธรรมชาติป่าพรุสิรินธร
  • ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ

พังงา

  • ศูนย์อนุรักษ์อุทยานใต้ทะเลจุฬาภรณ์

ยะลา

  • โครงการไม้ดอกเมืองหนาวฯ

อยากให้ทุกคนไปสัมผัสกับ 70 เส้นทางตามรอยพระบาท ไม่ว่าจะไปเพื่อให้เห็น เพื่อเรียนรู้ หรือเพื่อเพลิดเพลิน ไม่ว่าจะออกไปเพื่อเหตุผลใดก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ทุกคนจะได้กลับมา คือความรู้สึกที่ช่วยตอกย้ำว่า “คนไทยช่างโชคดีเหลือเกิน ที่ได้เกิดมาในแผ่นดินนี้ ในแผ่นดินที่มีพระมหากษัตริย์ คอยดูแลพวกเรามาตลอด 70 ปี”

7

หนังสือ 70 เส้นทางตามรอยพระบาท

ขอบคุณข้อมูล : 70waysofking.tourismthailand.org

หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : www.tatcontactcenter.com

 

เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ตามรอยพ่อหลวง สัมผัสความรู้เคล้าความสุข

1

เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ตามรอยพ่อหลวง

สัมผัสความรู้เคล้าความสุข

2

ผ่านไปแล้วนะคะ สำหรับงานพระราชพิธีที่คงไม่มีเราชาวไทยคนใดอยากให้เกิดขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม พ่อหลวงรัชกาลที่ 9 กษัตริย์ผู้เป็นที่รักของเราก็จะสถิตอยู่ในใจของเราชาวไทยตลอดไป Travel Mthai จึงขอเป็นตัวแทนนำเพื่อนๆ ไปชมสถานที่ท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ตามรอยพ่อหลวง กับโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อรับรู้ถึงพระปรีชาสามารถ และซาบซึ้งกับพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้น ที่มิอาจเอื้อนเอ่ยออกมาหมดได้

  1. ศูนย์การเรียนรู้ระบบนิเวศ
    ป่าชายเลนสิรินาถราชินี จ.ประจวบคีรีขันธ์

3

ขอบคุณรูปภาพจาก ศูนย์การเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี

ที่เที่ยวตามรอยพ่อหลวงที่แรก “ศูนย์การเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี” … ด้วยน้ำพระราชหฤทัยของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพลิกฟื้นนากุ้งร้าง ให้กลายเป็นป่าเขียวชะอุ่มทั่วทั้งบริเวณ และเป็นศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลน มาจนถึงทุกวันนี้

4

ขอบคุณรูปภาพจาก ศูนย์การเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี

สำหรับใครที่อยากเดินศึกษาเส้นทางธรรมชาติ ก็ให้เดินไปตามทางบนสะพานไม้ที่ทางโครงการจัดทำไว้ ทอดยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ลัดเลาะไปตามป่าชายเลน ระหว่างทางก็จะเจอกับนกกินเปี้ยว นกกระเต็นปักหลัก ปลาตีน ปลากระบอก ปลาหมอเทศ และสัตว์ประจำถิ่นอีกมากมาย ออกมาทักทายเป็นระยะ ซึ่งเป็นสิ่งที่บ่งชี้ถึงความอุดมสมบูรณ์ของป่าชายเลนแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี หรือใครอยากชมวิวมุมสูงแบบ 360 องศา ก็ต้องเดินขึ้นไปชมบนหอชะคราม ซึ่งเป็นหอชมวิวสูงเท่าตึก 6 ชั้น จะสามารถมองเห็นพื้นที่ป่าชายเลนทั้งหมด และมองเห็นวิวปากน้ำปราณได้ไกลสุดลูกหูลูกตา

*******************************************************************

  1. ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อน จ.ฉะเชิงเทรา

5

จากเดิมเขาหินซ้อนเคยมีสภาพเสื่อมโทรม ดินขาดความอุดมสมบูรณ์ ได้ถูกเนรมิตให้กลับมาชุ่มชื้นอีกครั้ง ด้วยพระอัจฉริยภาพของของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ควบคู่ไปกับศูนย์ศึกษาพัฒนาการเรียนรู้ เฉกเช่นทุกวันนี้

