มาทำความรู้จักผู้ชนะเลิศจากโครงการประกวด GSB GEN CAMPUS STAR 2018 ฟลุ๊ค-พงศกร วงศ์เพียร ตัวแทนจากภาคตะวันออก และดี้-ชีวนันท์ แสนนิทา ตัวแทนจากภาคเหนือ ทั้งการเรียน ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต รวมถึงอัพเดทความรักเบาๆ FC หนุ่มสาวคู่นี้พลาดไม่ได้
จุดเริ่มต้นประกวดในโครงการ

ฟลุ๊ค :ผมเห็นข่าวสารการประกวดจากอินเตอร์เน็ต คิดว่ามันเป็นเวทีที่ใหญ่ที่สุดของประเทศตอนนี้แล้ว ก็อยากลองท้าทายตัวเอง ไม่เคยประกวดที่ไหนมาก่อน อยากลองดูว่าเวลาเข้าประกวดจะให้ความรู้สึกยังไง รอบแรกไปของภาคก็ตื่นเต้นดี การแสดงที่เตรียมไปรอบแรกก็เป็นการรำ แอกติงผสมกับเต้น ซึ่งเรียนรำก็ไปเรียนกับพี่สาวตัวเองนี่แหละ แอกติงกับเต้นก็ฝึกเอาเอง คิดแค่ลองทำให้เต็มที่ แต่พอได้ผ่านเข้ารอบชิง ก็รู้สึกว่าเราต้องทำให้ดีกว่ารอบภาค ก็คิดโชว์เป็นรำลิเก คิดว่ามันเป็นอะไรที่แปลกใหม่ วันนั้นแอบชุดรัดนิดหนึ่ง แต่พอแสดงก็เต็มที่ แต่ก็แอบตื่นเต้นมาก เพราะคนเยอะมาก แฟนคลับของคริส-สิงโต ศิลปินก็เยอะมาก ก็ไม่คิดว่าจะได้ แต่ก็คือทำให้เต็มที่ที่สุด มีความมั่นใจ เป็นตัวของตัวเอง
ก็ต้องขอขอบคุณทางธนาคารออมสินที่จัดโครงการดีๆ แบบนี้ขึ้นมาให้เยาวชนรุ่นใหม่ที่มีความฝันได้โชว์ความสามารถออกมา เวทีนี้ทำให้เราได้ประสบการณ์หลายอย่าง ตอนเก็บตัวก็ได้เพื่อนเพิ่มขึ้น ได้มิตรภาพดีๆ ได้ฝึกอะไรหลายอย่าง เมื่อก่อนเดินแบบไม่เป็น อยู่บนเวทีก็เขินอาย ตอนนี้ก็มั่นใจมากขึ้น แถมยังได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ที่ไม่เคยลองมาก่อนด้วย ก็อยากให้จัดกิจกรรมดีแบบนี้อีกครับ

ดี้ :เมื่อปีที่แล้ว หนูเห็นเพื่อนไปประกวดค่ะ แต่ตอนนั้นเรายังไม่พร้อม พอมาปีนี้ก็สนใจ คิดว่าตัวเองก็ปี 3 อีกปีเดียวก็จบแล้ว น่าจะไปลองอะไรใหม่ๆ บ้าง รอบแรกตื่นเต้นมาก เพราะคนสวยๆ เยอะ ไม่ฝันว่าจะได้นะ พอได้ต้องเตรียมโชว์ ก็คิดฝึกกันคืนนั้นเลย เป็นฟ้อนดอกไม้ ล้านนาสมัยใหม่ ที่เลือกโชว์ฟ้อน เพราะร้องเพลงกับเต้นไม่ค่อยได้ ฟ้อนน่าจะง่ายสุด (หัวเราะ) ทีนี้พอผ่านเข้ารอบไป ก็เลยต้องเริ่มเตรียมตัวฝึกพูด ฝึกตอบคำถามให้ดูฉลาด ฝึกสมาธิในการแสดงมากขึ้น เลือกเป็นฟ้อนกระซิบรัก เป็นโชว์ปู่ม่านย่าม่าน ที่วัดภูมินทร์ จ.น่าน ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเรา รู้สึกภูมิใจที่ได้เอาศิลปะบ้านเกิดมาทำให้คนกทมรู้จักเรามากขึ้น รอบชิงก็ตื่นเต้นเหมือนเดิม แต่ก็พยายามพูดกับตัวเองว่าเรามาอยู่ถึงจุดนี้แล้ว มีคนจ้องอยู่ ก็ต้องแสดงความมั่นใจออกมา รู้สึกดีใจที่ได้เข้ามาประกวดในครั้งนี้ เหมือนการประกวดเป็นประตูอีกมิติหนึ่งของหนูเลย จากเด็กนักศึกษาธรรมดา ไม่ได้เกี่ยวข้องกับวงการ ก็ทำให้คนรู้จักหนูมากขึ้นค่ะ

