ขอพาไปเจาะลึกการเรียนออกแบบแฟชั่นเครื่องประดับที่มศว กับสองหนุ่มสาวเด็กจิว นักออกแบบรุ่นใหม่อย่างกุ้ง-สืบพงศ์ ทิพย์ศิริ และนิ่ม-พรรณิการ์ ชัยสงคราม
เหตุผลที่เลือกเอกออกแบบเครื่องประดับที่มศว
เอกลักษณ์รับน้องไม่เหมือนใคร
กุ้ง :ตอนปี 1 เราจะมีชุดของเอกเป็นโปโลเหลืองนุ่งทับกางเกงวอร์ม ใส่ถุงเท้าบอลสีขาว เอากางเกงยัดเข้าไปในถุงเท้าบอลเหมือนชุดโบราณ ผู้หญิงก็จะต้องถักเปีย ติดโบว์เหลือง ส่วนผู้ชายติดกิ๊บดำอย่างน้อยแปดตัว (ยิ้ม) รับน้องที่นี่ก็เน้นให้น้องๆ กล้าแสดงออก แล้วก็มีไปจอยกับเอกอื่นด้วย
การเรียนที่เน้นในรายละเอียด
กุ้ง : ตอนนี้อยู่ปี 4 แต่ของผมปีหนึ่งจะเริ่มเรียนพื้นฐาน Drawing ก่อน พอปีสองก็จะเริ่มงานสเกตซ์เฉพาะทางมากขึ้น งานสเกตซ์เครื่องประดับมันจะมีการเน้นเรื่องรายละเอียด ความละเอียด แล้วก็ขนาดสำคัญที่สุด ผิดมิลเดียวก็ไม่ได้ บางทีต้องทำไปใหม่เลย แล้วก็มีเรียนเรื่องวัสดุ ว่าเราออกแบบใช้วัสดุอะไร เพื่อให้เหมาะกับคนที่จะถ่ายเค้าหรือไปออกแบบให้เค้า เทคนิคการทำเครื่องประดับ อย่างเครื่องประดับแบบนี้ใช้ข้อต่อแบบไหน ซึ่งมันจะมีความยิบย่อยในรายละเอียดเล็กๆ ค่อนข้างเยอะ
นิ่ม : หนูเรียนปี 3แล้ว ก็รู้สึกสนุกกับการเรียน เพราะมันได้เรียนหลากหลาย ไม่ได้เรียนแค่การทำเครื่องประดับอย่างเดียว แต่จะมีวิชาที่เรียนรวมกับเอกแฟชั่นและเอกผลิตภัณฑ์ อย่างวิชาเกี่ยวกับสไตลิ่ง อาจารย์จะมีธีมให้ว่าอาทิตย์นี้ใส่สไตล์ไหนมา ก็สนุกมาก หรือวิชาไหนที่เราได้ทำเครื่องประดับออกมาเป็นโมเดล ส่งงานเสร็จ เราก็เอาไปถ่ายรูปเล่นได้ บางทีเพื่อนเอกอื่นก็มายืมงานเราไปถ่ายหรือเอาไปใส่ เราก็รู้สึกประทับใจในผลงานของเรา
เทคนิคการเรียนสไตล์เด็กจิว
กุ้ง : ผมชอบออกไปทำงานข้างนอก จะได้ดูนักออกแบบปัจจุบันนี้เขาทำอะไรกัน ใช้อะไรกัน ทำให้เราต้องพัฒนาตัวเอง อัพเดทสิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา แล้วการที่เราเอาเทคนิคใหม่ๆ มาใช้กับงานของเรา มันก็เป็นอะไรที่ท้าทาย แบบลองผิดลองถูก ทำให้ความคิดในการออกแบบของเราพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ที่สำคัญต้องมีใจรักในสิ่งที่ทำ ถ้าเรารักสิ่งที่เราทำ เราก็จะทำเต็มที่ จะรู้สึกสนุกกับมัน แล้วงานก็จะออกมาดีเอง
จุดเด่นชาวแก๊งค์
นิ่ม : เด็กศิลปกรรมชอบใส่เสื้อตัวใหญ่ๆ โอเว่อร์ไซส์ แล้วก็มีกิมมิกในการแต่งตัว อย่างที่คาดผม การทำผม การใส่ต่างหู เดินมาก็รู้เลยว่าเด็กคณะนี้ ไลฟ์สไตล์ส่วนใหญ่ชอบนัดกันไปทำงานที่ TCDC ที่เป็นห้องสมุดออกแบบ หรือไม่ก็เดินตามจตุจักร สำเพ็งเพื่อดูการใช้วัสดุต่างๆ ค่ะ
ฝากถึงน้องๆ รุ่นต่อไป
กุ้ง : ตั้งแต่ปีหนึ่งเราจะมีกิจกรรมทำร่วมกัน อย่างงาน FOFA FESTIVAL โชว์ผลงานออกแบบ แสดงศักยภาพของแต่ละเอก ซึ่งแต่ละปีก็จะมีธีมให้ อย่างปีของผมก็จะเป็นธีม CIRCUS นาฎศิลป์ก็ต้องไปตีโจทย์ว่าความเป็น CIRCUS ของเขาคืออะไร แล้วก็ต้องออกมาแสดงด้านการรำ อย่างดนตรีสากลเขาก็จะมาเต้นกัน เอกเรากับเอกแฟชั่นก็ต้องทำชุดเครื่องประดับมาเดินแฟชั่นโชว์ ก็คือกิจกรรมทำให้ทุกคนรู้จักกันหมด แล้วก็อบอุ่นมาก ก็อยากให้น้องๆ ได้มาเป็นครอบครัวเดียวกัน
นิ่ม : สำหรับการเตรียมตัวเป็นเด็กจิวอย่างแรกคือต้องมีใจรักในการออกแบบ แล้วก็ไม่หยุดพัฒนาตัวเอง เพราะว่าเทรนด์มันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เราต้องเป็นคนเปิดรับสิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา ส่วนบางคนที่เข้ามาแล้วอาจจะยังไม่รู้ว่าสไตล์ตัวเองเป็นยังไง แต่พอได้เข้ามาเรียนในจิวหลายๆ วิชา ก็จะทำให้เรารู้ว่าเราชอบอะไร คือถ้าขึ้นปี 3-4 งานใครส่งไป เพื่อนจะรู้เลยว่าเฮ้ย งานของคนนี้นะ ทุกคนจะเริ่มมีเอกลักษณ์ของตัวเอง ด้วยการหล่อหลอมและประสบการณ์ 4 ปีที่น้องๆ จะได้เข้ามาเรียนในเอกค่ะ
Mono Mobile
แหล่งรวบรวมคอนเทนต์คุณภาพ ทั้งในรูปแบบวิดีโอคลิป สามารถดูได้ทุกที่ ทุกเวลาตลอด 24 ชั่วโมง รองรับการใช้งานหลากหลายอุปกรณ์
Mono Technology
อาคารจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล ทาวเวอร์ เลขที่ 200 หมู่ 4 ถนนแจ้งวัฒนะ ปากเกร็ด นนทบุรี 11120 เบอร์โทร 021007007
TAGS
บันเทิง, ข่าวสาร, ก็อซซิป, คลิปตลก, คลิปเด็ด, ดูดวง, เพลงฮิต, เกม, ความรัก, กีฬา