หนุ่มแอบแสบ กวนโอ๊ยเป็นบางเวลา นักแสดง LOVE SICK THE SERIES 2 หรือที่หลายคนเห็นในมาด DJ คิมม่อน- วโรดม เข็มมณฑา กับเรื่องเล่าความรักวัยเรียนสุดฟุ้งฟิ้งยิ่งกว่าในละคร แต่ก็เป็นบทเรียนสุดเจ๋ง ที่ทำให้หนุ่มคนนี้เติบโตต่อไปพร้อมกับสเต็ปอีกขั้น

จากนิเทศฯ ไปเป็นครุศาสตร์
ตอนม.ปลายแอบเกเรนะ ไม่เข้าเรียน หนีไปซ้อมดนตรีกับเพื่อนๆ สุดท้ายตอนจะเอนทรานส์ อยากเรียนด้านนิเทศฯ ไปสอบติดที่เกษตรฯ แล้วด้วย แต่ด้วยความที่เป็นลูกคนโต แล้วที่บ้าน พ่อเป็นทหาร แม่เป็นครู เขาเลยอยากให้เป็นข้าราชการ แม่ก็เสนอให้เรียนครุศาสตร์ ก็ตามใจแม่ เลือกเรียนมอที่ใกล้บ้านคือที่ราชภัฎธนบุรี ที่เด่นด้านคณะครูอยู่แล้ว

เฟรชชี่ติสท์กับสังคมเด็กเนิร์ด
ปีแรกเทอมแรกเกรดตก เกิดมาไม่เคยได้เกรดหนึ่งกว่าๆ เลย จริงๆ ผมเป็นคนเอาตัวรอดเก่ง หัวไวนะ แต่แค่รู้สึกวิชาเรียนมันน่าเบื่อ สังคมในคณะเด็กก็เรียบร้อยมาก เราก็ปรับตัวไม่ค่อยได้ ตอนนั้นเลยโดดเรียนไปเล่นเกม สุดท้ายรู้สึกปล่อยไปแบบนี้ไม่ได้แล้ว เลยเริ่มกลับมาตั้งใจเรียน ปีสองเกรดก็เลยดีขึ้นเรื่อยๆ

บทเรียนคู่รักนักศึกษา
ปีแรก มีความรัก ติดแฟน ติดเที่ยว เจอสาวที่เที่ยวนี่แหละ เพราะผมเป็นคนไม่กล้าจีบใคร เลยได้ผู้หญิงกล้าๆ ที่เข้ามาจีบเอง แต่คบไม่กี่เดือน รู้สึกว่าเราเหนื่อยเกินไป เปลืองตังค์ แล้วพอปี 3 สเปกเปลี่ยนเป็นชอบคนเรียบร้อย แอบชอบรุ่นน้องในคณะ ให้เพื่อนไปสืบ เขาก็ชอบเราเหมือนกัน คราวนี้เลยได้คบกันยาวหลายปี คนนี้ช่วยเราเรื่องเรียนหลายอย่างด้วย แต่พอมามองดูตอนนี้ ความรักตอนนั้นเป็นรักด้วยเสน่หามากกว่า ไม่เจอกันแป๊บเดียวก็คิดถึงต้องไปหาแล้ว จริงจังถึงขั้นคิดแต่งงานเลยนะ แต่สุดท้ายมันก็ยังไม่ถึงเวลาของมันหรอก

ครูคิมม่อน = ดีเจคิมม่อน...ชีวิตเปลี่ยน
ตอนแรกก็คิดว่าเราจะทำงานอาชีพครูแหละ เคยได้ไปสอนเป็นคุณครูอยู่โรงเรียนเล็กๆ ชีวิตก็มีความสุขนะ เด็กๆ ประถมน่ารัก ตั้งใจเรียนจริงๆ แล้วเราเคยแคสงานต่างๆ อยู่ครึ่งปีก็ไม่ได้ แต่พอเริ่มเป็นดีเจจัดรายการวิทยุออนไลน์ จนกระทั่งได้เข้ามาแคส LOVE SICK ก็เป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตเลย ตอนนี้ได้ร้องเพลงอย่างที่ฝันไว้ด้วย เป็นซิงเกิ้ลแรกกับวง BUFF4 แล้วก็มีละครใหม่กับช่อง 9 คุณพ่อคุณแม่ก็เริ่มไว้ใจเรามากขึ้น เห็นว่าเรามีรายได้จากงานตรงนี้ แต่ชีวิตช่วงนี้เป็นสิ่งที่เราต้องเผชิญเองแล้ว จากตอนแรกที่พ่อแม่นำทางให้เรา แต่พอเราเลือกงานตรงนี้ เขาก็ไม่สามารถแนะนำอะไรเราได้ เราต้องศึกษามันเอง การแข่งขันในวงการก็เยอะ เราก็ต้องมีพัฒนาของเราเอง สำหรับอนาคตตอนนี้มีความฝันอยู่สองอย่าง คือ การได้เป็นดีเจจัดรายการตามคลื่นวิทยุจริงๆ แล้วก็อยากเป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัวด้วย ตอนนี้ก็พยายามเก็บเงินไปก่อน