การเรียนของหนุ่มหล่อสาวสวย
ฟลุ๊ค :เรียนปี 1 นิเทศ พีอาร์ ม.กรุงเทพ ที่เลือกพีอาร์ เพราะอยากฝึกให้ตัวเองพูดเก่งขึ้น แต่ก่อนพูดน้อย ไม่รู้จักใคร จะไม่ค่อยกล้าพูด กลัวพูดแล้วเขาไม่ชอบ (หัวเราะ) พอมาเรียนแล้วก็ดีเลย แต่ก็แอบเหนื่อยกว่าคนอื่นนิดหนึ่ง ตรงที่เรียนไปทำงานไป แต่โอเคกับการเรียนมาก คิดถูกที่เลือกเข้าเรียนด้านนี้ ชอบที่เขาสอนให้คิดทำสิ่งใหม่ๆ หรืออย่างวิชาพวก Entertainment Business ก็ทำให้เราได้รู้การทำงานของคนเบื้องหน้าและเบื้องหลังว่าเขาทำงานกันยังไงเพื่อนๆ ก็โอเคมาก เป็นแนวสไตล์ชอบคุย ชอบพรีเซ้นท์ แต่ส่วนใหญ่แก๊งค์สนิทจะเป็นแก๊งค์หนุ่มๆ ก็มีไลฟ์สไตล์ทั่วไป กินข้าว ดูหนัง นัดมาทำการบ้าน คิดงานกัน
ดี้ : ปี 3 คณะการสื่อสารมวลชน พีอาร์ มช. ชอบการคิดวางแผนด้านการตลาด มองว่าสิ่งที่เรียนมันท้าทาย มีแบรนด์ใหม่มาให้คิดครีเอทอยู่ตลอด เราก็ต้องไม่หยุดอยู่นิ่งกับที่ ต้องอัพเดทตามเทรนด์โลกตลอดเวลา ชาวแก๊งค์ก็ลุยๆ ห้าวๆ เต็มที่กับการเรียน ยิ่งช่วงนี้ปี 3 แล้วหนักหน่อย แทบจะไม่ได้นอนเลย มีเรียนผลิตสื่อทำโฆษณา สปอร์ตเรดิโอ ซึ่งมันเป็นงานละเอียด ก็ต้องนัดกันทำงานกลุ่ม อัพเดทงานกันตลอด

นิยามความเป็นตัวเอง จุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของเรา
ฟลุ๊ค :ถ้าเพิ่งเจอกัน ผมจะไม่ค่อยพูด แต่ก็อยากให้ลองมาทำความรู้จักกันก่อน พอสนิทแล้วคุยเก่งนะ เวลาอยู่กับเพื่อน ผมจะตลก ขี้เล่น กวนๆ น่ารัก (ยิ้ม) ข้อเสียเป็นคนใจร้อน ตามประสาวัยรุ่นแหละ แต่ก็ต้องพยายามควบคุมอารมณ์ให้ได้ เพราะเวลาทำงานร่วมกับคนอื่นแล้วมันไม่โอเค จุดเด่นของตัวเองคิดว่าเป็นลักยิ้มข้างเดียว คนเจอก็จะบอกว่าชอบลักยิ้ม ไม่ชอบหน้าตา (หัวเราะ)
ดี้ :ตอนแรกคนเจอเรา ถ้าไม่รู้จักจะบอกว่าหน้านิ่ง หยิ่งจังเลย แต่ถ้ารู้จักสนิทกันจริงๆ อ๊องใส่เลยนะ (หัวเราะ)
คือถ้าสนิทกันจริงๆ จะรู้ว่าหนูเป็นคนเปิดเผย จริงใจ ตลก มีอะไรก็พูดกันตรงๆ ข้อเสียคงเป็นเรื่องใจร้อน ไม่ชอบรอ แบบเป็นคนละเอียดกับการทำงานน่ะค่ะ ก็จะตั้งใจเก็บทุกเม็ด ไม่อยากให้พลาด จุดเด่นคงเป็นรอยยิ้มมั้งคะ ยิ่งเวลาหัวเราะตาจะหยีเลย อาจจะเป็นเสน่ห์ตรงนั้น

