รายการประจำวัน
รายงานพิเศษ : มิจฉาชีพตระเวนลักทรัพย์ร้านนวดแผนไทย

ผู้ให้บริการร้านนวดแผนไทยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลควรเพิ่มความระมัดระวัง ขณะนี้มีมิจฉาชีพแฝงตัวมาสมัครเป็นหมอนวดประจำร้าน เพื่อฉวยโอกาสลักทรัพย์ โดยตระเวนก่อเหตุมาแล้วหลายแห่ง ล่าสุดผู้เสียหายเป็นร้านนวดแผนไทยที่จังหวัดสมุทรปราการ สูญทรัพย์สินไปเกือบ 50,000 บาท ลงสนามข่าวนี้พร้อมกัน

ใครจะคิดว่าการประกาศเปิดรับสมัครหมอนวดแผนไทย จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเปิดรับมิจฉาชีพเข้ามาก่อเหตุลักทรัพย์นับหมื่นบาทถึงในร้าน หนูจอย ฝีปากดี อายุ 40 ปี เจ้าของร้านนวดแผนไทยเพื่อสุขภาพ แจ้งความตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ ให้ช่วยติดตามตัวคนร้ายเป็นหญิงรูปร่างท้วม ผมสั้น อายุประมาณ 40-45 ปี ที่แฝงตัวมาทำทีขอทดสอบมือเป็นหมอนวดประจำร้าน แต่เมื่อผ่านการทดสอบและได้รับเข้ามาเพื่อทดลองงาน เวลาผ่านไปไม่นาน มิจฉาชีพรายนี้ก็ออกลาย อาศัยจังหวะที่เจ้าของร้านออกไปรับประทานอาหารฉกทรัพย์สินประกอบด้วยเงินสดจำนวน 6,000 บาท สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาท จำนวน 2 เส้นพร้อมพระเครื่อง ซึ่งเก็บไว้ในล็อกเกอร์ พร้อมโทรศัพท์มือถืออีก 2 เครื่อง ที่วางไว้ในร้าน รวมมูลค่าเกือบ 50,000 บาท หายวับทันที

ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดใกล้กับร้านนวดแผนไทย บันทึกภาพหญิงคนร้ายพยายามใช้มือปิดบังอำพรางใบหน้า เดินออกจากร้านไปในช่วงเวลา 14.50 น.ของวันที่ 27 กุมภาพันธ์ มิจฉาชีพรายนี้เดินข้ามถนน แล้วโบกเรียกรถแท็กซี่สีเขียว-เหลือง นั่งหลบหนีไป โดยทิ้งกระเป๋าสะพายใบสีแดงของคนร้ายไว้ให้เจ้าของร้านดูต่างหน้า ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ จะเร่งขยายผลตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนี พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับมิจฉาชีพรายนี้มาดำเนินคดี

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของคดีลักทรัพย์ร้านนวดแผนไทย เพราะเมื่อ 20 กุมภาพันธ์ เจ้าของร้านนวดแผนไทยในอำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ซึ่งประกาศรับสมัครหมอนวดประจำร้านก็ตกเป็นเหยื่อของหญิงรูปร่างท้วม ผมสั้น อายุประมาณ 40-45 ปี เช่นเดียวกัน และนี่่คือภาพจากกล้องวงจรปิดที่ตำรวจพบเป็นหลักฐาน จะเห็นว่าคนร้ายทั้ง 2 คดี มีรูปพรรณสัณฐานคล้ายคลึงกัน แถมวิธีการที่เข้ามาก่อเหตุลักทรัพย์ รวมถึงพฤติกรรมที่มักทิ้งกระเป๋าไว้ให้เจ้าของร้านดูต่างหน้าก็เหมือนกันอย่างกับแกะ

ส่วนทรัพย์สินที่สูญหายไปประกอบด้วย เงินสกุลบาท เงินสกุลต่างประเทศและทองรูปพรรณ รวมมูลค่าไม่ต่ำกว่า 30,000 บาท ทั้งหมดถูกเก็บไว้ในล็อกเกอร์มีกุญแจล็อกไว้เช่นเดียวกับร้านอื่นๆซึ่งเมื่อแจ้งความให้ตำรวจ สภ.บางหลวง เร่งติดตามคนร้าย ผู้เสียหายก็ได้นำเรื่องนี้ประกาศผ่านเฟซบุ๊ก เตือนเครือข่ายร้านนวดแผนไทยให้คอยระมัดระวัง แต่ที่น่าตกใจก็คือมีผู้เข้ามาแจ้งข้อมูลว่าตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพนี้แล้วต่อเนื่องทั้งในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล นับตั้งแต่เดือนธันวาคมปีก่อน

แต่เนื่องจากมิจฉาชีพรายนี้ค่อนข้างระมัดระวังตัว และ พยายามเปลี่ยนพื้นที่ก่อเหตุต่อเนื่องจึงทำให้ตำรวจแต่ละพื้นที่ต้องรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งหากบุคคลใดทราบเบาะแส หรือ พบเห็นหญิงต้องสงสัยตามภาพกล้องวงจรปิด แจ้งตำรวจตรวจสอบเพิ่มเติมได้ ขณะที่เจ้าของร้านนวดแผนไทย ควรตรวจสอบประวัติพร้อมเก็บหลักฐานหมอนวดประจำร้าน เพื่อให้ง่ายต่อการติดตามตัวในอนาคต เพราะทุกวันนี้คนเรารู้หน้ายากรู้ใจ

สุวรรณี กรรณสูต สนามข่าว 7 สี รายงาน


< กลับหน้าหลัก