การแข่งขันเครื่องบินพับกระดาษที่ใหญ่ที่สุดในโลกกับความในใจของ 3 ตัวแทนประเทศไทยและประสบการณ์ที่หาไม่ได้อีกแล้วในชีวิตนี้

“ยูโรเปี้ยน เรดบูล” (Red Bull)จากกระดาษแผ่นบางสู่การแข่งขันการพับเครื่องบินกระดาษชิงแชมป์โลกได้ปิดฉากอย่างสวยงท่ามกลางรอยยิ้มของเหล่านักบินกระดาษจากทั่วโลกที่พกพาความฝันและประสบการณ์มาแชร์ซึ่งกันและกันจนเกิดเป็นภาพประทับอยู่ในใจที่หลายคนไม่มีวันลืมเลือน

การแข่งขัน Red Bull Paper Wings 2019 จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 5 ที่โรงเก็บเครื่องบิน Hangar-7 นครซาลซ์บูร์กประเทศออสเตรียโดยมีนักบินกระดาษจากทั่วทุกมุมโลกกว่า 60 ทีมเข้าร่วมแข่งขันซึ่งปีนี้พิเศษกว่าทุกปีเพราะมี 3 ตัวแทนจากประเทศไทยเข้าร่วมด้วยเป็นครั้งแรกได้แก่ไอซ์-อาณาทัศนพันธุ์นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญตัวแทนจากประเภทร่อนนาน,แพรว-กัลยรัตน์เสาวนียากรนักศึกษามหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ตัวแทนจากประเภทแอโรเบติกและกันต์-กัญจน์กันต์ปรีชาวุฒิคุณนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญตัวแทนจากประเภทร่อนไกล

ก่อนจะเข้าสู่การแข่งขันพับเครื่องบินกระดาษที่ทุกคนรอคอยทีมงานระดับโลก“ยูโรเปี้ยน เรดบูล”เริ่มต้อนรับนักบินกระดาษทุกคนด้วยพิธีเปิดสุดอลังการที่พระราชวัง Salzburg Residenzที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 เคล้าคลอไปด้วยเสียงเพลงคลาสสิคของโมสาร์ตขณะที่ผู้เข้าแข่งขันทุกคนต่างตระเตรียมชุดประจำชาติเข้าร่วมดินเนอร์ในบรรยากาศแสนอบอุ่นก่อนที่ทั้งหมดจะเริ่มร่อนเครื่องบินกระดาษครั้งแรกร่วมกันท่ามกลางรอยยิ้มแห่งมิตรภาพ

เมื่อเข้าสู่การแข่งขันรอบสุดท้ายในโรงเก็บเครื่องบิน“ฮังการ์ 7” (Hangar-7)ของ Red Bull ที่บรรดาผู้คลั่งไคล้เครื่องบินต่างอยากไปเยือนสักครั้งในชีวิตบรรยากาศของการขับเคี่ยวแข่งขันจึงเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการโดยไฮไลต์อยู่ที่การแข่งขันประเภทแอโรเบติกที่ผู้เข้าแข่งขันต้องแสดงความสามารถเฉพาะตัวด้วยการร่อนเครื่องบินกระดาษในท่าทางและการแสดงที่ครีเอทมากที่สุดโดยแชมป์ตกเป็นของผู้หญิงเป็นครั้งแรกคือ Kateryna Ahafonovaตัวแทนจากยูเครน

ส่วนแชมป์ร่อนนานที่สามารถทำให้เครื่องบินลอยคว้างกลางอากาศได้นานที่สุดตกเป็นของ Cameron Clark จากออสเตรเลียที่ทำเวลาได้ 13.33 วินาทีขณะที่แชมป์ร่อนไกลที่โชว์ทักษะพับเครื่องบินและการคิดคำนวนจนสามารถพาเครื่องบินกระดาษลำน้อยแลนดิ้งได้ไกลที่สุดคือ Jake Hardy จากสหรัฐอเมริกาที่ทำระยะทางได้ไกลถึง 56.61 เมตร

แม้ทั้ง3 ตัวแทนจากไทยจะไม่สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศกลับมาได้อย่างคาดหวังแต่พวกเขาไม่ได้กลับบ้านมือเปล่าเพราะในการแข่งขันเครื่องบินกระดาษที่ใหญ่ที่สุดในโลกครั้งนี้ประสบการณ์และมิตรภาพกลับเป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้ถ้วยรางวัลไหนๆ