วิธีการออมเงินในแบบหนุ่มสาว GSB GEN รุ่นใหม่
ฟลุ๊ค :ที่ผ่านมาเป็นคนใช้จ่ายฟุ่มเฟือยไม่ค่อยรู้คุณค่าของเงิน อยากได้อะไรก็ซื้อตามประสาวัยรุ่น แต่พอมาเริ่มทำงานแล้ว ก็รู้เลยว่ากว่าจะหาเงินมาได้ บางคนหาเงินได้น้อยกว่าเราอีก เขาต้องเหนื่อยแค่ไหน ก็เลยเริ่มใช้ประหยัดมากขึ้น คิดก่อนใช้ เงินก็ให้คุณแม่ดูแลแทน แล้วก็เริ่มวางแผนการเงินมากขึ้น เพราะรู้สึกว่าการออมเงินเป็นสิ่งสำคัญสำหรับตัวเองและคนที่เรารัก ถ้าวันใดวันหนึ่งมีเหตุการณ์ฉุกเฉินต้องใช้เงินขึ้นมา เราจะได้มีเก็บในส่วนนี้ไว้ ส่วนวันเรียน ได้เงินเป็นอาทิตย์ อาทิตย์ละ 1,300 แล้วตอนนี้อยู่หอ ส่วนใหญ่ก็หมดไปกับเรื่องกิน กินโน่นนี่จุกจิกมากกว่า
ดี้ :ปกติได้เงินเดือนจากแม่เดือนละหมื่น ก็หมดไปกับค่าหอ ค่ากิน แล้วก็ค่าชีทด้วย พวกเครื่องสำอาง เสื้อผ้าไม่ค่อยเท่าไหร่ ที่เหลือก็จะเก็บไว้ฉุกเฉินส่วนหนึ่ง เผื่อเข้าโรงพยาบาล อุบัติเหตุอะไรแบบนี้ ที่ผ่านมาอยากได้อะไรจะทำงานเก็บเงินซื้อเอา เมื่อก่อนก็ทำงานเป็นบาริสต้าที่ร้านกาแฟร้านหนึ่งด้วย เพราะอยากฝึกทางด้านนี้ ที่ร้านก็ใจดีให้ฝึก ได้ฝึกชงกาแฟ ทำขนม ฝึกไปทำงานไปด้วยเกือบปีเลยค่ะ หนูชอบทำงานบริการอยู่แล้ว ตอนนั้นก็ได้เดือนละ 3,000 เป็นคนไม่ค่อยฟุ่มเฟือย เพราะหาเงินเอง จะรู้สึกว่ากว่าจะได้เงินมาต้องทำงานหนักขนาดไหน จะใช้จ่ายอะไรก็ต้องคิดให้ดีๆ

ถ้าวันหนึ่งเรามีเงิน 100 ล้าน จะวางแผนนำเงินไปใช้อะไรบ้าง
ฟลุ๊ค :อย่างแรก จะแบ่งเอาครึ่งหนึ่งให้กับครอบครัว แล้วก็คงเก็บไว้เองอีกห้าสิบล้าน แบ่งไปสักสิบล้านไปทำธุรกิจให้เงินงอกเงย ผมอยากทำร้านอาหารหรือร้านชาบูเล็กๆ กับเพื่อนๆ อาจจะเปิดเป็นสาขาเล็กๆ ก่อน แล้วค่อยขยับขยายไปเรื่อยๆ
ดี้ :คงเอามาลงทุนทำธุรกิจที่บ้านค่ะ เพราะที่บ้านคุณแม่ทอผ้า ทอมืออยู่ ก็อยากจะเปิดเป็นโรงงานทอผ้าเลย อีกส่วนหนึ่งอยากเอาไปบริจาคช่วยเหลือเด็กกำพร้า เพราะหนูค่อนข้างเซ้นส์ซิทีฟกับเด็กๆ อยากจะให้โอกาสเขา ที่เหลือคงเอามาเป็นทุนการศึกษาที่จะเรียนต่อ

