มาทําความรู้จักกับ "มาดามมด" ที่ไม่ว่าจะนานแค่ไหนเธอก็ยังดังอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง

แต่ก่อน "มาดามมด" เป็นคุณครูสอนการแสดงเด็กมาก่อน แล้วค่อยมาสอนคณิตศาสตร์ และ

งานบันเทิงชิ้นแรกที่ทําให้หลายๆ คนรู้จักกันในนามว่า "มาดามมด" ก็คือ ภาษา plaza และ

ตอนนี้เธอก็มีซีรีส์อีกหนึ่งเรื่องที่กําลังถ่ายทําอยู่เป็นซีรีส์เรื่องใหม่จาก GTH เรื่อง มาลี

เพื่อนรักพลังพิสดาร เร็วๆ นี้ งั้นอย่ารอช้าเราไปตามดูกันเลยว่า STYLE การแต่งตัวของผู้

หญิงที่ชื่อว่า " มาดามมด" จะเป็นยังไง ต้องติดตาม

ชื่อเล่น มด

อาชีพ พิธีกร, นักแสดง, นางแบบ, เน็ตไอดอล

ปีที่แสดง 2554 - ปัจจุบัน

ผลงานเด่น รายการ ภาษา plaza

ค่าย จีทีเอช, จีทีเอชออนแอร์, จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่

การศึกษา มัธยมศึกษา โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา แผนการเรียนศิลป์-คำนวณ

•              ปริญญาตรี เกียรตินิยมอันดับ 1 (เหรียญทอง)

คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภาควิชาวาทวิทยาและสื่อสารการแสดง

ปัจจุบัน เป็นพิธีกรและนักแสดง สังกัด จีทีเอช ในเครือ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่

IG : @madame_mod

                                 

set 1

TOP : แว่นตา

ซื้อที่ : Japan

          เหตุผลที่ตัดสินใจซื้อ : ต้องบอกก่อนว่าคนขายเค้าพูดจากับมดดีมาก ดูใส่ใจ ว่าทรง

แว่นตาแบบไหนที่เหมาะกับเราจริงๆ ซึ่งเค้าเลือกรุ่นล่าสุดที่เป็น Limited Edition ออกมาให้

มด และคือคนขายเค้าไม่รู้จักมดนะคะ เพราะที่นั่นเป็นต่างประเทศ เค้าพูดกับมดเลยว่า "คุณดู

เป็นคนที่ Fashionable มาก น่าจะเหมาะกับแว่นอันนี้ ซึ่งเราฟังคํานี้แล้วดูดีนะ (หัวเราะ) อีก

อย่างที่เรารู้สึกได้เลยคือ เค้าพูดแบบจริงใจ ไม่ใช่แบบจะขายของ พอมดเห็นแว่นที่เค้าเลือก

ให้ เราก็ชอบเลย มันเป็นแว่นตาสีแดงค่ะ

set 2

TOP : ขนตา

ซื้อที่ : ขนตาส่วนใหญ่ทําเองค่ะ

          เหตุผลที่ตัดสินใจซื้อ : ขนตาเรียกได้ว่า เป็นส่วนนึงของมดเลยก็ว่าได้ (หัวเราะ) เพราะ

มดต้องใช้ตลอดอยู่แล้ว ซึ่งขนตาส่วนใหญ่มดจะ create เอง ไปซื้ออุปกรณ์มาตามร้านเครื่อง

เขียนทั่วไป แล้วเอามาทําเอง เพราะจะได้ใหญ่ตามที่มดต้องการค่ะ ส่วนเรื่องของสีสันของ

ขนตา ก็แล้วแต่อารมณ์นั้นๆ ของมดด้วย จะมีทั้งขนนกสีขาว, สีชมพู, สีทอง หรือแม้แต่

กระดาษ หรือผ้าก็มีมาทําขนตาค่ะ

ส่วนใหญ่ได้แรงบันดาลใจมาจากอะไร ในการทําชุด ?

หลากหลายเหมือนกันนะคะ มันแล้วแต่ช่วงเวลาของชีวิต ใหม่ๆ เลยมดจะได้แรงบัลดาลใจจาก

การ์ตูน เพราะมดชอบดูการ์ตูน ส่วนใหญ่มดจะเป็นคนคิดชุดเอง ก็จะเอาอะไรที่ใกล้ตัวมาเป็น

แรงบันดาลใจค่ะ อย่างเช่น สัตว์ที่เราชอบ แล้วก็ธรรมชาติรอบๆ ตัว

ส่วนใหญ่ไป Shopping กับใคร ?

เอาจริงๆ มดเป็นคนไม่ Shopping นะ จะซื้อของที่จําเป็นจริงๆ สําหรับการใช้ทํางาน ไม่ค่อย

ได้ซื้อมาใช้ในชีวิตประจําวันอ่ะค่ะ

มีชุดอะไรที่อยากใส่ แล้วยังไม่ได้ใส่อีก ?

น่าจะเป็นชุดที่มีการตัดเย็บที่ยากนะ ในความรู้สึกของมดอ่ะ จริงๆ พวกชุดราตรีทั่วไป มดว่า

แพทเทิร์นมันก็คงแปลกไม่ได้มากนะ แต่สําหรับชุดที่ยากสําหรับมด และอยากลองใส่คือชุด

สัตว์ที่มันแปลกมากๆ หรือสัตว์ทะเลบางชนิด มดแค่คิดว่ามันจะเป็นยังไง ถ้าเราต้องแต่งตัวแบ

บนั้นอ่ะค่ะ อย่างเช่นกุ้ง

สไตล์การแต่งตัว ?

