ออม-ณัชชา บุญถนอม และฟร้อง-คณิติน พงษ์อิศรานุพร เฟรชชี่นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ ม.มหิดล จะมาพาไปดูบรรยากาศการเรียนการสอนในห้องปฎิบัติการ รวมถึงการฝึกปฎิบัติการนอกสถานที่ต่างๆ การเรียนรู้ที่จะมีส่วนช่วยให้โลกนี้สวยงามขึ้นในแบบฉบับของนักอนุรักษ์รุ่นใหม่ที่น่าจับตามอง

จุดเริ่มต้นเข้ามาเรียนด้านสิ่งแวดล้อม

ฟร้อง : ตอนม.ปลายผมพยายามหาสิ่งที่ตัวเองอยากเรียน จบมามีงานทำมั่นคง ก็เลยลองมองคณะนี้ ไปค้นข้อมูลในเน็ต ก็รู้สึกว่าสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับมนุษย์ในอนาคต เพราะปัจจุบันต่างประเทศเขาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก ส่วนที่เลือกมหิดล เพราะที่นี่ถือว่าเป็นอันดับหนึ่งด้านสิ่งแวดล้อมอยู่แล้ว

ออม : บ้านหนูอยู่ชลบุรี แถวนั้นจะมีโรงงานอุตสาหกรรมเยอะ ก็เลยรู้สึกว่าเรื่องสิ่งแวดล้อมมันสำคัญนะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการปล่อยน้ำเสียหรือมลพิษจากโรงงาน ก็อยากจะเข้าไปเรียนรู้และหาวิธีแก้ไขเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งที่มหิดลจะเด่นเรื่องน้ำ เรื่องการบำบัดน้ำเสียอยู่แล้วค่ะ จบออกมาก็อยากทำงานด้านรักษาความปลอดภัยในโรงงาน คิดว่าค่าตอบแทนของการทำงานแบบนี้ก็ดีด้วย

บรรยากาศแรกเข้า รับน้องรุ่นพี่รุ่นน้องคณะ

ฟร้อง : ผมคุยถูกคอกับเพื่อนๆ ตั้งแต่ในไลน์แล้ว พอมาเจอตัวจริงก็เลยสนิทกันง่ายขึ้น เพราะเราเป็นคนคล้ายๆ กัน ตอนรับน้องที่นี่ก็จะมีธรรมเนียมของเขาอยู่แล้ว ปีหนึ่งให้เข้าระเบียบ หลังปลดระเบียบ ก็จะมีพิธีที่เรียกว่าพิธีแตงโม คือให้พี่น้องมานั่งกินแตงโมร่วมสาบานกัน แล้วเขาจะปลดโบว์ไทกับเนกไทให้ กิจกรรมรับน้องก็สนุกดี ลุยๆ เลอะๆ เยอะ แต่ก็ได้ทำร่วมกับเพื่อนๆ ทุกคน ได้ช่วยเหลือกัน สร้างความสัมพันธ์ให้พวกเรารู้จักกันมากขึ้น

การเรียนตลอดหนึ่งปีที่เป็นเฟรชชี่

ฟร้อง : ตอนเตรียมสอบเข้าแรกๆ ก็มีกังวลเรื่องวิชาเคมี เพราะเป็นคนไม่เก่ง แล้วคณะนี้ก็ต้องเน้นวิชาเคมีด้วย แต่พอได้มาสอบสัมภาษณ์ อาจารย์ก็แนะนำให้อ่านหนังสือก่อนเปิดเรียน ทบทวนความรู้ในม.ปลาย พอมาเรียนจริงๆ ก็ดีขึ้น แต่ว่าก็ต้องอ่านหนังสือเยอะมาก ปีแรกเราต้องไปตัดเกรดกับเด็กคณะวิทยาศาสตร์ ซึ่งบางคนก็เป็นเด็กทุนโอลิมปิก ก็ต้องพยายามหนักเหมือนกัน แล้วก็มีได้ทำงานอาสาของคณะ อย่างไปสำรวจน้ำในพื้นที่รอบๆ มอ แล้วมาสรุปประมวลผลว่ามีมลพิษแค่ไหน หรืออย่างมีโครงการไม่ใช้ถุงพลาสติก เวลาซื้อของให้ถือไปเอง ถ้าอยากได้ถุงเราก็ต้องซื้อ เหมือนเป็นการบริจาคเงินไปในตัว สิ่งเหล่านี้มันก็ซึมซับไปเองโดยรุ่นพี่และอาจารย์ สิ่งไหนที่เราไม่ได้ใช้ ทำให้เราประหยัดมากขึ้น รู้สึกว่าตอนนี้อากาศในโลกปัจจุบันมันไม่ตรงตามฤดูกาล บางทีวันหนึ่งมีสามฤดู ร้อนมาก ฝนตก แล้วก็หนาว สิ่งแวดล้อมมันย่ำแย่ขึ้นทุกวัน มันก็น่าจะเริ่มจากตัวเราก่อนที่เป็นส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งที่จะทำให้โลกนี้อยู่ต่อไปได้

นิยามความเป็นเด็กแนวสิ่งแวดล้อม

ฟร้อง-แอม: จริงๆ ก็ใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ แค่เราเลือกที่จะประหยัดหรืออนุรักษ์สิ่งที่ควรอนุรักษ์ไว้ อีกอย่างหนึ่งคือเด็กสิ่งแวดล้อมต้องละเอียดรอบคอบแล้วก็เป็นสายลุยหน่อยๆ อย่างการทำแล็ป บางทีถ้ามันพลาดแล้วก็พลาดเลย เราก็ต้องช่วยกันทำกับเพื่อน อย่าทิ้งให้เพื่อนทำคนเดียวหรือเราต้องมีออกไปสำรวจนอกสถานที่ เจอแดด เจอมลพิษ ยิ่งในคณะมีผู้ชายค่อนข้างน้อยกว่าผู้หญิง รุ่นนี้มี 17 คน (หัวเราะ) ผู้หญิงคณะนี้ก็เลยจะต้องทำอะไรด้วยตัวเอง พึ่งตัวเองเป็นหลัก อย่างรุ่นพี่เล่าว่า ปี 2 กับปี 3 มันจะมีเป็นฟิลทริปที่ออกไปเดินป่าหรือทะเล บางทริปโทรศัพท์ใช้ไม่ได้ ไม่มีน้ำ ไม่มีไฟ ก็ต้องเตรียมพร้อมร่างกาย มีความอดทน และเก็บเกี่ยวความรู้จากการไปออกทริป ไปเห็นสภาพแวดล้อมของจริง กลับจากทริปแล้วต้องมาสรุปรายงานส่ง

ฝากเชิญชวนนักอนุรักษ์รุ่นต่อไปให้เข้ามาเรียน

ฟร้อง : อยากให้น้องๆ ตั้งใจอ่านหนังสือกันเยอะๆ ที่นี่เข้ามามีการเรียนการสอนที่ดี หลักสูตรแน่น สังคมรุ่นพี่รุ่นน้องอบอุ่นมาก อาจารย์ก็พร้อมช่วยเหลือตลอด อีกอย่างคือมีทุนการศึกษาเรียนต่อเยอะมากมาย ถ้าอยากเข้าก็ตั้งใจกันให้มากนะครับ พวกเรารอน้องๆ อยู่

ขอบคุณที่มาจาก