หลังญาตินักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปากร ที่จังหวัดเพชรบุรี เข้าพบตำรวจเพื่อขอให้ช่วยคุ้มครองความปลอดภัย เพราะกลัวผู้มีอิทธิพลข่มขู่ทำร้ายร่างกาย ก็มีการโอนย้ายคดีดังกล่าวไปให้ตำรวจกองปราบปรามรับผิดชอบแล้ว ขณะที่ทนายความครอบครัวผู้เสียชีวิตนำหลักฐานสำคัญไปมอบให้ตำรวจไปติดตามจากรายงาน

คดีนักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยศิลปากร ที่ถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต ที่จังหวัดเพชรบุรี คดีนี้ผ่านมาแล้ว 12 วัน พบความเกี่ยวพันผู้ที่ร่วมก่อเหตุรวม 18 คน แม้คดีจะดูแล้วไม่ซับซ้อน แต่เนื่องจากกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุเป็นลูกของข้าราชการและนักการเมืองท้องถิ่น ญาติของผู้เสียชีวิตจึงตัดสินใจเข้าพบพลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้ช่วยโอนสำนวนคดีไปไว้ที่กองปราบปราม และขอให้ช่วยคุ้มครองความปลอดภัย ซึ่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้พิจารณาแล้วมีคำสั่งให้กองปราบปรามรับไม้ต่อในคดีนี้

ขณะที่นายสงกรานต์ อัจริยะทรัพย์ ทนายความครอบครัวผู้เสียชีวิตนำพยานหลักฐานเพิ่มเติมไปมอบให้ตำรวจกองปราบปราม โดยหนึ่งในหลักฐานสำคัญ คือ คลิปเสียงที่อ้างว่าได้จากพยานรายหนึ่งที่บันทึกคำสนทนาในวันเกิดเหตุ ความยาว 30 นาที และยืนยันว่าคดีนี้มีการข่มขู่พยานเกิดขึ้นจริง

ด้านผู้บังคับการกองปราบปราม ระบุว่า หลังรับคดีนี้มาแล้ว ก็จะเรียกดูสำนวนคดีทั้งหมดเพื่อพิจารณาแนวทางการสอบสวน พร้อมยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย