หน้าปกแคมปัส-สตาร์ฉบับนี้มากับสาวสวยหน้าใหม่ในวงการบันเทิง และนักโภชนาการอาหารรุ่นใหม่ บีม-สิริมนต์ เกษมภิมุกต์โภคิน นักศึกษาปี 4 คณะเกษตร สาขาอาหารโภชนาการและการกำหนดอาหาร ม.เกษตรศาสตร์ ไปดูทำความรู้จักสาวสวยสุขภาพดีคนนี้ให้มากขึ้นดีกว่า การเรียน ณ ปัจจุบัน
ตอนนี้เรียนปี 4 คณะเกษตร สาขาอาหารโภชนาการและการกำหนดอาหาร ม.เกษตรศาสตร์ที่เลือกเรียนด้านนี้เพราะคิดว่าเรื่องอาหารเป็นเรื่องใกล้ตัวทุกคน ต้องทานอาหารกันอยู่แล้ว ถึงแม้เราจบไปจะไม่ได้ทำอาชีพนี้โดยตรง แต่ก็สามารถนำไปประยุกต์มาใช้ในชีวิตประจำวันได้ ก็คือมันจะเรียนเพื่อการเป็นนักโภชนาการในโรงพยาบาล แนะนำการทานอาหารให้คนไข้หรือผู้ป่วย ว่าควรจะต้องลดแป้งนะ หรือทานอันนี้แทนได้มั้ย อะไรแบบนี้ เรียนขึ้นปี 4 แล้วก็ล้มลุกคลุกคลานกับการเรียนพอสมควร มันเป็นการเรียนที่ต้องเจาะไปที่โรคแต่ละโรค สาขานี้เขามุ่งเน้นการบำบัดโรคทางการกิน โรคอ้วน เบาหวาน ความดัน เน้นเรื่องวิชาชีววิทยาและเกี่ยวกับเรื่องยาด้วย มันเป็นเรื่องของกลไกการกินที่จะส่งผลกับร่างกายของเรา เรียนคล้ายแพทย์เหมือนกัน ก็แอบยากบางตัวอยู่ แต่ตอนนี้ก็ปรับตัวได้แล้ว มีไปฝึกงานในโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ที่ศูนย์มะเร็งเลยค่ะ ก็ได้ฝึกจริงเกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็ง
เพื่อนๆนักโภชนาการอาหาร ม.เกษตรศาสตร์
หนูไม่รู้เหมือนกันว่าสังคมที่อื่นจะเหมือนกันมั้ย แต่สังคมที่เกษตรฯ เป็นสังคมที่ช่วยเหลือกันดี พูดกันง่าย ไม่ไฮโซ ติดดิน ซึ่งหนูก็เป็นคนติดดิน เลยเข้ากันได้ง่าย แนวลุยๆ พูดกันตรงๆ ไม่อ้อมค้อม ไลฟ์สไตล์ส่วนใหญ่ก็ชิลๆ ตามคาเฟ่ สยาม หรือห้างทั่วๆ ไปค่ะ จริงๆ ก็เป็นสายกินกันหมด แต่พอมาเรียนด้านนี้ เราก็จะแบบอยากกินอันนี้จังเลย ทำยังไงให้แคลอรีหายไปดี เพื่อนกินชิ้นหนึ่ง เรากินชิ้นหนึ่งละกัน (หัวเราะ) ควบคุมให้เพื่อนช่วยกินบ้าง แล้วก็ต้องไปออกกำลังกายกันต่อ ส่วนใหญ่ก็จะไปตีแบดกับว่ายน้ำ เพราะที่มอจะมีคอร์ดแบดให้ตีกันได้ กลุ่มหนูที่สนิทก็ประมาณ 16 คนได้ อยู่กับเพื่อนๆ หนูก็จะเป็นแนวฟังเพื่อนพูดกันมากกว่า แบบพูดไม่ค่อยทันเพื่อนอะ เราก็เลยเป็นสายรับข้อมูลแทน
