ศึกฟุตบอลถ้วยโตโยต้าลีกคัพรอบรองชนะเลิศ นัดแรก เป็นคู่บิ๊กแมตท์ “กระต่ายแก้ว” บางกอกกล๊าส เอฟซี ที่ผ่านด่าน ชลบุรี เอฟซีมาได้ในรอบ 8 ทีมจะได้เฝ้ารัง สนามหญ้าเทียม ลีโอ สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่า ที่พลิกเขี่ย บีอีซี เข้ารอบมาอย่างเหลือเชื่อ โดยในนัดนี้ ทั้งสองทีมต่างจัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนาม แต่ ทีมเยือนไม่มีชื่อ แฟรงค์ อาชิมปง ที่เพิ่งกลับจากรับใช่้ทีมชาติ กาน่า ชุดเยาวชนออกสตาร์เป็น 11 ตัวจริงเพื่อคว้าแชมป์บอลถ้วยให้ได้ เพราะ ความหวังในการลุ้นแชมป์ลีก ค่อนข้างริบหรี่ทั้งคู่

เริ่มเกมส์ 3 นาทีแรก เจ้าบ้าน บางกอกกล๊าส ได้ทักทายก่อน เมื่อ อจายี่ ไปโดน สุรัตน์ สอยหน้า

กรอบเขตโทษ กรรมการเป่าให้เป็นฟรีคิกทันที แล้วเป็น วาเลรี่ เฮียก รับหน้าที่ สังหารแต่บอลเหินข้ามคานออกไปไกล แบบไม่ต้องลุ้น  ผ่าน 10 นาทีแรกเกมส์ของเจ้าบ้านดีกว่า นิดๆ และเกือบได้ลูกจุดโทษ เมื่อ ชาตรี ฉิมทะเล ทำชิ่งกับ อจายี่ หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ แล้วโดน ประทุม ชูทอง เหนี่ยวล้มลง แต่ นิวัฒน์ อินสอาด ผู้ตัดสินโบกมือให้เล่นต่อไป ท่ามกลางความไม่พอใจเล็กๆของกกองเชียร์เจ้าบ้าน

ผ่าน 20 นาทีแรก รูปเกมส์ค่อนข้างอึดอัด เมื่อทั้งสองฝ่ายต่างระมัดระวังด้วย แต่เป็น บีจี เจ้าบ้านที่ฉกฉวยโอกาสได้ดีกว่า เมื่อ “เจ้าเบนซ์” พีรพงษ์ พิชิตโชติรัตน์ ห้องเครื่องของทีม โชว์ความ หูตาไว จ่ายบอลยาวให้ ชาตรี หลุดขึ้นไปทางซ้ายก่อนจ่ายเข้ากลาง ให้ อจายี่ เบงก้า คู่หูล็อคบอลหนี อิบาร์เนซ บาร์บา เข้าไปยิงมุมแคบแต่  บอลยังไปติด ศิวลักษณ์ ที่ยืนปิดมุมได้ดี

แต่แล้ว นาที 23 กองเชียร์เซาะกราวที่ขนกันมาเต็มความจุ ของโซนทีมเยือน ก็เป็นฝ่ายได้เฮก่อน เมื่อ จิรวัฒน์ มัครมย์ เปิดลูกฟรีคิกจากกราบขวาเข้าไป กลางประตู บอลชนตัว ชินโนะซึเกะ ฮอนดะ แต่กลายเป็นดี เมื่อเด้งมาเข้าจังหวะ ปราการหลังชาวญี่ปุ่นที่วันนี้ถูกดันมารับบอลกองหลางตัวรับ หมุนตัวมาเจอบอล ยิงเข้าไปไม่เหลือ ให้ “ปราสาทสายฟ้า” บุกขึ้นนำ “เดอะกล๊าสแร็บบิท” ไปก่อน 0-1 ทั้งที่เป็นฝ่ายตั้งรับอยู่เกือบตลอดในช่วงก่อนจะได้ประตู

นาที 30 แนวรับ “เซาะกราว” สกัดบอลไม่ดีมาเข้าทาง ซารุตะ จัดการวอลเลย์สวนทันที แต่ยังตรงตัว

