จากบอยแบนด์สู่นักแสดงหน้าใส เขื่อน-ภัทรดนัย เสตสุวรรณ

                เมื่อหลายปีที่ผ่านมา หลายคนอาจเคยรู้จักหนุ่มคนนี้ เขื่อน-ภัทรดนัย เสต

สุวรรณ ในฐานะนักร้องสุดฮอตสมาชิกบอยแบนด์ดังอย่าง K-OTIC แต่เมื่อถึงเวลาที่

สมาชิกในวงต้องแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง เขาจึงได้มีโอกาสพิสูจน์ตัวเองในงาน

ด้านอื่นๆ และล่าสุดในบทบาทใหม่คือเป็นนักแสดง ต่อยอดไปถึงการได้เป็นเจ้าของร้าน

ขนมเล็กๆ อย่างที่ได้ฝันไว้

                      

ต่อยอดความรู้สู่ธุรกิจที่บ้าน

                ตอนเลือกเรียนมหาวิทยาลัย ตอนนั้นที่บ้านผมตั้งแต่รุ่นคุณตาคุณยายมา ทุกคนทำมา

ทางด้านหอพักหมด ซึ่งผมรู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใกล้ตัว ก็เลยเลือกเรียนด้านการโรงแรมและ

มาร์เก็ตติ้งที่มหาวิทยาลัยสแตมฟอร์ด ซึ่งพอได้มาเรียนจริงๆ ก็ถือว่ามันโอเคในระดับหนึ่งเลยนะ

เป็นวิชาที่สามารถอะแดปเอามาใช้ได้ แล้วผมก็อยากเรียนอินเตอร์ด้วย เพราะคิดว่าที่นี่มี Contact

สามารถจะติดต่อกับมหาวิทยาลัยในประเทศต่างๆ ได้

สังคมอินเตอร์อันแสนอบอุ่น

                ช่วงที่ผมเรียนมันเป็นยุคบุกเบิกเลยนะ ทุกอย่างเป็นระบบครอบครัว สัดส่วนของนักเรียน

กับอาจารย์ก็พอๆ กัน อาจารย์คนหนึ่งสามารถจะดูแลนักเรียนทุกคนได้อย่างทั่วถึง แต่มันก็ส่วนยาก

ตรงช่วงฝึกงานนี่แหละ ตอนนั้นผมไปฝึกที่โรงแรมดุสิตอยู่สี่เดือน ก็ต้องทำทุกอย่าง ทำหลายแผนก

เข้างานตั้งแต่หกโมงเลิกสองทุ่ม เหนื่อยมาก แต่ได้ประสบการณ์จากตรงนี้เยอะมากเหมือนกัน

                           

บอยแบนด์บูม แต่เรียนก็หนัก

                ตอนที่เรียนเป็นช่วงที่วง K-OTIC กำลังพีค ก็ต้องจัดตารางเวลาการเรียนให้ดี แต่ผมก็

สามารถจบมาได้เร็วกว่าปกติสามปี ด้วยเกียรตินิยมอันดับสอง ซึ่งผมกล้าพูดได้เลยว่าที่ผมจบมาเพ

ราะเพื่อนๆ ครับ ทุกคนเป็นทีมเวิร์กมากๆ ผมได้เพื่อนกลุ่มดี มีการแบ่งงานกันชัดเจน ต้องรวมกลุ่ม

กันทำโปรเจค ตอนนั้นต้องไปเปิดหออยู่เลยนะ เกิดมาไม่เคยอยู่หอ ก็ได้ซึมซับบรรยากาศเด็กหอ

ตอนที่เรียนนี่แหละ

จากบอยแบนด์สู่การเป็นพีอาร์

                สำหรับผม ช่วงที่เฟลที่สุดคงเป็นช่วงที่ผมคิดว่าจะได้ทำเพลงต่อ แต่ไม่ได้ทำ ผมก็เฟล

มาก แต่ได้คุณแม่ที่บอกว่า ถึงแม้ผมจะไม่ได้ทำตรงนี้ แต่ผมยังมีอย่างอื่นรองรับ ซึ่งพอหลังจาก

เรียนจบ ผมก็มีโอกาสได้ไปทำงานเป็นพีอาร์ที่วุฒิศักดิ์ด้วย ตอนนั้นก็เลยหันไปทำพีอาร์เต็มตัว ได้

เรียนรู้งานด้านมาร์เก็ตติ้ง จนถึงตอนนี้ก็สามปีแล้ว จะบอกว่าทำงานตอนแรกก็เหนื่อยมาก เพราะเรา

ยังไม่เข้าใจถึงการทำงานของเขา แต่สุดท้ายพอเข้าใจแล้วก็พุ่งชนเต็มที่เลย

 

                             

บทบาทใหม่เป็น “นักแสดง” และ “เจ้าของร้านขนม”

                 ตอนนี้ก็ได้มีโอกาสมาเล่นหนัง แล้วก็ละคร อย่างละครก็เป็นงานละครเรื่องแรกเลย เรื่อง

“แผนรักฉบับออร์กานิค” ทางช่อง TRUE4U ก็ค่อนข้างยากนะ มันคนละแบบกับร้องเพลง เราต้อง

สวมบทเป็นตัวละครให้คนดูเชื่อให้ได้ ซึ่งฟีดแบ็กก็ดี แฟนๆ ก็ตื่นเต้นที่จะได้เห็นผมในอีกบทบาท

หนึ่ง แล้วผมก็มีเปิดร้านไอศกรีมด้วย ชื่อ “Creamy Buzzle” เพราะว่าชอบทำขนม ก็ทำทุกอย่าง

เองในร้าน ตอนนี้เป้าหมายก็อยากให้ร้านอยู่ตัว ไปพร้อมๆ กับมีผลงานในวงการด้วย สำหรับผมเชื่อ

ว่า ปัจจุบัน (Present) คือของขวัญที่พระเจ้ามอบให้ อดีตเปลี่ยนแปลงไม่ได้ อนาคตก็คาดเดาไม่

ได้ ถ้าอย่างนั้นทำวันนี้ให้ดีที่สุดดีกว่า