นักศึกษาสาวเอกการแสดง มศว อาชิ-อาชิตา ศิริภิญญานนท์ หรือที่หลายคนรู้จักในความเป็นบิวตี้บล็อกเกอร์คนสวยหน้าคมเข้ม กับแฟชั่นลุคใหม่สไตล์นักสืบสาวมาดนิ่งน่าค้นหา พร้อมกับเราจะพาหนุ่มๆ ไปค้นหาตัวตนสไตล์ในแบบของเธอกัน
การแสดงกับพลังที่ดึงดูดให้เข้าไปเรียนรู้
ที่เลือกเรียนการแสดงเพราะว่าตอนแรกเลยไม่เคยรู้เกี่ยวการเรียนแอกติ้งมาก่อน พอได้มีโอกาสไปดูละครเวทีที่รุ่นพี่จากมศวเล่นแล้วเราก็ขนลุกเลย ปกติเคยดูแต่ละครโทรทัศน์ แต่พอเป็นละครเวทีก็รู้สึกว่ามันมีพลังอะไรบางอย่างที่น่าเรียน น่าศึกษา ก็เลยตัดสินใจเลือกเรียนคณะศิลปกรรมศาสตร์ เอกการแสดงที่มศว ซึ่งเข้ามาเรียนจริงๆ ตอนนี้ให้คะแนนการเรียนเต็มสิบเลย เพราะชอบมาก สังคมก็อบอุ่น อาจารย์ก็น่ารัก เขาสอนอะไรหลายอย่างมาก แล้วก็เข้าถึงนิสิตทุกคนเลยค่ะ ตอนนี้ช่วงปี 4 ใกล้จบ ก็กำลังเตรียมลุยกับละครเวทีธีสิตอยู่ ในส่วนของหนูก็จะรับหน้าที่เป็นนักแสดง ละครที่ทำก็จะเป็นแนวย้อนยุคสมัยร.6 ซึ่งก็ต้องมีการเตรียมตัวเสิร์ชหาข้อมูลเพิ่มเติมพอสมควรเลย
การต่อบทแนวสืบสวนสอบสวนในวิชาเขียนบทละคร
ในคณะของหนูจะมีเรียนวิชาเขียนบทตอนปี 3 แล้วก็จะมีการเขียนบทในแนวลึกลับฆาตกรรมด้วยนะ คืออาจารย์เขาจะมีโครงเรื่องบทที่หนึ่งมาให้ก่อน แล้วให้เราเขียนต่อในบทที่ 2, 3, 4 ต่อไปเรื่อยๆ จนจบ ซึ่งสำหรับหนู มันไม่ง่ายเท่าไหร่ เพราะคนที่จะเขียนเรื่องแนวนี้ได้ต้องเป็นคนที่มีจินตนาการสูงมาก ไม่งั้นมันจะตันได้ แต่คือจากที่เรียนมาเขาก็สอนให้เราคิดเรื่องราวสตอรี่ เป็นวัฎจักรวงกลม เริ่มจากจุดเปิดเรื่อง ไคลแม็กซ์ จุดวิกฤต จนถึงจุดจบ ซึ่งเราก็พยายามยึดตามวิธีการเขียน มันก็ทำให้เขียนออกมาได้ยาวมากขึ้น อีกส่วนหนึ่งก็มาจากการดูสื่อต่างๆ อย่างดูหนัง อ่านหนังสือให้เยอะๆ มันก็ช่วยได้ แต่หนูไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือ ก็จะใช้วิธีดูหนังเอาแทน จริงๆ ปกติหนังที่ชอบดูจะเป็นแนวแอกชั่นหรือคอเมดี้มากกว่า แต่เราก็สามารถนำสไตล์นั้นมาดัดแปลงเข้ากับโครงเรื่องที่เราชอบได้นะ เช่น เราอาจจะผันให้ฆาตกรเป็นฆาตกรตลกไปเลย หรือจะเป็นฆาตกรรมสวยงามในแบบเจ้าหญิงดิสนียแลนด์ คือเราสามารถดัดแปลงได้หลายอย่าง ซึ่งอย่างของหนู หนูจะชอบดัดแปลงให้จบแบบหักมุมนิดหน่อย แต่ไม่อยากให้หักมุมเกินไปจนน่ากลัว เพราะว่าไม่ใช่แนวทางของเรา
