พอร์ช-ชวัลวิทย์ มุนิกานนท์ กับการเรียนแปลกใหม่ที่ท้าทาย ในวิทยาลัยอุตสาหกรรมการบินนานาชาติ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

เหตุผลที่เลือกเรียนในสาขานี้

อยากเป็นนักบินตั้งแต่ป.6 ครับ คุณอาเป็นแอร์โฮสเตส เขาก็ซื้อโมเดลเครื่องบินมาให้เราลองเล่น ชอบองค์ประกอบของมัน ก็ชอบเครื่องบินมาตั้งแต่ตอนนั้นเลย แล้วผมก็ชอบเรียนด้านวิศวะอยู่แล้ว ก็เลยเลือกที่นี่ ก็เข้ามาเป็นรุ่นที่ 2 ของสาขา ซึ่งเป็นหลักสูตรวิศวะและก็เป็นนักบินไปในตัว ก็คือจะเรียนวิศวะ 3 ปี แล้วก็ปีที่ 4 จะเรียนบินทั้งปี พอเรียน 4 ปีจบสอบได้ CPL ก็บินได้เลย

ด่านแรกก่อนจะมาเป็นวิศวกรรมการบินและนักบินพาณิชย์

ก่อนสมัคร ต้องมีคุณสมบัติตามประกาศของสถาบันฯ และต้องผ่านการสอบสัมภาษณ์อีก 3 ด่านด้วยกัน คือ สอบความถนัดนักบิน สอบความถนัดทางวิศวะ และสอบจิตเวช ก็โหดอยู่ครับ (หัวเราะ) หลังจากนั้น ก็จะต้องไปผ่านการตรวจความพร้อมทางด้านร่างกายจากโรงพยาบาลกรุงเทพอีกครับ ถึงจะเสร็จสิ้นขั้นตอน

เข้ามาเป็นเฟรชชี่ในวิทยาลัยอุตสาหกรรมการบินนานาชาติ

          ในรุ่นผมมี 45 คน ก็หนักตรงที่วิศวะทั่วไปเขาจบกัน 4 ปี แต่หลักสูตรนี้ต้องเรียนวิศวะใน 3 ปี เนื้อหาจะบีบอัด แล้วก็เรียนเป็นภาษาอังกฤษด้วย ก็มีปัญหาเรื่องการฟังไม่ทันเหมือนกัน ก็ต้องพยายามปรับตัวกันไปเรื่อยๆ แต่ก็เหมือนได้เรียนภาษาอังกฤษเกี่ยวกับการบินโดยเฉพาะ ศัพท์ต่างๆ เกี่ยวกับการบิน การพูดของกัปตัน ก็สนุกที่ได้เรียนในสิ่งใหม่ๆ ที่เราไม่รู้มาก่อน

คำแนะนำจากอาจารย์นักบินมืออาชีพ

ตอนนี้เรียนปี 1 ก็จะเรียนเกี่ยวกับทฤษฎีในห้องเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็จะมีอาจารย์นักบินมาให้ความรู้ด้วย อย่างอาจารย์ก็แนะนำให้เราตั้งใจเรียนในห้อง ซึ่งสำคัญมาก เพราะเนื้อหาทุกอย่าง ถ้าไม่มีพื้นฐานก็ไปต่อไม่ได้ ยิ่งปี 3-4 พื้นฐานต้องแน่น เพราะมันต้องเจาะลึกเข้าไปในด้านการบินแล้ว ส่วนการเตรียมร่างกาย กัปตันแนะนำให้พวกเราออกกำลังกายทุกวัน ตอนนี้ก็เลยพยายามจะวิ่งทุกวัน เพื่อให้อึดขึ้นและควบคุมน้ำหนักด้วย แล้วก็เรื่องความดันเลือด อย่างการดื่มแอลกฮอล์ อยากให้น้อยลง เพราะเป็นนักบินต้องมีความรับผิดชอบ เรื่องจิตใจก็ต้องเป็นคนกล้าแสดงออก มีความมั่นใจในตัวเอง อย่าขี้ขลาดเกินไป แต่ก็อย่าโอ้อวดเกินไป มั่นใจตัวเองให้พอดี แล้วทุกอย่างจะโอเค ซึ่งหลังจากที่เรียนไป ก็รู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนไป จากแต่ก่อนเป็นคนไม่มั่นใจในตัวเอง ทำอะไรก็กล้าๆ กลัวๆ แต่พอมาอยู่ตรงนี้เราก็ต้องเปลี่ยน ทำให้เรากล้าขึ้น มั่นใจในตัวเองมากขึ้น

เทรนด์ไลฟ์สไตล์หนุ่มสาววิศวกรรมการบินและนักบินพาณิชย์

เด็กการบินจะเนี๊ยบๆ บุคลิกเป็นคนที่เชิดหน้าชูตาได้ มีความมั่นใจในตัวเอง เวลาทำไรก็ทำเต็มที่ ผู้ชายก็จะดูมั่นใจในตัวเองทุกคน เวลาเที่ยวก็เที่ยว แต่เวลาเรียนก็ไม่ขาด คือแบ่งเวลาเก่งอยู่แล้ว ส่วนผู้หญิงก็จะใสๆ น่ารัก แต่ว่ามั่นใจในตัวเองมากเหมือนกัน ไลฟ์สไตล์หลังเลิกเรียน ผมจะชอบเล่นแบดมินตันแล้วก็ว่ายน้ำ เพื่อนบางกลุ่มก็เล่นฟุตบอลกัน คือเด็กนักบินต้องเล่นกีฬาแยกประสาทได้ อย่างพวกแบดมินตัน เทนนิส ปิงปอง หรือฟุตบอล เป็นกีฬาฝึกประสาทมือ ประสาทเท้า แล้วนอกวันเรียนบางวันชอบชวนกันไปหลังสนามบินสุวรรณภูมิ นั่งดูเครื่องบิน ทายกันว่าลำนี้โบอิ้งรุ่นไหน อีกอย่างคือชอบดูหนัง ถ้ามีหนังเกี่ยวกับเครื่องบินก็จะนัดกันไปดู ไปหาความรู้เอาในหนัง

แพลนอนาคตที่วางไว้

          อยากเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย คือผมอยากต่อโทด้านธุรกิจการบิน ถ้าเกิดว่าสอบได้ตั้งแต่เรียนจบ ก็คงเรียนไป ทำงานไป ก็อยากเป็นกัปตันสัก 10-15 ปี แล้วค่อยออกมาช่วยดูแลธุรกิจที่บ้าน

ฝากถึงน้องๆ ที่อยากจะเข้ามาเป็นนักบิน

ถ้าเข้ามาเรียนในวิศวกรรมการบินและนักบินพาณิชย์ก็อย่ากลัวการเปลี่ยนแปลง อย่ากลัวอะไรใหม่ๆ ถ้าเรายังไม่ลอง เราก็ไม่รู้ อยากให้ลองดู ถ้าชอบจริงๆ รักจริงๆ มันไปได้ ที่สำคัญ ต้องเตรียมตัวอ่านหนังสือเยอะๆ เพราะเนื้อหาเกี่ยวกับการบินมันมีรายละเอียดเยอะ บุคลิกก็ควรจะเป็นคนมีวินัยในตัวเอง และมั่นใจในตัวเองด้วย

ขอบคุณที่มาจาก