ผู้ชายที่ถูกยกให้เป็น สามีที่ประเสริฐที่สุด คุณตุลย์ สามีแม่นุ่น สู้มะเร็งระยะสุดท้าย
“หลายคนบอกว่าผมเป็นสามีที่ดี แต่ผมเป็นสามีที่ดีได้เพราะแม่นุ่นเป็นภรรยาที่ดี นั่นจึงสมควรแล้วที่เค้าจะต้องได้รับสิ่งดีๆกลับคืนไป”
หากใครได้ติดตามเรื่องราวในเพจแม่นุ่น ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวของ สามีภรรยาคู่หนึ่งที่ต้องต่อสู้กับโรคมะเร็งระยะสุดท้าย ตั้งแต่ตรวจพบเจอโรค ทั้งที่ในขณะนั้น แม่นุ่น ผู้เป็นภรรยาเพิ่งจะอายุเพียง 29 ปีเท่านั้น ส่วนคุณตุลย์ ในวัย 33 ปี พร้อมด้วย ลูกๆ 2 คน ต้องพบเจอกับข่าวร้ายของครอบครัว เมื่ออาการเจ็บป่วยของแม่นุ่น ลุกลามจนตรวจพบว่าเธอกำลังเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย
หลังจากวันที่รับรู้สถานการณ์ของครอบครัว ทั้งคู่ตั้งใจที่จะต่อสู้กับมะเร็งระยะสุดท้าย ซึ่งขณะนี้เป็นเวลามากว่า 5 ปีแล้ว โดย พ่อตุลย์ สามีแม่นุ่น ตัดสินใจเปิดเพจแม่นุ่น เพื่อบอกเล่าการรักษามะเร็งและส่งต่อกำลังใจให้ผู้ป่วยมะเร็ง ได้มาแชร์ประสบการณ์การรักษาร่วมกัน ทำให้มีผู้ติดตามมากว่า 5แสนคนในระยะสี่ปี ที่เริ่มทำการรักษาจนถึงขณะนี้ …ติดตามอาการแม่นุ่นได้ที่นี่
แต่สิ่งที่ทำให้หลายๆคนพร้อมใจกันยกให้ คุณตุลย์ เป็นสามีที่ประเสริฐที่สุด โดยผู้ที่ติดตามแฟนเพจแม่นุ่น ต่างกล่าวชมเชยว่า คุณตุลย์ สามีแม่นุ่น เป็นสามีที่ดีและดูแลครอบครัวได้เป็นแบบอย่างที่ดีมาก บ้างก็บอกว่า แม่นุ่นอาจโชคร้ายที่ป่วยเป็นมะเร็ง แต่เธอโชคดีที่มีสามีที่ดี และถึงแม้ว่าคำยกย่องทั้งหมดมาจากผลจากการกระทำที่ พ่อตุลย์ ผู้เป็นสามีได้แสดงให้เห็นผ่านการบอกเล่าเรื่องราวของพวกเขามากว่า 5ปี ที่ผ่านมา แต่เขาก็ยังบอกว่า ที่เป็นเช่นนั้น เพราะแม่นุ่นคือภรรยาที่ดี ที่ควรได้รับการตอบแทนดีๆกลับไป..
หลายคนอาจจะบอกว่าผมเป็นสามีที่ดี ซึ่งผมก็ขอบคุณมากที่ให้เกียรติ ชื่นชม แต่ผมเป็นสามีที่ดีได้ เพราะคุณนุ่นก็เป็นภรรยาที่ดี ซึ่งสมควรแล้วที่เขาควรจะได้รับสิ่งดีๆ กลับคืนไป ตอนนี้ผมไม่ได้รักคุณนุ่นมากขึ้น แค่รักเหมือนเดิมที่เคยรัก บางคนมีความรักอาจจะคาดหวังความสุขต่างๆจากคนที่รัก แต่ชีวิตคู่ของผมมันกลับกัน คือต่างคนต่างไม่เคยคาดหวังอะไร มีแต่จะใช้ความรักของเราสร้าง
ความสุขให้อีกคนมากที่สุด Cr: นิตยสาร SOOK
{ภาพก่อนผ่าตัด 10 นาที}
นุ่น: “เค้าจะไม่เป็นไร เค้าสู้ เค้าสู้ได้อยู่แล้ว เค้าต้องดูแลลูก ต้องอยู่ทะเลาะกับตัวเองให้ได้”
ตุลย์: “อืม ไม่เป็นไร.. หมอบอกไม่เป็นไร ไม่ต้องกลัวนะ”
นุ่น: …..(น้ำตาไหลอาบแก้ม)…
ตุลย์: “กลัวเหรอ.. ไม่เป็นไรนะ..”
นุ่น: “เค้าไม่ได้กลัว.. เค้าแค่ใจเสียเฉยๆ..”
มันไม่ได้สำคัญเลยว่าวันนี้ร่างกายจะเปลี่ยนไปยังไงเพราะเธอก็ยังเป็นผู้หญิงคนนั้นที่เจอกันวันแรกอยู่ดี
รอยแตกใต้ชั้นผิวหนังเป็นผลข้างเคียงของยาตั้งแต่เริ่มรักษาแรกๆ ทำได้แค่ทาโลชั่นให้หายคันน้อยลงแต่ไม่เคยจางลงเลย ขอโทษจริงๆที่ช่วยให้ดีขึ้นกว่านี้ไม่ได้
รายงานโดย Men.mthai.com