อาชีพในอนาคตที่มองไว้
หนูมองไว้หลายแนวเหมือนกัน แนวหนึ่ง คงทำอาชีพที่ตรงกับสายวิชาที่เรียนมา แล้วก็หารายได้เสริม รับจ็อบถ่ายแบบเดินแบบไปด้วย ส่วนอีกแนวหนึ่งคงเป็นเปิดร้านขนมหวาน ขายขนมหวานออนไลน์ หรือคลิปวิธีทำขนม เพราะเป็นคนชอบทำขนม มาจากจุดเปลี่ยนตอนก่อนเข้ามหา’ลัย ได้ไปลองทำขนมเค้กดู แล้วรู้สึกชอบ สนุก อร่อยด้วย พอได้เข้ามาเรียนที่คณะ มันจะมีวิชาเลือกเบเกอรี่ เราก็เอ้ยน่าสนใจจังเลย สนุกจังเลย เวลาทำสมองมันแล่น ไอเดียต่างๆ จะผุดขึ้นมาเรื่อยๆ ลองทำอันโน้นอันนี้ดีกว่า ก็เลยชอบทำตั้งแต่นั้นมา แต่ถ้าจะพูดถึงการทำขนมกับเรื่องเฮลตี้ หนูว่าขึ้นชื่อว่าขนมไม่มีคำว่าเฮลตี้ แต่มันก็อาจจะมีวิธีเลี่ยงในเรื่องน้ำตาลที่ให้ความหวาน ในการลดแคลอรีน้ำตาล เปลี่ยนสารให้ความหวานเป็นหญ้าหวานแทน ซึ่งมันก็คงจะเป็นโปรเจคที่จะลองทำในอนาคตดู
เตรียมตัวสัมภาษณ์แบบสาวสุขภาพดี
ยังไม่มีรุ่นพี่แนะนำเวลาต้องไปสัมภาษณ์ที่โรงพยาบาลนะคะ แต่ถ้าพูดในเรื่องสัมภาษณ์งานทั่วไป ก็คงต้องเตรียมความมั่นใจไปให้เต็มร้อยอะ หนูคิดว่าการสัมภาษณ์งานสมัยนี้เราต้องไม่เฟค เราเป็นคนยังไง ตอนสัมภาษณ์ก็พูดไปตรงๆ ว่าเราสามารถทำได้ตามที่คุณคาดหวังนะ เรามีความศักยภาพมีความมั่นใจ แล้วก็ต้องเตรียมตัวไปพอสมควรในเรื่องความรู้ในสายอาชีพที่เรียนมา การแต่งกาย เรื่องบุคลิกก็สำคัญ ต้องสะอาดสะอ้าน แล้วห้ามอ้วนด้วยค่ะ นักโภชนาการนี่สำคัญเลย เพราะต้องเป็นคนคอยแนะนำผู้ป่วย ถ้าเราอ้วนแล้วไปแนะนำผู้ป่วยให้ลดน้ำหนักควบคุมอาหาร แต่คุณยังดูแลตัวเองไม่ได้เลย มันก็ไม่น่าเชื่อถือ หนูก็เลยต้องคุมน้ำหนักตัวเองเหมือนกัน มันมีช่วงที่ขึ้นๆ ลงๆ มีช่วงหนึ่งหนักเกือบ 60 ก็ต้องออกกำลังกายทุกวัน เลือกทานอาหารไม่มันเยอะ ลดหวานมันเค็ม ก็ใช้เวลาสองสามเดือนเหมือนกัน กว่าจะลงมาในเกณฑ์ปกติ ช่วงนี้ก็คิดว่าหลังจากลดได้แล้ว อยากลองเป็น Expert เน้นซิกซ์แพ็คเล็กๆ ดูบ้าง อาจจะแบบให้เห็นแค่ริ้วๆ ให้ดูเฟิมค่ะ
ข้อดีและข้อเสีย ถ้าเราต้องไปสัมภาษณ์งานกับฝ่ายบุคคล
