กับความฝันที่พุ่งเป้าจะเป็นผู้ประกาศข่าวจากการเรียนด้านสื่อสารมวลชนที่คณะวารสารศาสตร์ อินเตอร์ ม.ธรรมศาสตร์ จากหนุ่มนักศึกษาขี้อาย ไม่กล้าแสดงออก จนสามารถได้มาเป็นผู้ประกาศข่าวหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงในรายการ Smart News ช่องทรูโฟร์ยู ได้สำเร็จ

จากเด็กขี้อาย เป็นนักแสดง ก่อนจะค้นพบว่าไม่ใช่ทาง

                ตอนม.3 ไปเซ็นสัญญากับโมเดลลิ่ง 3 ปี ได้ไปถ่ายแบบนิตยสาร ถ่าย MV เล่นละคร แต่สุดท้ายมันมีจุดเปลี่ยนตอนไปแคสโฆษณาโฟมล้างหน้าเกี่ยวกับผู้ชายที่ดูบอลดึกๆ ดื่นๆ แล้วหน้าโทรม ผู้กำกับก็พยายามบิ้วให้เราเชียร์บอลแบบเฮๆ ซึ่งปกติเราก็ดูบอล แต่ไม่ได้ลุกมากระโดดโลดเต้นขนาดนั้น จนเรารู้สึกไม่ไหวแล้ว มันคือการโอเว่อร์แอกติ้งเกินไป คิดว่าเราคงไม่เหมาะกับการแสดง ช่วงนั้นหมดสัญญาพอดี เป็นช่วงที่กำลังจะเข้ามหา'ลัย ก็กลับมาโฟกัสเรื่องการเรียน ตอนแรกอยากเข้ารัฐศาสตร์ เรียนพวกความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่ว่าพี่ชายเรียนวารสาร อินเตอร์ ที่ธรรมศาสตร์มาก่อน เขาก็แนะนำว่าคณะนี้ก็ดี ก็เลยลองยื่นสอบตรงแล้วก็ติด กลายเป็นได้เข้าไปเรียนวารสาร ซึ่งจะต่างกับรัฐศาสตร์ ที่มันจะเจาะเป็นเรื่องๆ แต่วารสารคือลงไม่ลึกมาก แต่รู้กว้างหมด ทำให้เราได้วิเคราะห์ตามไปด้วย กลายเป็นว่ามันโอเคมากๆ

ชีวิตการเรียนสไตล์เด็กวารสาร อินเตอร์ ธรรมศาสตร์

ตั้งแต่ปีแรกก็เข้าไปอยู่หอ กลุ่มผมเป็นผู้ชายล้วนสิบกว่าคน ชอบทำอะไรกันบ้าๆ บอๆ บ้าง อย่างออกไปท้าผีในป่าร้างดึกๆ ดื่นๆ (หัวเราะ) แต่ไม่เจออะไรนะ ส่วนการเรียนก็สนุกมาก ได้เจออาจารย์เก่งๆ ไม่ว่าจะเป็นนักหนังสือพิมพ์ บก.นิตยสาร ผู้ประกาศข่าว พิธีกร นักจัดรายการวิทยุ เขามีประสบการณ์มาเล่าให้ฟัง แต่ละคนเป็นแรงบันดาลใจให้เราอยากทำแบบเขา จนได้ไปฝึกงานทรูวิชั่น ก็ทำให้ค้นพบเป้าหมายจริงๆ ว่าเราอยากเป็นผู้ประกาศข่าว

จากวันแรกที่ล้มเหลว สู่คนทำงานข่าวรอบดึก    

จบใหม่ๆ ไปเทสต์เป็นผู้ประกาศข่าวที่ช่อง 9 ตอนนั้นยังพูดไม่เก่ง กลัวกล้อง ตื่นเต้น รู้ว่าเรายังขาดประสบการณ์ ก็เลยออกไปทำงานเอเจนซี่โฆษณาอยู่พักหนึ่ง จนสุดท้าย ลองไปสมัครที่เนชั่นใหม่ ก็มีโอกาสได้เริ่มต้นทำงานข่าว ได้เทรนด์ทั้งการพูด การสร้างเสน่ห์ในการพรีเซนต์ข่าว การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า อย่างผมก็โดนติเรื่องเสียงที่จะเนิบๆ เรื่อยๆ ทำให้คนดูอาจจะเบื่อได้ ก็ต้องไปหาจุดที่เป็นเสน่ห์ของเราในการดึงคนดูให้ได้ อย่างไลฟ์สไตล์การทำงานก็ต้องปรับ เพราะตอนนี้ทำงานตีสาม เลิกงานบ่ายโมง ทำตอนแรกเป็นปัญหามาก แต่ทุกวันนี้ไม่มีแล้ว เพราะจะใช้วิธีนอนให้พอ 7-8 ชั่วโมง คือเริ่มนอนตั้งแต่ทุ่มหนึ่ง แล้วก็ตื่นตีสองออกไปทำงาน การทำงานดึกๆ มันดีอย่างตรงที่รถไม่ติด ทำงานในออฟฟิศก็สงบดี มีสมาธิ ทำให้งานเดินเร็ว

ผู้ประกาศข่าว คือ คนที่ทำเรื่องยากๆ ให้เข้าใจง่าย

สำหรับน้องๆ บางคนอาจจะยังไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร อยากให้ระหว่างเรียนลองคิดว่าสิ่งที่เราเรียน เราชอบหรือเปล่า ถ้าชอบ เรามีต้นแบบมั้ย แล้วอาชีพที่เราอยากทำ มันมีคุณค่ากับเรา มีคุณค่ากับสังคมยังไง จริงๆ ทุกอาชีพมีคุณค่าหมด เพียงแต่คุณค่านั้น เราชอบมันหรือเปล่า อย่างผมทำผู้ประกาศข่าว เพราะอยากเป็นคนเผยแพร่ความรู้ ทำเรื่องที่ยาก ให้เข้าใจง่าย ชอบเป็นคนที่ย่อยข้อมูลมาก่อน แล้วได้มาอธิบายให้คนฟังอีกที

ขอบคุณที่มาจาก