6 7

ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อน  ด้านในมีเนื้อที่กว้างขวาง สามารถนั่งรถรางชมโครงการได้ จุดไฮไลท์เด่นๆ คือ พระตำหนักสามจั่ว บ้านพักรับรองของในหลวงรัชกาลที่ 9 เมื่อครั้งเสด็จมาทรงงานที่ศูนย์, ห้องอบและนวดสมุนไพร ใครเมื่อยๆ ก็ลองมานวดผ่อนคลายตามแบบภูมิปัญญาท้องถิ่นดูได้, สวนพฤกษศาสตร์ เดินชมพืชสมุนไพรและต้นไม้หายาก, ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ โดยเลี้ยงในพื้นที่โล่ง ปล่อยตามอิสระไม่กักขัง มีทั้งเป็ด ไก่ กวาง ม้า นกยูง นกกระจอกเทศ และชมกรรมวิธีผลิตข้าวตั้งแต่การสีข้าว จนบรรจุใส่กระสอบ ที่โรงสีข้าวพระราชทาน แล้วไปนั่งรับลมเย็นๆ บริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยเจ๊ก ซึ่งถูกสร้างขึ้นตามแนวคิดของพ่อหลวง เพื่อเก็บน้ำไว้ใช้ทางการเกษตร และยามจำเป็น

*******************************************************************

  1. “นมวัวแดง” ฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค จ.สระบุรี

8

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงสนพระทัยในกิจการฟาร์มโคนมของชาวเดนมาร์ก เมื่อครั้งเสด็จประพาสยุโรป และต่อมาได้มีการทำสัญญาระหว่างรัฐบาลไทยกับเดนมาร์ก ในการจัดตั้ง ฟาร์มโคนมและศูนย์ฝึกอบรมการเลี้ยงโคนม ไทย-เดนมาร์ค ที่อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี ถือเป็นฟาร์มนมวัวแห่งแรกในประเทศไทย และปัจจุบันยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรอีกด้วย

9

นอกจากนักท่องเที่ยวจะได้เข้าเยี่ยมชมโรงงานไทย-เดนมาร์ก เพื่อดูกระบวนการผลิตนมวัวแดงแล้ว ยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย เช่น นั่งรถรางชมวิวทิวทัศน์รอบฟาร์ม, ชมการสาธิตการรีดนมวัว หรือจะลองรีดนมนมวัวด้วยตัวเองก็ทำได้, ป้อนนมลูกโคตัวน้อย, เพลิดเพลินกับความน่ารักของนกกระจอกเทศ อูฐ กวาง พร้อมป้อนหญ้าให้กับพวกมันอย่างสนุกสนาน, ชมการแสดงคล้องวัวด้วยบ่วงบาศ ตลอดจนเรียนรู้ประวัติความเป็นมาของฟาร์มโคนมในพิพิธภัณฑ์สองกษัตริย์ไทย-เดนมาร์ค

*******************************************************************

  1. โครงการชั่งหัวมัน จ.เพชรบุรี

10

“จากมันเทศที่ชาวบ้านนำมาถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 ในวันนั้น เกิดเป็น โครงการชั่งหัวมัน ตามพระราชดำริในวันนี้”

11

เมื่อมันเทศที่พระองค์ทรงวางไว้บนตราช่างในห้องทำงาน ณ วังไกลกังวล เกิดแตกใบออก จึงมีพระราชดำริให้รีบจัดหาที่ดินเพื่อทำการเกษตร โดยพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ซื้อที่ดินจากชาวบ้านจำนวน 250 ไร่ ใจกลางหุบเขาแห้งแล้ง เพื่อฟื้นฟูเป็นศูนย์รวมพืชเศรษฐกิจ ของอำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี ส่งเสริมอาชีพเกษตรกรรม และเป็นตัวอย่างโครงการด้านการเกษตร