ศิวลักษณ์ เทศสูงเนิน  แม้จะโดนนำไปก่อน แต่เจ้าบ้านไม่ออกอาการเป๋ ให้เห็น และยังเดินเกมส์บุกใส่ ผู้มาเยือนต่อ โดย พีรพงษ์ ทำชิ่ง หนึ่งสองกับ ซารุตะ หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนตวัดยิงด้วยซ้าย บอลหลุดกรอบออกไป  นาที 41 เกมส์ยังเป็นของ เจ้าบ้าน เมื่อ ซามูเอล เบงก้า อจายี่ ลากลุยเดี่ยวแหวกผ่านแผงกองหลัง บุรีรัมย์ เข้าไปเกือบถึงกรอบ 6 หลา ก่อนซัดติดบล็อก ได้เพียงเตะมุม

จบครึ่ง “กระต่ายแก้ว” บางกอกกล๊าส เอฟซี เจ้าถิ่น ยังตามหลัง “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ผู้มาเยือนอยู่ 0-1

ช่วงก่อนเริ่มครึ่งหลัง นักเตะ บุรีรัมย์ บางส่วนออกมาจากห้องแต่งตัวช้า ทำให้ โดนแฟนเจ้าถิ่นโห่ กดดัน ตั้งแต่บอลยังไม่ทันเขี่ย เริ่มเกมส์ครึ่งหลัง ผ่าน 5 นาทีแรกกลับเป็นทางฝั่งทีมเยือนที่เริ่มตั้งเกมส์ได้ก่อน  แต่ยังหาจังหวะซัดประตูเพิ่มเหน่งๆไม่ได้ เลยเป็นฝ่าย บางกอกกล๊าส ที่กลับมา ครองบอลบุกเหมือนครึ่งแรก แต่บุกเพลินและเกือบโดน บุรีรัมย์ สวนกลับ เมื่อ จักรพันธ์ แก้วพรม หลุดขึ้นไปทางซ้ายก่อนจ่ายมาให้ โจคอวิช โกรัน ได้บอลโล่งๆ ตรงหัวกะโหลก แต่ศูนย์หน้าทีมเยือนแต่งบอลหาจังหวะยิงช้า เลยโดน แนวรับ บีจี ที่ตามมาทัน บล็อก บอลเอาไว้ได้

นาที 62 อจายี่ ใช้ความแข็งแกร่ง พักบอลที่เพื่อนโยนยาวมาให้ ซารุตะ ก่อนที่ ปีกตัวจิ๊ดเลือดซามูไร

จะวิ่งเข้ามาซัด บอลไต่หลังเท้าปลิ้นออกไป  ถึงนาที 64 ลูกทีมของโค้ชง้วน ปรับหมากมาเล่นบอลยาว แต่ยังไม่เข้าเป้านัก ส่วนฝ่ายทีมเยือน เน้นเกมส์โต้กลับ นาที 67 เกมส์สวนกลับของ “โค้ชแต๊ก” ก็แผลงฤทธิ์ใส่เจ้าบ้าน เมื่อ ศิวะพงษ์ เจริญศิลป์ ตัวสำรอง จ่ายบอลพลาดจากกลางสนามไปเข้าทาง จักรพันธ์ แล้ว “เจ้าโน้ต” ตักบอลยาวข้ามหัว อำนาจ แก้วเขียวที่ดันขึ้นสูงให้ โจคอวิช โกรัน หลุดเดี่ยว แบบมีเวลาสั่งก๋วยเตี๋ยวมากินก่อนสองชาม เข้าไปล่อเป้ายิงผ่าน กฤษณะ กลั่นกลิ่น ให้แชมป์เก่า ฉกฉวย อเวย์โกล ลูกที่ 2 หนีห่าง เจ้าบ้านเป็น 0-2

นาที 75 ฮิโรโนริ ซารุตะ หลุดเข้าไปทางขวาของกรอบเขตโทษ ก่อนซัดติดหน้าต่าง  นาที 76 กองเชียร์ บางกอกกล๊าส เอฟซี ได้เฮกันลั่นสนามลีโอสเตเดี้ยม เมื่อ ซามูเอล เบงก้า อจายี่ ลุยขึ้นไปทาขวาของ กรอบเขตโทษ ก่อนเปิดเข้ากลางมาให้ ชาตรี ฉิมทะเล ชารจ์ จ่อๆไม่เหลือซาก “กระต่ายแก้ว” ตีไข่แตก ไล่ “ปราสาทสายฟ้า” มาเป็น 2-1 ช่วงท้ายเกมส์ นักเตะทั้งสองฝั่งเริ่มมีการปะทะกันรุนแรงขึ้น

นาที 89 เจ้าบ้านยังโหมบุกหนักหวังทวงประตูตี เสมอและเป็น พีรพงษ์ พิชิตโชติรัตน์ เก็บบอลได้ที่

