หนุ่มหล่อ สาวสวย มาในธีม “มนต์เพลงลูกทุ่ง Montra of Country” มหาวิทยาลันสวนดุสิต ที่ไม่ได้มีดีแค่เป็นดาว และเดือน แต่ทั้งคู่ยังมีผลงานที่น่าสนใจอื่นๆ ให้เราได้ติดตามอยู่มากเลยทีเดียว
แปม-ชัญญานุช แซ่เอี้ยว ปี 1 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาภาษาอังกฤษ
ผลงาน : รางวัลชนะเลิศ Young Trang City Contest 2015, เข้ารอบ 15 คนสุดท้ายประกวด นางสาวตรัง 2015, เดินแบบให้กับงานต่างๆ , ถ่ายแบบ Pix Trang Model
เฟริสท์-วริทธิ์ธร มิโต้ ปี 1 คณะวิทยาการจัดการ สาขาการตลาด
ผลงาน : เดินแบบ Elle Fashion Week 2012, เดินแบบ บีฟแอน์บิว 2013, แสดงซิทคอม เหงาตรงไหนใครช่วยที, รายการ มาลัยเสี่ยงรัก ไทยรัฐทีวี
(1) ประสบการณ์ผลงานด้านบันเทิง
แปม : เคยประกวด นางสาวตรังค่ะ เข้ารอบ 15 คนสุดท้ายของการประกวด แล้วในการประกวดก็จะมีแบ่งรุ่น 15-20 ปี ในรุ่นนั้นก็ได้รางวัลชนะเลิศมาค่ะ
เฟริสท์ : ของผมเป็นผลงานที่ค่อนข้างหลากหลายครับ ทั้งการเดินแบบ ถ่ายแบบ พิธีกร นักแสดง เริ่มต้นจากมีพี่ๆชวนไปลองทำงานก็เลยได้มีโอกาสได้ร่วมงานหลายๆ งาน
(2) ความสนใจ และความคิดริเริ่มในการทำกิจกรรม
แปม : ตอนที่คิดจะเริ่มประกวด เป็นเพราะเราอยากจะหาประสบการณ์ให้ตัวเองก่อนเป็นอันดับแรกค่ะ ส่งตัวเองเข้าประกวดเองเลย ไม่มีพี่เลี้ยงส่งประกวดเหมือนคนอื่นๆ เรารู้สึกว่าอยากจะลองทำดู พอได้รางวัลมาก็จะมีงานเข้ามาอีก เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้เราได้อีก เช่น เขาก็จะให้ไปเดินแบบ ถ่ายนิตยสารของจังหวัด หรือเวลามีงานต่างๆ ก็จะได้ไปด้วย เป็นการฝึกตัวเองให้มีความกล้าแสดงออก
เฟริสท์ : เริ่มจากผมเป็นนักกีฬาว่ายน้ำ แล้วมีทีมงานละครมาหาคนเล่นเป็นสตั๊นให้กับดาราถ่ายฉากใต้น้ำแทน พอได้ไปทำตรงนั้นก็เริ่มมีโมเดลลิ่งติดต่อให้ไปอยู่ด้วยบ้าง แต่ก็ไม่ได้ตกลงอะไร จนมาเจอโอเดลลิ่งฟรีแลนซ์ เขาก็ส่งผลงานเราไปจนงานแรกที่ทำจริงจัง คือ การประกวดเป็น MC โครงการ TARO MC Contest พอทำๆ ไปงานอื่นก็เริ่มเข้ามา ทั้งเดินแบบ ถ่ายแบบ มีโอกาสได้เล่นซิทคอม ตอนนั้นเป็นเพราะว่าเราอยากลองอะไรใหม่ๆ มากกว่า ไปลองดูว่างานตรงนั้นมันทำยังไง เลยลองทำไปหลายๆ อย่าง มีโอกาสเข้ามา เราก็จะไม่ปิดโอกาสตัวเอง
(3) การทำงานคู่กันในฐานะ ดาว-เดือน และประสบการณ์ที่ได้รับ