มดว่าช่วงนี้มดก็จะเป็น "ผู้หญิงน่ารัก" และเด็กมาก ซึ่งก่อนหน้านั้นมดมาในแบบเซ็กซี่อ่ะค่ะ แต่

ไม่ต้องห่วงเลยค่ะว่าจะไม่ได้เห็นมดอีกในลุคเซ็กซี่ เพราะมดจะปรับลุคไปเรื่อยๆ

ถ้าชุดที่เราใส่ไปงานเกิดมีปัญหา จะมีวิธีการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าอย่างไร ?

มีเลยค่ะ แรกๆ ไปงานเราก็มั่นใจว่าเราใส่ชุดนี้ได้ แต่เอาเข้าจริง พอถึงหน้างานเราเกิดใส่ไม่ได้

เพราะฉะนั้น มดมีการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแบบนี้ทุกครั้งค่ะ คือ "การมีชุดสํารอง" ทุกคนจะ

สงสัยมากว่าทําไมมดต้องแบกชุดมาเยอะขนาดนี้ คือชุดบางชุดมันใส่ไม่ได้ หรือชุดบางชุดใส่

แล้วไม่มั่นใจ ทุกอย่างก็ต้องมีของเตรียมเสียบไว้เสมอ ซึ่งมีเหตุการณ์พวกนี้เกิดขึ้นบ่อยนะ

เพราะชุดบางชุดมดใส่ได้ก็จริง แต่ก็ไม่เข้าธีมทางงานค่ะ

แฟชั่นขออินตามกระแส ?

ไม่เลยค่ะ มดจะไม่ติดตามเทรนด์ล่าสุด จะเกิดจากแรงบันดาลใจของตัวเองเท่านั้นเลย

ก่อนออกจากบ้านสิ่งที่ต้องทําคืออะไร ?

ต้องคุยกับสุนัขค่ะ แล้วก็แมวที่บ้านก่อน มีทั้งที่เลี้ยงไว้ แล้วก็แถวบ้านค่ะ

มีมุมมองในเรื่องของความรักอย่างไรบ้าง ?

เราคงไม่ได้พุ่งไปเรื่องของความรักแบบไหนนะ มดชอบมุมมองความรัก ณ ปัจจุบันของมดน่ะ

ค่ะ จากที่มดต้องเริ่มจากการรักตัวเองก่อนอ่ะ เพราะฉะนั้นถ้าเรารู้จักรักตัวเองแล้ว เราไม่จําเป็น

ต้องรอคอยความรักจากใครเลย เราสามารถที่จะอยู่ได้ด้วยตัวของเราเองด้วยซํ้า เพราะฉะนั้น

พอเราเริ่มรักตัวเองแล้ว มันจะเริ่มเป็นการเผื่อแผ่ไปสู่คนอื่น

ถ้าเกิดมีความเหงาเข้ามา เราจะจัดการกับความเหงายังไง ?

แน่นอนค่ะ อารมณ์เหงาๆ มดต้องเคยมีอยู่แล้ว แต่มดกลับรู้สึกชอบช่วงเวลานี้ มดคิดเลยว่าถ้า

มดมีความรักแบบนั้นอ่ะ มดจะทํางานได้ไม่เต็มที่แบบนี้ ตอนนี้เรายังแฮปปี้กับงานอยู่ เหงามัน

เหงาแป๊บเดียว กลับบ้านไปเราก็เหนื่อยแล้วอ่ะค่ะ เราก็นอนพักผ่อนแล้วอ่ะ มันจะไม่ไปโฟกัส

เรื่องนั้นหรอก มันจะเหงาก็ต่อเมื่อ เราเห็นอะไร หรือว่าอากาศมันทําให้เราเหงาแบบนั้น

มากกว่าค่ะ จริงๆ อารมณ์เหงามันก็ไม่ใช่อารมณ์ที่แย่มากเลยนะ มันไม่ได้แย่หรอกค่ะ มันแค่

เป็นอารมณ์นึงของคน แต่ว่าเราอย่าไปดิ่งกับมันมาก หรือ "บางทีคนเรามักจะทุกข์กับการคาด

หวังหรืออยากให้มันเป็น" เราแอบรักข้างเดียวอะไรแบบนี้ จริงๆ เราก็มีความสุขได้นะ หรือความ

รักที่มันไม่สมหวังหรืออะไรก็ตาม คือเรารู้สึกว่าสิ่งเดียวที่มดอยากจะให้กําลังใจกับคนอื่นๆ ได้ก็

คือว่า อย่าเอาชีวิตเราไปแขวนไว้กับคนอื่น หรืออย่าไปฝากไว้ที่ใคร เราต้องมองเห็นคุณค่า

ของตัวเรา ถ้ามันจะทําให้เหงาบ้างมันก็เป็นเรื่องปกติ มันมีอะไรมาทดแทนได้ตั้งมากมาย แต่

ถ้ารู้สึกว่าตัวเองไม่มีคุณค่าเพราะคนอื่น...เพราะคนนั้น...เพราะคนที่เรารัก เค้าไม่เห็นคุณค่า

ของเรา มดว่าเรากําลังมาผิดทางแล้ว "เราควรที่จะรักตัวเองแล้วก็ทําสิ่งที่ตัวเองรัก แล้วเราก็จะ

มีความสุขค่ะ"