อัพเดทความรักกันสักหน่อย สีสันของความรักตอนนี้เป็นยังไง
ฟลุ๊ค :ตอนนี้ไม่มีแฟน (จริงๆ) โสดมาสักพักแล้ว ก็โฟกัสเรื่องเรียนและการทำงานก่อน ความรักเลยเป็นสีฟ้า สีฟ้าแบบสดใส มีความสุข แบบในจุดที่ไม่มีแฟนเราก็มีความสุขกับสิ่งที่ทำได้ แต่ส่วนตัวชอบผู้หญิงน่ารัก มีความคิดเป็นผู้ใหญ่ ไม่จู้จี้ และเข้าใจการทำงานของเรา สเปกที่ไม่ชอบไม่มีครับ บางคนหน้าตาเฉยๆ แต่เวลายิ้มแล้ว โห น่ารักมาก บางคนหน้าตาสวย แต่เวลาคุยแล้วไม่ค่อยโอเค ก็คิดว่าผู้หญิงแต่ละคนเขาก็มีความน่ารักในแบบตัวเองนะ
ดี้ :ตอนนี้ก็มีคนคุยอยู่แต่ก็ไม่หวือหวา ความรักเลยเป็นสีชมพูอ่อน อยู่กันแบบเพื่อนมากกว่า จริงๆ ชอบผู้ชายสูงกว่า ดูปกป้องเราได้ ไม่ต้องขาวมาก (หัวเราะ) ไม่อยากให้เขาขาวกว่าหนู เพราะจะรู้สึกเฟลมากเวลาผู้ชายขาวกว่าเรา แล้วก็ชอบคนเป็นผู้ใหญ่หน่อย เราค่อนข้างใจร้อน เขาก็ต้องใจเย็น คอยปลอบเราได้ ไม่ชอบผู้ชายที่สูบบุหรี่ในที่สาธารณะ รู้สึกว่าไม่ว่าจะหน้าตาดีแค่ไหน พอเจอแบบนี้ ความหล่อไม่มีค่าเลย

ถ้าต้องจัดลำดับความสำคัญของการเรียน การงาน ครอบครัว การเงินและความรักล่ะ
ฟลุ๊ค :ครอบครัวมาก่อนอยู่แล้ว ครอบครัวอยู่กับเราตลอด มีอะไรก็คุยกันได้ ต่อมาคงเป็นการเรียน มันขาดไม่ได้ คนเราต้องเรียนรู้ อย่างที่สามเป็นการทำงาน ตอนนี้มีโอกาสก็ต้องทำให้เต็มที่ ที่เหลือความรัก อันดับสุดท้ายเป็นการเงิน เงินบางทีสำคัญนะ แต่ก็ไม่ได้สำคัญกับชีวิตเราขนาดนั้น เรามีความสุขได้โดยไม่ต้องมีเงินเยอะแยะมากมาย
ดี้ :ครอบครัวอันดับแรกเลยค่ะ แล้วก็การเรียน ไม่งั้นคุณแม่เฉ่งแน่ๆ คุณแม่เป็นห่วงเรื่องเรียน คาดหวังกับการเรียนของเรา จากนั้นคงเป็นการงาน อยากแบ่งเป็นสองแบบ งานกลุ่มกับงานในวงการ มันสะท้อนความรับผิดชอบของเรา ถ้าเราบกพร่องในงาน เหมือนคนๆ นี้ไม่มีความรับผิดชอบ มันบ่งบอกว่าเราเป็นผู้ใหญ่พอหรือเปล่า ส่วนความรักกับการเงินลำดับสุดท้าย ความรักก็ไม่หวือหวา กลางๆ ไม่สุขไม่ทุกข์มาก ส่วนการเงินไม่มีปัญหาเท่าไหร่ จะมีปัญหาบ้างตอนเปิดเทอม (หัวเราะ) แต่โดยรวมๆ ถ้ามีน้อย ใช้น้อยก็ไม่เป็นทุกข์