อินเนอร์การแสดงในสไตล์อาชิ
เวลาเรียนวิชาแอกติ้ง แนวการแสดงที่เหมาะกับหนูมากที่สุด คงเป็นอะไรที่คล้ายๆ บุคลิกตัวเองนะ คอเมดี้นี่ไม่น่ารอด เพราะว่าเป็นคนตบมุกไม่คมอะ อาจจะเป็นผู้หญิงธรรมดา แต่บุคลิกดูนิ่งๆ ลึบลับๆ หน่อย แนวสืบสวนสอบสวนก็เหมาะอยู่ แต่ก็ยังไม่เคยได้เล่นในคณะเลยค่ะ ก็สนใจอยู่เหมือนกัน หนูว่าการแสดงละครมันต้องรู้สึกให้ได้ก่อนว่าเราเป็นตัวละครตัวนั้น อย่างบทแนวสืบสวนก็คิดว่าไม่ยากนะ แค่เราต้องเชื่อก่อนว่าเราจะสืบสวนคดีนี้จริงๆ แล้วถึงจะเอาความเป็นบทละครหรือสิ่งที่ผู้กำกับใส่ลงไปมาปรับใช้ว่าเราจะสืบคดีไปในรูปแบบไหนบ้าง แล้วถ้าเกิดมันขัดแย้งในความรู้สึกขึ้นมา ก็คงต้องมานั่งคุยหรือวิเคราะห์บทให้แตกกับผู้กำกับอีกที
การเรียนในคณะที่เกี่ยวกับการสืบสอบค้น
ถ้าพูดถึงคณะที่เกี่ยวกับการต้องค้นหาหรือสืบสวนคดี หนูว่าคณะจิตวิทยาก็น่าสนใจอยู่นะคะ หนูอยากรู้ใจคน อยากจะสื่อสารกับคนให้ดีขึ้น เพราะทุกวันนี้ทั้งการเรียนแล้วก็ทำงาน ก็ต้องมีการคุยกับคนเยอะมาก บางทีเราก็ไม่สามารถเก็บอารมณ์ตัวเองได้ ก็อยากจะควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ด้วย แล้วก็ดูคนให้เป็น ว่าคนนี้เราควรเข้าหาเขาในแบบไหน ส่วนคณะแนวนี้ที่คงเรียนไม่ไหวจริงๆ คือแพทย์เลยค่ะ เพราะว่าหัวไม่ไปจริงๆ โดยเฉพาะวิชาเกี่ยวกับการคำนวณหรือท่องจำ
หนังสุดโปรดและเพลงแนวลึกลับระทึกขวัญ
พูดถึงหนังแนวฆาตกรรม ไม่ค่อยชอบดูค่ะ เลยยังไม่มีเรื่องโปรด เพราะหนูรู้สึกว่าเวลาดูหนัง ก็อยากจะผ่อนคลายความเครียดมากกว่า ถ้าดูหนังแนวนี้มันต้องเครียดแน่ๆ เพราะต้องมีการสืบคดีต่างๆ ต้องใช้ความรู้เข้ามาช่วยเยอะ แต่ส่วนเพลงโปรดแนวลึกลับหน่อย หนูคิดถึงทำนองเพลงโอเปร่าเลย เพราะเมื่อก่อนเรียนบัลเล่ต์ ก็ต้องฟังเพลงแนวนี้ แล้วก็ชอบฟังมันนะ มันเหมือนมีการแบ่งจังหวะอย่างชัดเจน ในเพลงก็จะมีหลายมูสหลายอารมณ์ในหนึ่งเพลง ฟังแล้วอินดีค่ะ
วิธีการสแกนหนุ่มๆ ในแบบสาวหน้าคม