แถวสอง ก่อนซัดด้วยขวา แต่บอลข้ามคานออกไป  และแล้วช่วงทดเวลา กองเชียร์เจ้าบ้านก็เฮกันลั่น เมื่อ ซามูเอล เบงก้า อจายี่ เบียดเอาชนะ อิบาร์เนซ บาร์บา และ สุรัตน์ สองตัวประกบ เข้าไปยิงยัดมุมแคบ ศิวลักษณ์ ตะครุบบอลจังหวะแรกไว้ได้ แต่เอาไม่อยู่ บอลปลิ้นเข้าประตูไปให้ บางกอกกล๊าส เอฟซี ตามมาไล่ตีเสมอ  บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดแบบสุดมันส์ 2-2

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เกมส์ออกแนวหนังชีวิต เมื่อ เอกชัย สำเร โดน เฮียกสอยแบบ คาบลูกคาบดอกล้มลงในกรอบ เขตโทษ นิวัฒน์ อินสะอาด ผู้ตัดสินเป่าให้เป็นจุดโทษทันที ทำให้ นักเตะ บีจีไม่พอใจ เข้าไปประท้วง แต่ก็ไม่เป็นผล ทำให้มีขวดน้ำจากแฟนบอลที่ไม่พอใจ ลอยลงมาเต็มสนาม ชนิดหวานคอแร้ง ทีพีแอล ที่ได้กินเงินค่าปรับกันสบายๆ  แล้วเป็น เอควาล่า เฮอร์แมน สวมหัวใจสิงห์ยิงผ่านมือ  กฤษณะ กลั่นกลิ่น เข้าประตูไป ให้ ทีมเยือนจากอีสานใต้ พลิกกลับขึ้นมานำ 2-3 ทำให้มีขวด และ ถุงลอยลงมาอีก

จบเกมส์ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่า บุกมา ช่วงชิงความได้ เปรียบก่อนในนัดแรก เมื่อ บุก

เอาชนะ บางกอกกล๊าส เอฟซี ได้ถึงรัง ลีโอ สเตเดี้ยม 2-3 คุนอเวย์ โกลได้ถึง 3 ลูก ทำให้ นัดที่สองที่จะเล่นกันในวัน พุธที่ 3 ตุลาคม บีจีต้องบุกไปชนะ ด้วยสกอร์อย่างน้อย  0-2 และหลังจากจบเกมส์ แฟนๆ เจ้าบ้านที่ไม่พอใจการทำงานของทีมงานผู้ตัดสิน ได้ลุกขึ้นมาด่าทอ และ ขว้างปาขวดน้ำใส่ ทีมงานผู้ตัดสิน ที่ต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ คุมตัวออกจากสนามไป

ส่วนผลอีกคู่ "ราชันมังกร" ราชบุรี มิตรผล เอฟซี หนึ่งเดียวจากยามาฮ่า ลีกวัน สามารถเอาชนะ "ฮัลโหล" ทีโอที เอสซี อีกหนึ่งตัวแทนจากไทยลีกไปได้ก่อน 1-0 โดยนัดที่สองจะกลับมาเล่นที่บ้าน ทีโอที ในวันพุธที่ 3 ตุลามคม เช่นกัน

 รายชื่อ ผู้เล่นทั้งสองทีม

บางกอกกล๊าส เอฟซี : กฤษณะ กลั่นกลิ่น(GK),วสันต์ ฮมแสน,อำนาจ แก้วเขียว(C),วาเลรี่ เฮียก,ศุภชัย คมศิลป์,ปีเตอร์ แลง(ศิวะพงษ์ เจริญศิลป์ น.46 )(อนาวิน จูจีน น.85),ธีรเทพ วิโนทัย(ฟลาเวียน มิเชลลินี่ น.70),พีรพงษ์ พิชิตโชติรัตน์,ฮิโนโรริ ซารุตะ,ชาตรี ฉิมทะเล,ซามูเอล เบงก้า อจายี่

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : ศิวลักษณ์ เทศสูงเนิน(GK),สุรัตน์ สุขะ,ประทุม ชูทอง,ชินโนะซึเกะ ฮอนดะ(ซารีฟ สายนุ้ย น.60),เอควาล่า เฮอร์แมน,จักรพันธ์ แก้วพรม,ธีรธร บุญมาทัน,อภิเชษฐ์ พุฒตาล(C),จิรวัฒน์ มัครมย์(เอกชัย สำเร น.54),ออสม่า อิบาร์เนซ บาร์บา,โจคอวิช โกรัน(แฟรงค์ อาชิมปง น.73)

ชม Gallery ต่อคลิก