สิ่งที่อยากทำในอนาคต
ฟลุ๊ค :ถ้าในวงการก็อยากเป็นนักแสดง เวลาได้แสดงแล้วมันมีความสุขที่ได้ทำ ซึ่งถ้ามีโอกาสก็อยากจะตั้งใจทำให้เต็มที่
แต่ก็อยากลองเป็นนักร้องด้วย ไม่เคยเรียนร้องเพลงมาก่อน ถ้าได้ลองฝึกแล้วเอาดีทางนักร้องได้ก็อยากลองด้วย ชอบสไตล์แร็พไปเลย มันเท่ดี เคยลองร้องแร็พให้เพื่อนฟัง เพื่อนบอกสุดยอด ไม่รู้มันโกหกหรือเปล่า (หัวเราะ) ส่วนการเรียนตอนนี้ ขอแค่เรียนให้จบ แล้วจะได้มาทำงานเต็มตัว
ดี้ :งานตอนนี้อยากลองให้โอกาสตัวเองได้ฝึกทั้งพัฒนาบุคลิก พัฒนาฝีมือการแสดง คิดว่าถ้าได้เรียนแอกติ้ง เราก็น่าจะทำได้ อยากลองดูว่ามันเป็นสิ่งที่เราชอบจริงๆ หรือเปล่า ส่วนเรื่องเรียน อยากหาทุนต่างประเทศไปต่อโทด้านการตลาดค่ะ ก็ดูๆ ไว้ที่ประเทศออสเตรเลีย เพราะความฝันอยากจบแล้วกลับมาเป็นอาจารย์ ตอนปี 1 เคยได้ไปสอนน้องๆ ม.5 แล้วรู้สึกว่าเฮ้ย มันดี เด็กเข้าใจ ก็เลยอยากสอนเด็กๆ

FIRST OFFLUKE
ชื่อ :ฟลุ๊ค-พงศกร วงศ์เพียร
การศึกษา :ปี 1 คณะนิเทศศาสตร์ สาขาวิชาการประชาสัมพันธ์ ม.กรุงเทพ
วันเกิด :13 สิงหาคม 2541
ส่วนสูง :178 ซม.
น้ำหนัก :68 กก.
นิยามสามคำบอกความเป็นชาวมอ :คิดสร้างสรรค์
คติประจำใจเวลาเรียน :คนเราไม่ควรหยุดเรียนรู้ไม่ว่าจะในห้องเรียนหรือนอกห้องเรียน
วิชาเรียนน่าเบื่อ :Photo (เพราะถ่ายรูปไม่เป็นนน 5555)
ฉายาประจำแก๊งค์ในมอ :ฟลุ๊คเงียบ (เพราะเป็นคนไม่ค่อยพูด)
แหล่งช้อปปิ้งใกล้มอ:ฟิวเจอร์, ZPELL
สิ่งที่อยากให้ปรับปรุงในมอของเรา :รถรางครับ มีน้อย รอนาน รอแล้วไม่ได้ขึ้นอีก55
เป้าหมายในอนาคต :อยากเป็นนักแสดงแล้วก็ทำงานในวงการบันเทิง
ผลงาน :GSB GEN CAMPUS STAR 2018
IG :fflukep

FIRST OFDEE
ชื่อ :ดี้-ชีวนันท์ แสนนิทา
การศึกษา :ปี 3 คณะการสื่อสารมวลชน สาขาการประชาสัมพันธ์และการโฆษณา ม.เชียงใหม่
วันเกิด :21 มีนาคม 2541
ส่วนสูง :165ซม.
น้ำหนัก :45กก.
นิยามสามคำบอกความเป็นชาวมอ :ร่มแดนช้าง
วิชาเรียนน่าเบื่อ :กฎหมายและจริยธรรมวิชาชีพสื่อสารมวลชน
แหล่งช้อปปิ้งใกล้มอ:กาดหน้ามอ
สิ่งที่อยากให้ปรับปรุงในมอของเรา :ลานจอดรถ
เป้าหมายในอนาคต :อยากเป็นอาจารย์สอนการตลาด
ผลงาน :GSB GEN CAMPUS STAR 2018
IG :deechiinan