เริ่มต้นขึ้นแล้วกับการใช้มาตรการถ่ายรูปผู้ทำผิดกฎจราจรทั่วกรุงเทพมหานคร โดยรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้ไปสาธิตการใช้งานกล้องตรวจจับแบบเคลื่อนที่บริเวณแยกบางเขน ซึ่งจุดนี้ตำรวจรับการร้องเรียนจากผู้ใช้รถใช้ถนนว่า มีผู้ฝ่าฝืนขี่รถจักรยานยนต์ย้อนศร และฝ่าฝืนนำรถจักรยานยนต์เข้าไปวิ่งในช่องทางด่วนเป็นจำนวนมาก โดยกล้องนี้ดัดแปลงมาจากกล้องตรวจจับความเร็ว สามารถใช้จับภาพผู้ฝ่าฝืนกฎจราจรได้หลายรูปแบบทั้งขับย้อนศร วิ่งทับเส้นทึบ นำจักรยานยนต์ขึ้นสะพานข้ามแยกขึ้นทางเท้าหรือแม้แต่จัดการกับเด็กแว้น ขณะนี้มีใช้งานทั้งสิ้น 14 ตัว และยังมีกล้องถ่ายรูปความละเอียดสูงอีกจำนวนหนึ่งมาเสริมการตรวจจับ
กล้องชนิดต่อไปที่รองผู้บัญชาการไปตรวจสอบการทำงาน คือ กล้อง "Lane Check" ซึ่งติดตั้งตายตัวในจุดที่มีผู้ฝ่าฝืนกฎจราจร และจะส่งภาพมาใช้เป็นหลักฐาน เพื่อออกใบสั่งแก่ผู้ทำผิดกฎจราจร แล้วส่งถึงบ้านเจ้าของรถ ขณะนี้ถูกติดตั้งไว้ประจำตามแยก และจุดสำคัญต่างๆ อีกประมาณ 40 ตัว และกำลังจะติดตั้งเพิ่มอีกในหลายจุด
ส่วนขั้นตอนการออกใบสั่ง ตำรวจพาเราไปดูการออกใบสั่งของ สน.วิภาวดี ซึ่งมีการออกแบบอิเล็กทรอนิกส์ มีภาพถ่ายหลักฐานการทำผิดชัดเจน พร้อมจัดส่งถึงบ้านของเจ้าของรถได้ทันที ในหนึ่งวันที่ สน.นี้เคยทำสถิติสูงสุดออกใบสั่งจัดการกับผู้ฝ่าฝืนกฎจราจรได้มากกว่า 1,000 ใบ
สำหรับผู้ที่ถูกออกใบสั่งด้วยวิธีการนี้ หากละเลยไม่ไปชำระค่าปรับภายใน 7 วัน จะถูกแจ้งเตือนให้ชำระค่าปรับ และหากยังเพิกเฉยจะแจ้งให้กรมการขนส่งทางบกระงับการต่อทะเบียน และจะต้องถูกปรับเพิ่มอีก 1,000 บาท
การนำวิธีถ่ายภาพผู้กระทำผิดกฎจราจรมาใช้ ตำรวจต้องการลดการกระทบกระทั่ง และการเกิดข้อโต้แย้งระหว่างตำรวจกับประชาชน
ทำให้สามารถบังคับใช้กฎหมายได้อย่างเต็มที่ และหากมีกล้องดังกล่าวทั่วพื้นที่ น่าจะทำให้ผู้ขับขี่เกรงกลัวการทำผิดกฎจราจรมากยิ่งขึ้น
หลังจากตำรวจใช้วิธีการนี้ ทีมข่าวได้ไปสอบถามผู้ที่มาเสียค่าปรับ ก็มีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและยอมรับว่าได้กระทำผิด ส่วนผู้ที่ไม่เห็นด้วยก็อ้างเหตุผลต่างๆ
