ศาลอาญาอนุมัติออกหมายจับโฆษกวัดพระธรรมกาย ในความผิดฐานยุยงปลุกปั่นแล้ว หลัง DSI เข้าแจ้งความกับกองปราบปราม
ความคืบหน้ากรณีที่พันตำรวจตรีวรณัน ศรีล้ำ รองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 2 กองปราบปราม เพื่อดำเนินคดีกับนายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายกับพวกในข้อหาฐานยุยงปลุกปั่นให้เกิดความกระด้างกระเดื่อง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 (2) หลังนายองอาจ ได้แถลงจุดยืนของคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย 9 ข้อ
ศาลอาญาได้พิจารณาพยานหลักฐานแล้ว จึงอนุมัติออกหมายจับนายองอาจ ในความผิดข้อหาดังกล่าว นอกเหนือจากหมายจับของศาลจังหวัดธัญบุรี ข้อหาปลอมแปลงข้อมูลบางส่วนในคอมพิวเตอร์หมิ่นประมาทนายวิฑูรย์ ชลายนนาวิน ซึ่งพนักงานสอบสวนได้รายงานความคืบหน้าทั้งหมดต่อพลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเดินทางมาประชุมร่วมกับหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องภายในห้องประชุม สภ.คลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้หารือถึงแนวทางการตรวจค้นจับกุมพระธัมมชโย และสำนวนความผิดข้อหาต่างๆที่เกี่ยวข้องกับพระธัมมชโย และวัดพระธรรมกาย โดยเมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่จากกรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้เข้าไปตรวจสอบบ่อน้ำบาดาลภายในวัดพระธรรมกาย และมูลนิธิธรรมกาย พบว่าโรงสูบน้ำบาดาลและโรงเก็บน้ำไม่ได้ขออนุญาตให้ถูกต้อง
พนักงานสอบสวนได้สรุปต่อที่ประชุมถึงสำนวนคดีที่เกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกาย ทั้งความผิด พ.ร.บ.อาคาร, พ.ร.บ.โรงงาน, พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม, พ.ร.บ.สาธารณสุข รวมเป็น 103 คดี
ความเคลื่อนไหวด้านวัดพระธรรมกาย ยังคงมีประชาชน และพระสงฆ์จำนวนมาก นั่งสวดมนต์บริเวณหน้ามหาธรรมกายเจดีย์และมีการกางเต็นท์ กางมุ้ง มากกว่า 1,000 หลัง รองรับประชาชนที่เดินทางมาสมทบจากต่างจังหวัดด้วย ทั้งนี้ รปภ.ของทางวัดพระธรรมกาย ได้เปิดประตูให้ศิษยานุศิษย์ เดินเข้า-ออก ได้เพียง 2 จุด คือที่ประตู 5 และประตู 7 ท่ามกลางกระแสข่าวว่าจะมีการกดดันวัดพระธรรมกาย โดยการตัดน้ำตัดไฟ เจ้าหน้าที่จะระดมกำลังบุกค้นวัดพระธรรมกายในเช้ามืดวันนี้ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่หมายค้นวัดพระธรรมกายมีผลบังคับใช้
ขณะที่พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กรวัดพระธรรมกาย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ไม่เห็นด้วยที่จะมีการกดดันด้วยการตัดน้ำตัดไฟ เพราะผิดกฎบัตรสหประชาชาติ เนื่องจากวัดเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม มีทั้งพระภิกษุ สามเณร คนถือศีล และผู้ป่วย หากมีการตัดน้ำตัดไฟจะเกิดความเสียหายต่อชีวิต และจะขอดำเนินคดีกับผู้กระทำหรือผู้สั่งการ
