อย่าให้กูเห็นว่ามาเดินเพ่นพ่านอีกนะมึง ไม่งั้นโดน

 

คุณคชาเล่าว่า.. ผมเป็นนักศึกษาวิชาทหาร (นศท.) ครับ หรือที่เรียกกันว่า รด. เมื่อปีที่แล้วผมได้ไป

ฝึกภาคสนามประจำปี ที่ศูนย์ฝึกแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น เป็นศูนย์ฝึกที่อยู่ท่ามกลางป่าเขา ห่าง

จากหมู่บ้านพอสมควร การฝึกภาคสนามนี้ใช้เวลาทั้งหมด 3 วัน 2 คืน ครับ คืนแรกผ่านไปอย่าง

สนุกสนาน โดนครูฝึกแดก (ทำโทษ) ต้อนรับกันระนาว และในการฝึกจะมีการเข้าประจำสถานีต่างๆ

ตอนกลางวันก็จะเป็นสถานีที่สอนเรื่องการบุกโจมตี ใช้อาวุธ เข็มทิศ กระโดดหอ ส่วนตอนกลางคืน

จะมีอยู่สถานีหนึ่งที่เรียกว่า ‘เล็ดลอดหลบหนี’ สถานีนี้จะตั้งอยู่บนเขา ทางขึ้นไปยังสถานีสองข้าง

ทางจะเป็นป่ารกทึบ ไม่ชันมาก แต่บรรยากาศน่ากลัวมากในตอนกลางคืน จากค่ายขึ้นไปถึงสถานี

ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตรกว่าๆ ตอนไปครูฝึกจะเดินนำหน้า พวกผมก็เดินตามๆ กันไปเป็น

หมวด ระหว่างทางครูฝึกจะเตือนเสมอว่า ห้ามปากพล่อย หรืออย่าลองของท้าทาย ตอนกลางคืน

เจออะไรก็ให้เงียบไว้ แล้วเดินตามเพื่อน อย่าให้หลงกัน พวกผมฟังอย่างนั้นก็รู้สึกแปลกๆ

แต่ก็ไม่กล้าถามอะไร..

 

พอถึงสถานี จะเป็นลานกว้างๆ ให้ นศท. มารวมพลเพื่อรับการฝึก สถานีนี้เค้าจะสมมติว่าทุกคนถูก

จับเป็นเชลย ครูฝึกคือฝ่ายตรงข้าม และจะปล่อยให้ นศท. วิ่งหลบหนีครูฝึกลงจากเขากลับไปที่ค่าย

จะมีครูฝึกคนหนึ่งเป็นคนจุดประทัดให้สัญญาณปล่อยตัว ตลอดทางจากสถานีถึงค่ายจะมีเชือกขึง

ตามต้นไม้ เพื่อบอกทางไม่ให้หลง หลังจากสิ้นเสียงประทัด หมวดผมเป็นหมวดแรกที่จะต้องวิ่งลง

เขา ในหมวดมีทั้งหมด 18 นาย ก็พากันวิ่งออกจากสถานีเพื่อไม่ให้ครูฝึกจับได้ ด้วยความที่เป็น

วันพระจันทร์เต็มดวง เลยมองทาง และสัญลักษณ์เชือกได้ง่าย ผมที่เป็นหัวหน้าหมวดต้องวิ่งหลัง

สุด เพื่อควบคุมเพื่อนข้างหน้าไม่ให้วิ่งแตกกัน

 

หมวดผมวิ่งมาเกือบถึงกลางทาง อยู่ๆ ผมก็เกิดปวดฉี่ขึ้นมา ก็เลยแวะฉี่ข้างทาง แต่ไม่ได้บอก

เพื่อนๆ ที่วิ่งกันอยู่ข้างหน้าให้รอ เพราะคิดว่าแวะนิดเดียว เสร็จแล้วก็คงจะวิ่งตามไปทัน ระหว่างที่ฉี่

เสร็จ กำลังที่จะรูดซิบกางเกง ผมได้ยินเสียงไอดังมาจากในป่า เป็นเสียงไอเหมือนมีเสลดในคอ

เหมือนคนป่วยอะไรแบบนั้น แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร คิดว่าเป็นครูฝึกที่คอยแอบดูแล แล้วผมก็ออกวิ่ง

ต่อ กะจะวิ่งให้ทันเพื่อนๆ ข้างหน้า แต่วิ่งไปเท่าไรก็ไม่เห็นใคร ทั้งที่เพื่อนๆ วิ่งไม่เร็วกันเลย เพราะ

กลัวจะแตกแถวหลงทางกัน ตอนนั้นในใจผมเริ่มกลัวละ คิดว่าจะรอหมวด 2 ที่วิ่งตามมาแล้วค่อยไป

พร้อมกันดีกว่า.. ในขณะนั้นเอง ผมได้ยินเสียงเท้านับสิบวิ่งมาจากข้างหลัง พร้อมกับเสียงนับก้าว

ซ้าย-ขวา-ซ้าย เป็นระเบียบพร้อมเพรียงมาก ผมคิดว่าคงเป็นหมวด 2 ที่วิ่งตามมาแล้วนับก้าวเพื่อไม่

ให้หลงกัน ผมเลยหลบทางให้เขาไปก่อน และวิ่งตามหลัง

 

ระหว่างทาง ด้วยความที่เป็นป่ารกทึบ เงาต้นไม้มันก็บังแสงจันทร์เกือบจะตลอดทาง ทำให้ผมไม่

เห็นหน้าเห็นเครื่องแบบที่พวกเขาใส่ ผมวิ่งตามมาได้ไม่เท่าไร ผมก็เริ่มสังเกตว่าข้างทางที่วิ่งมัน

ไม่มีเชือกนำทางแล้ว.. แต่ก็ไม่ได้อะไร คิดว่าคนข้างหน้าคงรู้ทาง ผมวิ่งตามพวกเขามาไกลพอ

สมควร จนมองเห็นพื้นที่โล่งข้างหน้าก็เริ่มอุ่นใจ น่าจะถึงค่ายแล้ว แต่พอถึงที่โล่ง พ้นเงาต้นไม้

แสงจันทร์สาดส่องมาที่เครื่องแบบของกลุ่มที่อยู่ข้างหน้า มันกลับไม่ใช่เครื่องแบบของ รด. แต่เป็น

เครื่องแบบของทหาร!! ผมถึงกับอุทานออกมาว่า ‘เฮ้ย!! ไม่ใช่ รด.!!’ เท่านั้นล่ะ กลุ่มทหารที่อยู่ข้าง

หน้าผมก็หยุดนิ่ง พร้อมกับกลับหลังหันมองมาที่ผมเป็นตาเดียว!! ใบหน้าของทุกคนที่อยู่ตรงหน้า

ทำให้ผมขนลุกวาบตั้งแต่หัวจรดเท้า บางคนเป็นแผลเหวอะหวะ เบ้าตากลวงโบ๋ ใบหน้ามีรอยไฟ

ไหม้ บางคนแขนขาด ร่างเต็มไปด้วยเลือด พร้อมกับกลิ่นเหม็นเน่าที่ลอยมาแตะจมูก และที่สำคัญ

คนพวกนั้นอยู่ห่างจากผมไม่ถึง 2 เมตร!! พวกเขาเริ่มหัวเราะ ส่วนผมรีบกลั้นใจกลับหลังหันจะวิ่งหนี

แต่ก็ต้องช็อคอีกที เพราะทางเรียบๆ เมื่อครู่ที่วิ่งมา มันกลายเป็นพงหญ้าไปแล้ว!? ผมวิ่งฝ่าไปแบบ

ไม่คิดชีวิต ด้วยขาที่สั่นแทบจะหมดแรงล้มลง ใจคืออยากจะช็อคจนสลบให้ถึงเช้าไปเลย แต่ก็ทำ

ไม่ได้ วิ่งแหวกป่ามั่วไปหมด พร้อมกับเสียงหัวเราะที่ก้องอยู่ในหัวตลอดเวลา มีทั้งเสียงหอบ

เหมือนคนกำลังวิ่งตามมาอยู่ติดๆ ทุกฝีก้าว ผมกลัวจนน้ำมูกน้ำตาไหล คิดถึงครูฝึก

คิดถึงเพื่อนๆ มาก ได้แต่ฟูมฟายวิ่งร้องไห้จนเสียงหัวเราะค่อยๆ เบาลงแล้วเงียบไป

 

แล้วผมก็วิ่งมั่วมาจนถึงที่แห่งหนึ่ง เป็นสระน้ำอยู่กลางป่า ทำให้ผมวิ่งต่อไปไม่ได้ ผมนั่งพักหายใจ

สักพักหนึ่ง อยู่ๆ ก็มีผู้ชายใส่เครื่องแบบทหาร ถือตะเกียงเดินมาจากข้างๆ สระ ผมก็คิดในใจ ‘ใครมัน

