ด้วยสายพระเนตรอันยาวไกล ก่อให้เกิดงานหัตถศิลป์อันเลื่องชื่อของจังหวัดอ่างทอง อีกทั้งยังช่วยเพิ่มพูนรายได้ให้แก่ราษฎรผู้ทุกข์ร้อน เป็นอย่างไร ติดตามในภานุรัตน์จัดเต็ม

จากพื้นที่ประสบอุทกภัย ไร่นาเสียหายติดต่อกันหลายปีในอดีต ทุกวันนี้ชาวบ้านบางเสด็จ อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ลืมตาอ้าปาก มีรายได้เลี้ยงครอบครัวด้วยเพราะพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานอาชีพเสริม จนเกิดเป็นโครงการปั้นตุ๊กตาชาววัง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญมาสอนชาวบ้านปั้นตุ๊กตาจนจบหลักสูตร สามารถทำเป็นอาชีพได้สืบต่อกันมา

ขวัญและกำลังใจของทุกคนเพิ่มพูนท่วมท้น เมื่อปี พ.ศ.2519 กลุ่มผู้ปั้นตุ๊กตาชาววัง ได้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอทั้งสองพระองค์ ทรงติดตามโครงการปั้นตุ๊กตาชาววัง สมาชิกกลุ่มฯทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายผลงาน เมื่อทรงทอดพระเนตรแล้วเป็นที่พอพระราชหฤทัย

ป้ารุจี วัย 63 ปี ลูกศิษย์รุ่นแรกของศูนย์ หนึ่งในผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าให้ฟังด้วยหัวใจปลื้มปีติ พระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชปฏิสัณฐานกับราษฎร ไม่ถือพระองค์

ยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่ป้ารุจี รู้สึกภาคภูมิใจที่สุดในชีวิต คือการได้รับรางวัลชนะเลิศ การประกวดปั้นตุ๊กตาชาววัง ประเภทความคิดสร้างสรรค์ ได้รับพระราชทานเหรียญทรงผนวช จากพระหัตถ์

ในช่วงแรกตุ๊กตาชาววังยังขายไม่ได้เพราะยังไม่เป็นที่รู้จัก ประกอบกับฝีมือชาวบ้านยังไม่ดีพอ ทรงมีพระเมตตาพระราชทานกำลังใจ และช่วยรับซื้อชิ้นงานไว้ทั้งหมด

สมาชิกทุกคนต่างหมั่นเพียรฝึกปรือ ตั้งใจสนองพระราชปณิธานจนต่อมาเกิดความชำนาญ ผลงานสวยงาม และเมื่อมีการประชาสัมพันธ์ตามสื่อต่างๆ ก็ทำให้ตุ๊กตาชาววังบ้านบางเสด็จเป็นที่รู้จักแพร่หลายจนถึงปัจจุบัน

ด้วยสายพระเนตรอันยาวไกล ก่อเกิดประโยชน์นานัปการ "ตุ๊กตาชาววังบ้านบางเสด็จ" ไม่เพียงช่วยเพิ่มพูนรายได้ให้ราษฎรผู้ทุกข์ร้อน ที่สำคัญยังเป็นการสืบสานรักษางานศิลป์ของแผ่นดินไว้อีกด้วย