แปม : แปมโดนเลือกมาจากรุ่นพี่ในสาขาช่วงวันรับน้องค่ะ แล้วจะมีของแต่ละสาขามาประกวดกันจนเหลือมาเป็นเรา และเป็น 1 ใน 15 คนสุดท้ายฝ่ายหญิง พอเข้าช่วง 15 คนสุดท้ายเขาก็จะมีจับคู่กันคละคณะเลย จึงได้มาคู่กับเฟริสท์ หลังได้ตำแหน่งก็มีทำหน้าที่เป็นตัวแทนมหา’ลัยออกงานด้วยกัน ล่าสุดก็เป็นตัวแทนติดดอกไม้ให้นายกรัฐมนตรี เพื่อเชิญร่วมงานวันครูด้วยค่ะ สำหรับการประกวดแปมว่า แปมได้รับประสบการณ์ในเรื่องของการแสดงออกบนเวที บุคลิกภาพ และการวางตัวค่ะ ได้พัฒนาบุคลิกภาพของเราทุกๆ ด้านเลย
เฟริสท์ : ของผมก็โดนเลือกมากคล้ายๆ กันแต่เป็นตอนช่วงเชียร์ที่พี่เขาเห็นเราแล้วก็ดึงเราออกมาร่วมกิจกรรม ช่วงที่คู่กันก็จะมีกิจกรรมที่ต้องทำร่วมกันครับ เช่น ถ่าย VTR เปิดตัว อันนี้เราก็ไปถ่ายกันที่ตลาดน้ำตลิ่งชัน มีเดินแบบบนเวที ตลอดกิจกรรมก็จะทำคู่กันตลอดครับ ประสบการณ์ที่ได้รับของผมจะเป็นเรื่องการได้สังคมที่กว้างขึ้น ได้พัฒนาความกล้าแสดงออกของตัวเองเพราะเราต้องขึ้นไปยืนบนเวทีต่อหน้าคนเยอะมาก
(4) มีความคิดเห็นอย่างไรกับเรื่อง “รักในวัยเรียน”
แปม : คู่รักในวัยเรียนสำหรับแปม คือ มันไม่ใช่สิ่งที่ไม่ดีนะคะ แต่ทั้งคู่น่าจะคุยกัน ฉุดกันไปในทางที่ดีได้ ชวนกันเรียน หรือชวนทำกิจกรรมได้ ไม่พากันโดดเรียนก็โอเคแล้วล่ะค่ะ
เฟริสท์ : ผมมองว่าความรักก็เป็นพลังในการทำอะไรได้หลายๆ อย่าง เรื่องการเรียนก็เช่นกัน ถ้าเอาพลังความรักของทั้งคู่มาผลักดันในด้านการเรียนได้ก็จะดีครับ อย่าติดแฟนจนเกินไป จนไม่สนใจการเรียน อันนี้เห็นมาเยอะแล้วครับไม่ค่อยจะดี ก็รักกันแบบพอดีๆ ช่วยกันเป็นคู่คิด คู่เรียนกันไปดีกว่า
(5) ความประทับใจในคณะ และมหาลัย
แปม : แปมเลือกเรียนคณะมนุษยศาสตร์ฯ ภาษาอังกฤษ เป็นอังกฤษธุรกิจ ซึ่งตอนแรกไม่ค่อยได้สนใจภาษา เพราะเราเป็นเด็กสายวิทย์ แต่จะเรียนวิทย์ตลอดอาจจะไม่ค่อยชอบ ก็เลยมีความสนใจด้านบริหารด้วย มาเจอสาขานี้ก็จะได้ทั้งเรียนบริหารธุรกิจ และภาษาอังกฤษเลย เรียนๆ ไปมันก็ไม่ได้ยากเท่าไหร่ กลับชอบเรียนภาษาอังกฤษมากขึ้น ก่อนจะเข้ามาที่นี่ก็มีคนบอกมาเหมือนกันว่า ที่นี่มันไม่โอเคนะ แต่เราก็ไม่ได้เชื่อคำนั้น เรามาลองดูด้วยตัวเอง พอได้เข้ามาจริงๆ ก็ประทับใจหลายอย่างมากๆ ทั้งคณะ รุ่นพี่ อาจารย์ผู้สอน ที่เราสามารถปรึกษาทุกคนได้ เหมือนเป็นพี่เป็นน้อง เป็นครอบครัวในรั้วมหาลัยเล็กๆ ของเรา
เฟริสท์ : ผมเป็นคนที่ชอบทำธุรกิจอยู่แล้ว ก็เลยสนใจเรียนเกี่ยวกับการตลาด มาเรียนที่นี่ผมจะชอบการสอนของอาจารย์ที่นี่มาก ชอบการเรียนการสอนของเขา คือมหาลัยเราไม่ใช่มหาลัยที่ใหญ่ๆ ห้องเรียนเราก็เล็กๆ แต่ในความเล็กของมันอัดแน่ไปด้วยวิชาความรู้ คุณจะโชว์ผลงาน แสดงออก นำเสนอความคิดอย่างไรก็ได้ เราจะเข้าถึงอาจารย์ได้มากกว่า ได้รับคำแนะนำ และปรึกษากับอาจารย์ได้แบบเต็มที่
