ต้อนรับคุณผู้ชม สู่ ดอยสะโง้ อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย สูงจากระดับทะเลปานกลางเพียง 709 เมตร หลายคนมาที่นี่เพื่อรอชมทะเลหมอก ดอกเก๊กฮวยยามเช้า

นอกจากทะเลหมอกที่สวยงามแล้ว หากมีเวลาก่อนชมพระอาทิตย์ตก แนะนำคุณผู้ชมไปชิมเสาวรสเหลืองหวาน มีที่เดียวในโครงการหลวงดอยสะโงะ ปกติเสาวรสอย่างเช่นพันธุ์ไทยนุง สีม่วง เค้าจะมีรสเปรี้ยวหวาน แต่พันธุ์เหลืองหวาน จะมีรสหวานนำพูดแบบนี้อย่ากชิมแล้วใช่ไหม ขอลงสวนไปชิมกันเลย

เพิ่งจะเคยกินเสาวรสเหลืองหวานเป็นครั้งแรก ดอกเตอร์ณรงค์ชัย พิพัฒน์ธนวงศ์ พยามยามเพาะเมล็ดเสาวรสสีเหลืองตั้งแต่ปี 2556 พัฒนาจนกลายเป็นเสาวรสพันธุ์เหลืองหวาน จาก 2 ต้น จนส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกในปัจจุบันชาวบ้านเขาจะเก็บผลออกนวลๆ สีเขียวจากนั้นต้องนำไปบ่มอีกสามวัน ให้มีสีเหลืองเสมอทั้งผล

ได้เสาวรสเหลืองหวานซึ่งมีทีนี่ที่เดียว ขึ้นไปชิมพร้อมวิวพระอาทิตย์ตก บนดอยสะโง้ ฟินเหลือเกิน

เสน่ห์ของดอยสะโง้ คือการได้เรียนรู้วัฒนธรรมของชาวอาข่า โดยเฉพาะการกินและการอยู่ค่ำนี้ชาวอาข่าให้ชิมหมู่ดำหัน ลาบหมูสมุนไพร น้ำพริกอาข่า ไก่หน่อไม้แห้ง ขั่วหมูรากซู เป็นต้น เห็นแบบนี้ยังกินไม่ได้ วัฒนธรรมอาข่าเคารพพ่อแม่และผู้อาวุโส ดังนั้นต้องหมุนยอดใบตองของขันโตกไปให้ผู้อาวุโสสูงสุด และให้ผู้น้อยอย่างผมส่งอ่างล้างมือ และข้าวไร่ให้ผู้อาวุโสกินก่อน

ระหว่างกินอาหารพื้นเมือง จะมีการฉายสไลด์ภาพเมื่อครั้งที่ ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนิน มาในปี 2521 เพื่อมาช่วยเหลือชาวเขา โดยจุดที่เฮลิคอปเตอร์ลงจอด ก็คือบริเวณที่ผมอยู่นี่ล่ะ

นอกจากอาหารอร่อย ยังมีน้องๆชาวอาข่า มาร้องเพลงและเต้นท์แบบอาข่าขับกล่อม ก่อนที่รุ่งเช้าจะตื่นมาดูทะเลหมอกกัน

ตื่นมาตี 5 เพื่อมารอชมทะเลหมอกดอกเก๊กฮวย ว่าจะสวยสมคำเล่าลือหรือเปล่า แสงแรกของทะเลหมอกดอกเก๊กฮวยสีเหลืองสวย ค่อยๆสว่างขึ้นมาแล้ว

ที่คุณผู้ชมเห็นอยู่นี้ ไม่ใช่ทะเลหมอกธรรมดา แต่เป็นทะเลหมอก 3 แผ่นดินไทย ลาว และเมียนมา

ดอยสะโง้เริ่มเป็นที่รู้จักมากเมื่อ 2 ปีที่แล้ว คนจะเริ่มมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม - กุมภาพันธ์ คนมาเยอะก็ทำให้ชาวอาข่า เริ่มวิตกกังวล

คุณผู้ชมมาแล้ว ต้องรักษาธรรมชาติและเรียนรู้วัฒนธรรมของชาวอาข่ากันด้วย