เอาจริงๆ ตอนนี้หนูไม่เคยได้คุยกับหนุ่มที่เป็นสเปกหนูเลยนะ 55 คือแต่ก่อนชอบคนหล่อ ตอนนี้เปลี่ยนมาชอบคนหุ่นดี แต่ไปๆ มาๆ หนูได้คุยกับคนไม่หล่อ และหุ่นไม่ดีตลอด แต่ว่าเขานิสัยดีค่ะ ตอนนี้การจะดูหนุ่มๆ สักคน หรือสแกนหนุ่มๆ ที่เข้ามา อย่างแรกคงต้องคุยกันก่อน แล้วก็นัดเจอกันสักครั้งหนึ่งก็จะรู้แล้วว่าเข้ากับเราได้มั้ย วิธีการใช้ชีวิตของเขาเราจะรู้เลยว่าผ่านหรือไม่ผ่าน อย่างหนูเคยคุยกับคนหนึ่งตอนเรียนปี 1 อยู่ประมาณเดือนหนึ่ง แล้ววันแรกที่เจอกันเขาพาหนูไปซื้อตลับ PALETTE ของ BOBBI BROWN แล้วคือตอนนั้นปี 1 หนูยังไม่แต่งหน้าเลยนะ ยังไม่รู้จักเครื่องสำอางอะไรเลย เพราะฉะนั้น โอเค ถ้าเธอพาชั้นไป BOBBI BROWN เราก็จบกันดีกว่า 55 แต่ก็คือคุยกันวันนั้นให้จบวัน แล้วหลังจากนั้นก็ค่อยๆ ห่างไปมากกว่าค่ะ
หนุ่มอาชีพอะไรที่ดูมีเสน่ห์มากที่สุด/หนุ่มอาชีพอะไรที่ขอบายดีกว่า
หนุ่มอาชีพแนวเกี่ยวกับสืบสวนสอบสวนก็มีเสน่ห์ดีนะคะ แต่ว่าจะเป็นพวกอาชีพตำรวจมากกว่า ดูเป็นสุภาพบุรุษดีนะ แต่ถ้าเป็นนักสืบกับทนายความก็ไม่ไหว อย่างนักสืบเขาก็ต้องมีนิสัยหลอกลวงเบาๆ ตามบุคลิกของเขาอยู่แล้ว ส่วนทนายความ เขาก็ต้องทำงานแบบมุ่งชนะตามอาชีพของเขา แบบต้องคิดถึงส่วนได้ส่วนเสียกับเราหรือบ้าง ซึ่งก็ไม่ไหว เพราะคบกับหนู หนูต้องชนะเท่านั้น 55 ส่วนอีกอาชีพหนึ่งที่ไม่ชอบก็คือนักแสดงค่ะ เพราะอาชีพนี้เป็นอาชีพที่ทุกคนต้องใส่หน้ากากเข้าหากันอยู่แล้ว เขาต้องมีทักษะในการแสดง ซึ่งเราก็อาจไม่รู้จักตัวตนของเขาจริงๆ เพราะเขาอาจจะกำลังแสดงละครกับเราอยู่ก็ได้
จับเซอร์ไพร์สหนุ่มใกล้ตัวได้
สำหรับหนู ถ้าเป็นคนที่เราสนิท เวลาเขาพูดอะไร จะเลี่ยงหรือโกหกอะไร เราก็จะรู้ทุกครั้ง อย่างตอนนั้นเคยจับเซอร์ไพรส์ของหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังคบอยู่ได้ คือเขาคงกะจะเซอร์ไพรส์วันเกิดเราแหละ แต่อยู่ๆ ก็โทรมาถามว่าวันนี้หนูจะไปกินข้าวกับที่บ้านมั้ย ไปกินนานมั้ย แล้วกลับกี่โมง ซึ่งคำพูดของเขามันก็ดูประหลาดอยู่ แล้วปกติเขาจะมีนิสัยไม่ค่อยถามด้วย เราก็เลยรู้ก่อนเลยว่าเขาจะมาเซอร์ไพรส์เรา
สิ่งแรกที่จะทำเมื่อจับได้ว่าแฟนมีกิ๊ก