12

โครงการชั่งหัวมัน ตั้งอยู่กลางทุ่งโล่ง ห้อมล้อมด้วยหุบเขา บรรยากาศโปร่งสบาย พื้นที่ทั้งหมดถูกจัดสรรทำการเกษตรอย่างดี มีแปลงปลูกพืชผักเศรษฐกิจหลายชนิด อาทิ สับปะรด มะนาว มะพร้าว มันเทศ รวมถึงติดตั้งกังหันลมผลิตไฟฟ้าและแผงโซล่าเซลล์ นอกจากนี้ยังมีฟาร์มโคนม ฟาร์มไก่ สาธิตการปลูกสบู่ดำ-ปลูกข้าวสายพันธุ์ต่างๆ และอีกหนึ่งสถานที่ภายในโครงการที่ห้ามพลาด นั่นคือ “บ้านของพ่อ” เลขที่ 1 หมู่ 5 บ้านพักส่วนพระองค์ มีลักษณะเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น ทาสีน้ำตาล ตกแต่งอย่างเรียบง่ายและพอเพียง นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถรางชมโครงการได้ หรือชอบลุยๆ ที่นี่เขาก็มีจักรยานให้ปั่นฟรีค่ะ

*******************************************************************

  1. โครงการประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ จ.สมุทรปราการ

13

ขอบคุณรูปภาพจาก tourismthailand

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราชดำริให้พัฒนาคลองลัดโพธิ์ให้กลายเป็นทางระบายน้ำ มีช่องประตูระบายทั้งหมด 4 ช่อง ซึ่งจะเปิดประตูระบายน้ำทันทีเมื่อน้ำท่วมขัง และปิดประตูระบายน้ำเมื่อเกิดน้ำทะเลหนุนสูง ช่วยแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทั้งในระยะเร่งด่วนและระยะยาว ทั้งยังติดตั้งกังหันทดน้ำไว้เผลิตกระแสไฟฟ้าด้วย

14

ขอบคุณรูปภาพจาก tourismthailand

ประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ อยู่ใกล้กับสะพานภูมิพล 1 และ 2 มี สวนสุขภาพลัดโพธิ์ อยู่ใต้สะพาน หากมาช่วงเย็นอากาศกำลังดี แถมได้ภาพสวยงามของสะพานภูมิพลขณะพระอาทิตย์คล้อยต่ำลาลับขอบฟ้า นอกจากนี้ยังอยู่ไม่ไกลจากสถานที่เที่ยวสุดฮิตอย่าง สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ หรือสวนบางกระเจ้า และ ตลาดบางน้ำผึ้ง ไปขี่จักรยานชิลๆ ในวันหยุด ชมนก ชมไม้ แวะชิมอาหารที่ตลาด ก็สุขใจดีเหมือนกัน

*******************************************************************

  1. พิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติ จ.ปทุมธานี

15

ขอบคุณรูปภาพจาก พิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติ 

พิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติ เผยภาพทุกแง่มุมในพระอัจฉริยภาพด้านการเกษตรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 จัดตั้งขึ้นโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เนื่องในโอกาสที่พระองค์ท่านทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี

16

ขอบคุณรูปภาพจาก พิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติ 

17

ขอบคุณรูปภาพจาก พิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติ 

ด้านในพิพิธภัณฑ์ แบ่งพื้นที่จัดแสดงออกเป็น 10 โซน ภายใต้แนวคิด 10 โซนมหัศจรรย์การเรียนรู้วิถีเกษตรตามรอยพ่อ เป็นนิทรรศการที่รวบรวมผลงานของพ่อ อาทิ พระราชกรณียกิจสำคัญ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง พระราชพิธีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร ตลอดจนการพัฒนาพื้นที่การเกษตรและถิ่นทุรกันดาร จัดแสดงผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่ ห้องฉายภาพยนตร์ 3 มิติ สื่อมัลติมีเดียหลายรูปแบบ และสนุกไปกับหุ่นจำลองประกอบราชพิธีมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ

*******************************************************************

  1. ทุ่งโปร่งทอง จ.ระยอง

18

จากอดีตแหล่งทำการเกษตรและประมงของชาวบ้าน ที่มีสภาพเสื่อมโทรม ค่อยๆ ได้รับการฟื้นฟูโดยเทศบาลตำบลปากน้ำประแส ปรับสมดุลให้กับผืนป่าชายเลนที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดระยอง พร้อมพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ควบคู่ไปกับเป็นแหล่งศึกษาธรรมชาติไปพร้อมกัน