ข้อดีของหนูคือเป็นคนค่อนข้างอดทน รับฟังความคิดเห็นเสมอ ไม่ค่อยคิดมาก ร่าเริงจนถึงบ้าๆ บอๆ (หัวเราะ) อันนี้อาจจะเป็นข้อเสียก็ได้นะ แล้วก็กับคนที่สนิทจะชอบพูดตรง ซึ่งบางครั้งการพูดตรงก็เป็นเรื่องเซ้นซิทีฟสำหรับบางคนเหมือนกัน บางคนตรงเกินไปก็ไม่ดี อย่างกับเพื่อนบางเรื่องควรจะเตือนเพื่อน หนูก็จะพูดตรง เพราะรู้สึกไม่ควรปล่อยวาง อย่างเช่นเวลาเพื่อนโผงผางกับอาจารย์ พูดไม่มีหางเสียง ก็รู้แหละว่าเพื่อนไม่คิดอะไร แต่เราก็รู้สึกว่าไม่ควรจะพูดกับผู้ใหญ่แบบนี้ เราก็จะพูดกับเพื่อนไปตรงๆเลย แต่อีกอย่างก็คือกับคนที่ไม่ค่อยสนิท จะชอบขี้เกรงใจพอสมควรบางเรื่องคนก็เห็นว่าถูกเอาเปรียบ เรารู้แต่ก็ไม่พูด อันนี้ก็ถือว่าเป็นข้อเสียเหมือนกัน
บีมในสมัยเด็ก
วัยเด็กเป็นลิงดีๆ นี่เองค่ะ (ฮา) เป็นลูกคนเล็ก แล้วก็ซนมาก มีพี่สาวอยู่ เขาก็จะออกแนวเรียบร้อยหน่อย อาชีพตอนเด็กเคยฝันอยากเป็นสัตวแพทย์ อยากรักษาสัตว์ ชอบดูสารคดี จริงๆ ตอนเลือกคณะก็เลือกสัตวแพทย์ด้วย เราได้ไปเข้าโครงการเรียนล่วงหน้าของม.เกษตรศาสตร์ที่จะรับเด็กม.5 ไปเรียนเสาร์อาทิตย์เนื้อหาเรียนเหมือนเด็กปี 1 แล้วก็สอบสามครั้ง เอาเกรดไปยื่นเข้าคณะไหนก็ได้ แต่ว่าตอนนั้นด้วยความที่เรียนโรงเรียนจันทร์ถึงศุกร์ แล้วก็ต่อเสาร์อาทิตย์อีก มันก็แอบหนัก คะแนนออกมาเลยไม่ถึงคณะสัตวแพทย์ศาสตร์ เราก็เลยเบนเข็มไปทางคณะเกษตรแทน
วีรกรรมสุดซ่าจนครูปกครองเรียกไปพบ
ตอนเด็กซนมาก ขนาดปั่นจักรยานแล้วหัวแตก คือปั่นจักรยานบนพื้นหินสมัยก่อน ปั่นๆ อยู่แล้วเบรก ล้มหน้าทิ่มไปโดนก้อนหินเลือดอาบหน้า ทุกวันนี้ยังมีรอยแผลเป็นเป็นอนุสรณ์แห่งความทรงจำนี้อยู่เลย พอตอนประถมก็ไปชวนรุ่นพี่ผู้ชายต่อย เหมือนรุ่นพี่ผู้ชายไปแกล้งเปิดกระโปรงเพื่อน เราก็ไม่ยอม แก่นพอสมควร ความคิดเด็กๆอะ ชั้นใหญ่สุด ก็ท้าๆ แบบจะไปต่อย ตอนนั้นเรียนเทควันโดพอดีเลยห้าว โดนอาจารย์ฝ่ายปกครองเรียกไปเลย ไหนคนไหนที่มีปัญหาด้วย โดนเรียกไปอบรมกันนิดหน่อย แต่พอขึ้นมัธยมเปลี่ยนสังคมก็เปลี่ยนไป ทุกคนต่างตกใจ ทำไมเด็กๆ มันซน โตมานี่เรียบร้อยมาก
สเปกหนุ่มโดนใจและต้องหนีห่าง