จะมาอยู่กลางป่าแบบนี้วะ? นี่ยังหนีไม่พ้นอีกเหรอ?’ ตอนนั้นร่างกายทั้งเหนื่อยทั้งกลัวไปหมด ขา

สั่นแทบไม่มีแรงจะวิ่งต่อแล้ว แต่แสงจากตะเกียงส่องให้เห็นหน้าชายวัยกลางคนผิวเข้ม รูปร่างอ้วน

ท้วม ใส่ชุดทหารแบบเต็มยศ ผมดีใจมาก ตอนนั้นคิดแค่ว่าคงเป็นครูฝึกมาเดินแถวนี้ แล้วชายคนนั้น

ก็พูดด้วยเสียงแหบแห้งว่า ‘รด. มาอะไรอยู่ที่นี่วะ เพื่อนมึงไปไหน?’ ผมตอบไปด้วยเสียงสั่นๆ ‘ผม

หลงจากเพื่อนมาครับ..’ ด้วยความกลัวว่าครูฝึกจะสั่งแดก ผมเลยไม่กล้าบอกว่า ผมตามคนอื่นที่

ไม่ใช่หมวดของตัวเองมาจนหลงทาง แล้วชายคนนั้นก็บอกกับผมว่า ‘ตามกูมา’ สั้นๆ และเดินนำผม

ไป ..แต่ที่แปลกคือ ตลอดเวลาที่ผมเดินตามชายคนนี้ ผมไม่ได้ยินเสียงเหยียบใบไม้

หรือกิ่งไม้จากเขาเลย

 

ผมเดินตามมาได้สักพัก ก็เริ่มเห็นเชือกที่ครูฝึกขึงไว้กับต้นไม้เพื่อนำทางให้ นศท. และชายคนนั้นก็

บอกว่า ‘ไปได้ อย่าให้กูเห็นว่ามาเดินเพ่นพ่านอีกนะมึง ไม่งั้นโดน!’ พูดจบ เขาก็เดินกลับไปทางเดิม

ผมได้แต่สงสัยว่าเขาเป็นใคร แต่ในใจตอนนั้นไม่เอาอะไรแล้ว อยากกลับไปหาเพื่อนๆ แล้วผมก็เดิน

ตามเชือกจนกลับไปถึงค่าย เห็นทุกคนกลับมานั่งรอเช็คชื่อกันหมดแล้ว เหลือแต่ผมคนเดียว แล้ว

ผมก็โดนครูฝึกสั่งแดกไปตามระเบียบเพราะหลงทาง ผมได้แต่เก็บเรื่องนี้ไว้ ไม่ได้เล่าให้ใครฟัง

กลัวว่าเพื่อนจะหาว่าบ้า.. จนถึงเวลากลับ ครูฝึกสั่งเลิกแถว ก่อนกลับผมมีโอกาสได้ไปถามครูฝึกคน

หนึ่งเรื่องประวัติของที่นี่ เขาบอกว่า สมัยสงครามมีทหารตายจำนวนมาก ที่นี่เคยเป็นที่สำหรับ

ลำเลียงศพกลับบ้านเกิด จะมีลานโล่งๆ กลางป่าไว้จอดเฮลิคอปเตอร์ และก่อนกลับก็จะทำความ

สะอาดศพที่สระน้ำไม่ไกลจากตรงนั้น แล้วก็ชี้ไปทางสระน้ำที่อยู่ในป่า ซึ่งเป็นทางเดียวกันกับที่ผม

ไปเจอชายคนนั้น! ซึ่งสระแห่งนั้น ครูฝึกกับชาวบ้านระแวกนั้นเขาเรียกว่า ‘บ่อล้างศพ’




SOCIAL NETWORK

Mono Mobile

แหล่งรวบรวมคอนเทนต์คุณภาพ ทั้งในรูปแบบวิดีโอคลิป สามารถดูได้ทุกที่ ทุกเวลาตลอด 24 ชั่วโมง รองรับการใช้งานหลากหลายอุปกรณ์

Mono Technology

อาคารจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล ทาวเวอร์ เลขที่ 200 หมู่ 4 ถนนแจ้งวัฒนะ ปากเกร็ด นนทบุรี 11120 เบอร์โทร 021007007

TAGS

บันเทิง, ข่าวสาร, ก็อซซิป, คลิปตลก, คลิปเด็ด, ดูดวง, เพลงฮิต, เกม, ความรัก, กีฬา