ทุ่งโปร่งทอง กลายเป็นสถานที่เที่ยวสุดฮิต ที่นักท่องเที่ยวอยากมาชมป่าสีทองเมื่อมาถึงปากน้ำประแสร์ เพียงเดินลัดเลาะไปตามสะพานไม้ในระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร จะพบต้นโปรงขึ้นเบียดเสียดกันอย่างหนาแน่น ซึ่งเมื่อยามที่แสงแดดส่องปะทะลงมา จะเกิดเป็นภาพทุ่งต้นโปรงสีทอง อร่ามงดงามไปทั่วทั้งทุ่ง ท่ามกลางความเขียวขจีของแนวโกงกางที่โอมล้อมรอบทิศทาง

19

ขอบคุณรูปภาพจาก tourismthailand

บอกเลยว่า 7 ที่นี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของโครงการในพระราชดำริเท่านั้นนะคะ ยังมีหลายสถานที่มากๆ ที่พ่อหลวงของเราได้ทรงริเริ่ม ฟื้นฟู และพัฒนาขึ้นมา จนเกิดเป็นโครงการดีๆ และแหล่งท่องเที่ยวสวยๆ ให้เราได้เรียนรู้ บ่มประสบการณ์ ปนไปกับความสนุกสนาน หากวันหยุดไม่รู้จะไปเที่ยวไหน ก็ลองเดินตามรอยเท้าพ่อไปดูสิคะ

 

สุดครีเอท! เรื่องราวของในหลวง รัชกาลที่ 9 ผ่านคนตัวจิ๋ว

1

เรื่องราวของในหลวง รัชกาลที่ 9
ผ่านคนตัวจิ๋ว 

เพจ Kontuajew (คนตัวจิ๋ว) สุดครีเอท ได้สร้างผลงานผ่านตัวละครจิ๋ว ถ่ายทอดเรื่องราว พระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ โครงการในพระราชดำริ พระปรีชาสามารถในด้านต่างๆ และพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จนเกิดเป็นภาพสุดประทับใจเหล่านี้

” จะทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุดต่อไป เพื่อในหลวงของเรา ”
เป็นอีก 1 Project ของผม Kontuajew ที่อยากสร้างอะไรขึ้นมาเพื่อระลึกถึงพระองค์ท่าน
” พระองค์ท่านยังคงอยู่ในใจของคนทั้งประเทศ ตราบนานเท่านาน “

2

” พ่อไม่เคยบอกให้เรารักพ่อ … แต่พ่อบอกให้เรารักกัน “

ปอย สุชาณัฐ ชิดไทย เจ้าของเพจเฟสบุ๊ค Kontuajew นำคนตัวจิ๋วมาเล่นกับสิ่งของต่างๆ ใส่ไอเดีย ความครีเอทเข้าไป ซึ่งเขาทำเพจมากว่า 3 ปีแล้ว มีผลงานสร้างสรรค์ออกมาไห้ได้เห็นอยู่ตลอด ล่าสุด คุณปอย เกิดแรงบันดาลใจในถ่ายภาพ ถ่ายทอดเรื่องราวของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ผ่านคนตัวจิ๋วในอิริยาบถต่างๆเพื่อระลึกถึงพระองค์ท่าน

” เรา  <3 ในหลวง “

3

ซึ่งคุณปอย ได้บอกเหตุผลของแรงบันดาลใจในการถ่ายภาพในครั้งนี้ ให้ฟังว่า “ตั้งแต่วันแรกที่ทราบว่าในพระองค์ท่านสวรรคต ก็ตกใจและก็เสียใจมาก ก็คงเหมือนคนไทยทุกๆ คน ถ้าให้ผมมาถ่ายภาพเหมือนปกติๆ ทุกวันก็คงทำใจได้ยาก และมองไปรอบตัวก็เห็นพระองค์ท่านอยู่กับเราเสมอ ทั้งเหรียญ แบงค์ แสตมป์ ก็เลยเกิดแรงบันดาลใจถ่ายทอดเรื่องราวของพระองค์ท่านผ่านคนจิ๋ว ซึ่งเป็นงานที่รักและถนัด”