ประถมตอนนั้นห้าวๆ ก็มีป๊อปปี้เลิฟ แบบรักเขาข้างเดียว เหมือนน่ารักจังเลย เป็นเพื่อนในห้อง หน้าจีนๆ ใส่แว่น เด็กเรียน ส่วนหนูเป็นเด็กหลังห้อง แต่ก็คือเหมือนป๊อปปี้เลิฟเด็กๆ น่ะ ก็ไม่ได้อะไรมาก ส่วนสเปกตอนนี้ชอบคนสูงกว่าเรา หนูชอบผู้ชายนะ ไม่ได้เป็นทอม (ยิ้ม) แล้วก็ชอบคนผิวเข้ม แต่ไม่ถึงกับดำ ผิวน้ำผึ้ง ผิวสองสี ไม่อยากให้ผู้ชายขาวกว่าเรา ส่วนเรื่องนิสัย หนูว่าเป็นเรื่องที่สามารถปรับเข้ากันได้ แค่มีไลฟ์สไตล์คล้ายกันก็พอ ก็คือหนูชอบออกกำลัง ท่องเที่ยว แนวแอดเวนเจอร์ แบบขี่ม้า ปีนน้ำผา เล่นเซิร์ฟบอร์ดอะไรแบบนี้ ชอบทำกิจกรรมที่มันต้องออกแรง ถ้าเขามาเล่นกับเราก็คงจะสนุก ส่วนผู้ชายที่ไม่ชอบก็คงเป็นผู้ชอบเจ้าชู้ ซึ่งก็ปกติของทุกคนอยู่แล้ว
ถ้ามีโอกาสได้ไปทำงาน ณ ประเทศหนึ่งประเทศใดในโลก
คงไปสวิตเซอร์แลนด์ค่ะ มันดีมาก หนูได้ไปเที่ยวมาครั้งหนึ่ง เอ้ย ไลฟ์สไตล์ชีวิตเขาดีจัง บรรยากาศเมือง ทิวทัศน์ สังคม กฎหมาย คือตอนนั้นมีคนที่สวิตเซอร์แลนด์เขาจะพาเราไปเที่ยว ก็คือว่าถ้าเราวางแก้วน้ำไว้ตรงนี้ วันต่อมาแก้วน้ำที่วางจะไม่มีใครเก็บไปเลย คือทุกคนรู้หน้าที่ เคารพกฎหมาย ก็เลยคิดว่าขอแค่ได้อยู่ประเทศนี้ให้หนูทำงานอะไรได้หมด แต่ถ้าให้มองอาชีพที่น่าทำ คงจะเป็นการนำขนมไทยไปขายที่นั่นค่ะ เพราะต่างประเทศไม่ค่อยมีขนมไทยให้กิน ถ้าเราไปทำขายน่าจะโอเคอยู่ เพราะเคยมีเห็นเจ้าหนึ่งเปิดร้านฝอยทองกล่องหนึ่งก็สองร้อยกว่าบาทแล้ว ถ้าเป็นบ้านเราคงไม่ซื้อกัน แต่ฝรั่งเขาซื้อเพราะบ้านเขาไม่มีขนมแบบนี้ให้กิน
FIRST OFBEAM
ชื่อ :บีม-สิริมนต์ เกษมภิมุกต์โภคิน
การศึกษา :ปี 4 คณะเกษตร สาขาอาหารโภชนาการและการกำหนดอาหาร ม.เกษตรศาสตร์
วันเกิด : 14 พฤศจิกายน 2541
ส่วนสูง : 167ซม.
น้ำหนัก :53กก.
นิยามสามคำบอกความเป็นชาวมอ :อึด ถึก ทน
คติประจำใจเวลาเรียน :เหนื่อยตอนนี้สบายตอนหน้า เหนื่อยกายได้ แต่ห้ามเหนื่อยใจ และจงเป็นเมล็ดพันธุ์ที่พร้อมเติบโต มอบสิ่งสวยงามให้กับโลก
แหล่งช้อปปิ้งใกล้มอ:เมเจอร์รัชโยธิน
สิ่งที่อยากให้ปรับปรุงในมอ :น้ำท่วมค่ะ 555
เป้าหมายในอนาคต: อยากเที่ยวรอบโลก
IG :Beam_srmk
MODEL :SIRIMON KASEMPIMUKPOKIN
PHOTOGRAPHER : CHAIMONGKOL PAWASUTTIKARN
STYLIST : APIWAN TIRARANGKUL
MAKE UP &HAIR :ACHIRAWEE ANURAKTARANON
PLACE :