ในชีวิตจริงยังไม่เคยจับได้ว่าแฟนมีกิ๊กนะ เพราะว่าที่ผ่านมาหนูคบใครก็จะค่อนข้างไว้ใจ ไม่มามัวเช็กโทรศัพท์อะไรกันอยู่ เหมือนรู้สึกว่าเราต้องให้สเปซกับเขาด้วยอะ แต่ถ้าเกิดเจอเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาจริงๆ อย่างแรกก็คงต้องถามก่อนเลย เอาจริงๆ เดี๋ยวนี้สังคมมันก็ทำให้หลายๆ คนน่ากลัวนะ คือเราต้องดูด้วยว่ากิ๊กที่เราเจอ เราเจอในสถานการณ์ไหน เพราะฉะนั้น ถามก่อนให้แน่ใจดีกว่า แต่ก็อาจจะถามด้วยอารมณ์นิดหนึ่ง แต่จะพยายามใจเย็นสุดๆ นะ 55
นิสัยเข้ากับคนง่ายในแบบอาชิ
นิสัยหนูจริงๆ เป็นคนปรับตัวง่ายค่ะ แล้วก็เข้ากับคนได้ง่าย คืออย่างกลุ่มที่ไม่รู้จักกันมาก่อน สักพักหนูก็สามารถเข้าไปรวมกลุ่มกับเขาได้อย่างเนียนๆ เลยล่ะ แต่ให้ไปเป็นนักสืบสืบความลับใครนี่คงยาก เพราะหนูเป็นคนตรงๆ ค่ะ อยากรู้อะไรก็จะถามตรงๆ เลย ไม่มีการอ้อมค้อมให้เสียเวลา
สิ่งที่กลัวที่สุดในชีวิต
เรื่องที่กลัวที่สุดในชีวิตที่ทำให้เซ้นซิทีฟได้คงเป็นเรื่องการสูญเสียคนที่เรารัก โดยเฉพาะครอบครัว จริงๆ ก็เข้าใจนะว่าคนเราต้องมีเกิดแก่เจ็บตาย แต่ว่าในความรู้สึกลึกๆ ก็ไม่อยากให้พ่อกับแม่จากไปไหนเลย เพราะพ่อกับแม่ก็เหมือนเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ เวลาที่เราเจออะไรมาหนักมากๆ เขาจะเป็นคนที่อยู่กับเราทุกครั้ง แล้วเวลาคุยกับเขาก็สบายใจที่สุดแล้ว
FIRST OF ARCHI
ชื่อ : อาชิ-อาชิตา ศิริภิญญานนท์
การศึกษา : ปี 4 คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาการแสดงและกำกับการแสดง มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
วันเกิด : 27 พฤษภาคม 2536
ส่วนสูง : 167 ซม.
น้ำหนัก : 45 กก.
นิยามสามคำบอกความเป็นชาวมอ : มอ ศอ วอ
คติประจำใจในเวลาเรียน : ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้
ไอดอลคนโปรดในมอ : KENDAL
วิชาเรียนสุดแสนน่าเบื่อ : VOCAL TECHNIQUE
แหล่งช้อปปิ้งใกล้มอ : ตลาดนัด มศว
สิ่งที่อยากให้ปรับปรุงในมอของเรา : ที่จอดรถ
เป้าหมายในอนาคต : ได้ทำอะไรในวงการบันเทิงที่หลากหลายมากขึ้น
ผลงาน : พิธีกรรายการ BEAUTY
Instagram : ARCHITASIRI
MODEL : ARCHITA SIRIPINYANOND
PHOTOGRAPHER : CHAIMONGKOL PAWASUTTIKARN
STYLIST : APIWAN TIRARANGKUL
MAKE UP & HAIR : ACHIRAWEE ANURAKTARANON
PLACE : HIDDEN BACKYARD