“ช่วงแรกได้ถ่ายรูปที่สื่อถึงพระองค์ท่าน หลังๆ ก็เริ่มเปลี่ยนเป็นเผยแพร่พระราชดำรัสต่างๆ รวมไปถึงโครงการในพระราชดำริต่างๆ ของพระองค์ท่าน เพื่อให้คนไทยบางส่วนที่ไม่ทราบได้รับรู้ ในหลวงเคยตรัสไว้ว่า “อย่าจำตัวฉัน แต่ให้จำประโยชน์ที่ฉันทำ” ” เนื่องจากผมมีงานประจำทำ จึงใช้เวลาหลังเลิกงานมาถ่าย เลยตั้งใจว่าจะถ่าย 30 วัน 30 ภาพ และในอนาคตก็ยังคงถ่ายภาพเรื่องราวของพระองค์ต่อไป

“พระองค์จะสถิตอยู่ในดวงใจปวงชนตลอดไป
ขอพระองค์เสด็จสู่สวรรคาลัย”

.4

“พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย สถิตอยู่ในใจตราบนิรันดร์”

5

ความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

6

“… คราวใดที่ชาวไทยมีความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ร่วมแรงร่วมใจกันเพื่อประเทศชาติแล้ว ชาติก็ได้รอดพ้นจากภัยพิบัติสู่ความสุขความเจริญ แต่คราวใดที่ขาดความสามัคคีกลมเกลียวกัน ก็ต้องประสบเคราะห์กรรมกันทั้งชาติ จึงเป็นหน้าที่ของเราทั้งหลาย ที่จะต้องร่วมใจกันปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุด…” พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  ในพิธีสวนสนามทหารรักษาพระองค์ ณ ลานพระราชวังดุสิต 3 ธันวาคม 2505.

“พระอัจฉริยภาพทางดนตรีของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช “

7

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นคีตกวีและนักดนตรีที่ชาวโลกยกย่อง ทรงพระปรีชาสามารถในการทรงดนตรี ทรงพระราชนิพนธ์เพลง แยกและเรียบเรียงเสียงประสาน ทรงเป็นครูสอนดนตรีแก่ข้าราชบริพารใกล้ชิดและทรงซ่อมเครื่องดนตรีได้ด้วย ตลอดจนทรงเชี่ยวชาญในศิลปะแขนงต่างๆ อย่างแท้จริง สมกับที่พสกนิกรชาวไทยน้อมเกล้าฯ ถวายพระราชสมัญญา “อัครศิลปิน”

ใช้เท่าที่จำเป็น ไม่มากเกินไปและไม่น้อยจนเกินไป

8

เงินแต่ละบาทใช่ว่าจะหามาได้โดยง่าย เวลาจะใช้เงินควรมีสติ ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง ใช้เท่าที่จำเป็น ไม่มากเกินไปและไม่น้อยจนเกินไป “เศรษฐกิจแบบพอมีพอกิน แบบพอมีพอกินนั้น หมายความว่าอุ้มชูตัวเองได้ ให้มีพอเพียงกับตนเอง” พระราชดำรัสในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

“ยาสีพระทนต์ของในหลวง”

9

ไม่ใช่ไม่ยอมใช้เลย… แต่ต้องรู้จักใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
มากที่สุดเท่าที่จะมากได้… ไม่ใช้แบบเหลือทิ้งเหลือขว้าง

“เปลี่ยน มัน ให้ เป็น เงิน”
” หัวมันบนตาชั่งยังขึ้นได้ แล้วที่แห้งแล้งขนาดไหน… มันก็ต้องขึ้นได้ “

10

ชื่อของโครงการ “ชั่งหัวมัน” เกิดจากเมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  เสด็จไปประทับที่พระราชวังไกลกังวล มีชาวบ้านนำมันเทศซึ่งเป็นพืชที่ปลูกอยู่ในท้องถิ่นมาถวาย เมื่อต้องเสด็จกลับกรุงเทพฯ เลยรับสั่งให้เจ้าหน้าที่นำหัวมันเทศนั้นไปวางบนตาชั่งในห้องทรงงาน และเมื่อเสด็จกลับมาหัวหินทรงพบว่ามันเทศหัวนั้นแตกใบออกมา จึงมีรับสั่งให้นำหัวมันเทศนั้นไปปลูกใส่กระถางไว้ในวังไกลกังวล แล้วมีพระราชดำรัสให้จัดหาพื้นที่เพื่อทดลองปลูกมันเทศซึ่งเป็นพืชที่สามารถปลูกขึ้นได้ทุกที่ แม้ว่าจะวางตั้งทิ้งไว้บนตาชั่งนั่นเอง

” ในหลวงกับสมเด็จย่า เปลี่ยนฝิ่นเป็นแมคคาเดเมียอันแสนอร่อย “

11

โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีที่ทรงได้รับแรงบันดาลใจจากพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ในการแก้ปัญหาการปลูกฝิ่นในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องกว่า 40 ปี ทรงสัมผัสความทุกข์ยากของชาวบ้านบนดอยตุงซึ่งมีชีวิตอยู่ในวังวนของการปลูกและค้ายาเสพติด อีกทั้งวงจรการค้ามนุษย์ซึ่งกลายเป็นปัญหาสังคมอย่างไม่จบสิ้น

ได้ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2531 บนพื้นที่ดำเนินงาน 93,615 ไร่ ในเขตอำเภอแม่จัน อำเภอแม่ฟ้าหลวง และอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ครอบคลุม 29 หมู่บ้านของชนเผ่าอาข่า ลาหู่ จีนก๊กมินตั๋ง ไทใหญ่ ไทลื้อ และไทลัวะ ประมาณ 11,000 คน (ข้อมูลจาก www.doitung.org)

“สายสร้อยรอบคอครึ่งเส้น ถุงเท้าขาวทั้ง ๔ ขา จมูกแด่น หางม้วนปลายดอกสีขาว”
คือลักษณะเด่นของคุณทองแดง สุนัขทรงเลี้ยงลำดับที่ 17
ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  รัชกาลที่ 9

12

คุณทองแดงป็นสุนัขที่กตัญญูรู้คุณเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกับแม่มะลิ ซึ่งเป็นเสมือนแม่นมของคุณทองแดง ที่แม้เมื่อแยกกันอยู่แล้ว ทุกครั้งที่คุณทองแดงพบกับแม่มะลิ จะแสดงความเคารพแม่มะลิอยู่เสมอ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  ทรงยกย่องว่า”ผิดกับคนอื่นที่เมื่อกลายมาเป็นคนสำคัญแล้ว มักจะลืมตัว และดูหมิ่นผู้มีพระคุณที่เป็นคนต่ำต้อย”

“นมอัดเม็ดจิตรลดา”
จากปัญหานมล้นตลาด สู่ของฝากยอดนิยม

13

ในปี 2503 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินประพาสประเทศเดนมาร์ก และทรงศึกษาการทำฟาร์มโคนมเพื่อเป็นอาชีพใหม่แก่เกษตรกรไทย

ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ใช้พื้นที่ และพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ในพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต สวนจิตรลดา จัดตั้งเป็นโครงการส่วนพระองค์ พระราชทานโรงโคนมสวนจิตรลดาในปี 2505 เพื่อเลี้ยงโคนมเพื่อศึกษา ทดลอง วิจัย และพัฒนาเพื่อให้ได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์ที่จะเป็นแนวทางในการต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ และอาชีพที่เลี้ยงดูชีวิต และปากท้องของพสกนิกรชาวไทย ให้ได้อยู่ดีมีสุข สุขภาพแข็งแรง ตามแบบฉบับเศรษฐกิจพอเพียง

เมื่อเหล่าเกษตรกรโคนมในประเทศไทย ประสบปัญหาภาวะนมสดล้นตลาด 2512 พระองค์จึงมีพระราชดำริให้ศึกษาค้นคว้าหาความเป็นไปได้ที่จะแปรรูปน้ำนมดิบเป็นนมผง เพื่อให้เก็บไว้ได้นาน ในปี 2527 จึงได้เริ่มมีการผลิตนมอัดเม็ด เพื่อต่อยอดจากผลิตภัณฑ์นมผง เป็นการแปรรูปจากผลิตภัณฑ์เดิมที่มีอยู่ เพิ่มเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้กับประชาชนชาวไทยได้บริโภคอาหารดีมีประโยชน์ ในราคาที่ย่อมเยาเหมือนเดิม (ข้อมูลจาก โครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา)

“โครงการพระราชดำริฝนหลวง” โครงการพระราชดำริฝนหลวง
“การบังคับเมฆให้เกิดฝนเป็นสิ่งที่เป็นไปได้”

14

โครงการพระราชดำริฝนหลวง เกิดขึ้นจากพระราชดำริส่วนพระองค์ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  เมื่อคราวเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรในพื้นที่แห้งแล้งทุรกันดาร ๑๕ จังหวัด ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้ทรงรับทราบถึงความเดือดร้อน ทุกข์ยากของราษฎร และเกษตรกรที่ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค และการเกษตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หม่อมราชวงศ์เทพฤทธิ์ เทวกุล วิศวกรและนักประดิษฐ์ควายเหล็กที่มีชื่อเสียงเข้าเฝ้าฯ แล้วพระราชทานแนวความคิดนั้นแก่หม่อมราชวงศ์เทพฤทธิ์ เทวกุล

การทดลองในท้องฟ้าเป็นครั้งแรก เลือกพื้นที่วนอุทยานเขาใหญ่เป็นพื้นที่ทดลองเป็นแห่งแรกโดยทดลองหยอดก้อนน้ำแข็งแห้ง (dry ice หรือ solid carbondioxide) ขนาดไม่เกิน ๑ ลูกบาศก์นิ้ว เข้าไปในยอดเมฆสูงไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ ฟุต ที่ลอยกระจัดกระจายอยู่เหนือพื้นที่ทดลอง ในขณะนั้น ทำให้กลุ่มเมฆ ทดลองเหล่านั้น มีการเปลี่ยนแปลงทางฟิสิกส์ของเมฆอย่างเห็นได้ชัดเจนเกิดการกลั่นรวมตัวกันหนาแน่น และก่อยอดสูงขึ้นเป็นเมฆฝนขนาดใหญ่ในเวลาอันรวดเร็วแล้วเคลื่อนตัวตามทิศทางลมพ้นไปจากสายตาไม่สามารถสังเกตได้ เนื่องจากยอดเขาบัง แต่จากการติดตามผล โดยการสำรวจทางภาคพื้นดิน และได้รับรายงานยืนยันด้วยวาจาจากราษฎรว่า เกิดฝนตกลงสู่พื้นที่ทดลองวนอุทยานเขาใหญ่ในที่สุด นับเป็นนิมิตหมายบ่งชี้ให้เห็นว่า เกิดฝนตกลงสู่พื้นที่ทดลองวนอุทยานเขาใหญ่ในที่สุด (ข้อมูลจาก กรมฝนหลวงและการบินเกษตร)

แม้พสกนิกรชาวไทยจะเศร้าโศกเพียงใด 
แต่ท่านยังคงสว่างไสวอยู่ในหัวใจชาวไทยชั่วกาลนาน

15

” สถิตอยู่ในใจตราบนิรันดร์ “

16

“เสด็จสู่ฟากฟ้าสุราลัย พระมหากรุณาธิคุณจารึกในใจไทยชั่วกาล”

17

” King Bhumibol, the Beloved King of Thai people
and people around the world “

18

รักพ่อ ควรนำคำสอนของพ่อไปใช้ 
ใกล้ตัวที่สุดคือการอยู่อย่างพอเพียง ประหยัดและอดออม

19

“ท่านยังคงอยู่ในใจของคนทั้งประเทศ ตราบนานเท่านาน”

20

21

ขอบคุณรูปภาพและข้อมูล : www.facebook.com/kontuajew

เรียบเรียงเนื้อหา : Travel.mthai.com

สามารถติดตาม ดูรูปภาพ เพิ่มเติมได้ที่ 

FB Page : www.facebook.com/kontuajew

FB : suchanat chidthai

Instagram : https://instagram.com/kontuajew_peeowhy/