“กันต์-กัญจนกันต์”ที่คว้าอันดับ 8 ในการแข่งขันประเภทร่อนไกลเล่าว่าการแข่งขันครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นและคุ้มค่ากับการฝึกซ้อมที่ผ่านมาซึ่งผลการแข่งขันที่ออกมาก็เกินความคาดหมายเพราะถือว่าติด 1 ใน 10 ของประเภทร่อนนานแม้จะได้ชื่อว่าเป็นการแข่งขันแต่สิ่งที่เขารู้สึกได้กลับกลายเป็นบรรยากาศแห่งมิตรภาพที่ทุกคนเอื้อเฟื้อและเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน
“เครื่องบินกระดาษแม้จะเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่มองว่าเป็นของเล่นแต่จริงๆแล้วมันกลายเป็นมากกว่านั้นเพราะมันคือสื่อกลางในการนำคนในหลายๆประเทศมาพบปะกันและสร้างสัมพันธไมตรีซึ่งกันและกันได้ซึ่งเป็นสิ่งที่มีค่ามากๆผมรู้สึกขอบคุณมากที่ Red Bull ได้นำผมและเพื่อนๆไปเป็นตัวแทนในการแข่งขันเครื่องบินกระดาษครั้งนี้” กันต์เปิดใจ

ส่วน“แพรว-กัลยรัตน์”ตัวแทนสาวเพียงหนึ่งเดียวของทีมไทยที่ต้องเค้นความคิดสร้างสรรค์ก่อนไปประชันกับชาวโลกในการแข่งขันประเภทแอโรเบติกได้เล่าถึงประสบการณ์ครั้งแรกในยุโรปว่าก่อนจะออกเดินทางไปแข่งขันรู้สึกกดดันมากแต่เมื่อก้าวเท้าถึงออสเตรียกลับรู้สึกผ่อนคลายจากการต้อนรับอย่างอบอุ่นของทีมงาน“เรดบูล”และแม้จะใช้เวลาแข่งขันเพียง 30 วินาทีแต่ประสบการณ์ทั้งทริปตลอดหลายวันในฐานะตัวแทนจากทีมไทยเธอกลับได้รับเสียงหัวเราะรอยยิ้มและมิตรภาพติดมือเป็นของฝากกลับบ้านมากมายนับไม่ถ้วน

“สิ่งที่ได้จากการแข่งขันครั้งนี้คือมิตรภาพประสบการณ์ใหม่ๆที่สำคัญคือได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะทำอย่างถ้าไปเที่ยวยุโรปด้วยตัวเองก็คงได้ไปในฐานะนักท่องเที่ยวเดินดูสถาปัตยกรรมที่สวยงาม แต่ครั้งนี้เรากลับได้ประสบการณ์อันมีค่าที่หาไม่ได้จากที่ไหนอีกแล้ว”
--
ปิดท้ายด้วย“ไอซ์-อาณา”หนุ่มไทยที่โชว์ทักษะเปียโนทั้งๆที่สวมชุดไทยในงานดินเนอร์เปิดการแข่งขันตัวแทนในประเภทร่อนนานที่เล่าประสบการณ์การแข่งขันในยุโรปว่าตลอดทั้งทริปรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับสิ่งใหม่ๆหลายสิ่งที่เพิ่งพบเจอเป็นครั้งแรกแต่ที่ประทับใจที่สุดคือการได้พบเจอผู้คนจากทั่วโลกกว่า 60 ประเทศที่แม้แต่ละคนจะสื่อสารกันคนละภาษาและมาเพื่อแข่งขันกันแต่สุดท้ายพวกเขาก็พยายามจะทำความรู้จักและแลกเปลี่ยนประสบการณ์และมุมมองร่วมกันจนกลายเป็นมิตรภาพระหว่างการแข่งขันที่น่าประทับใจ นอกจากนี้ยังมีบางสิ่งในตัวเขาที่เปลี่ยนแปลงไปจากการได้ร่วมเดินทางในครั้งนี้ด้วย

“ก่อนหน้านี้เวลาจะทำอะไรผมจะรู้สึกลัวทุกครั้งว่าจะมีเสียงวิจารณ์กลับมา ทำให้เราไม่กล้าทำบางอย่าง แต่หลังจากกลับมาจากการแข่งขันครั้งนี้ทำให้ผมรู้ว่าเราสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่คิด ถ้าอยากทำอะไรก็แค่ลงมือทำไปเลยโดยไม่ต้องกลัวใครมาว่าเพราะโลกนี้กว้างใหญ่มีคนมากมาย ความมุ่งมั่นของเราจะทำให้เราได้ออกไปเจอโลกกว้างและพบเจอผู้คนเหล่านั้น”

แม้การแข่งขันจะเสร็จสิ้นเครื่องบินกระดาษทุกลำแลนดิ้งลงบนพื้นดินต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับไปในที่ที่ตัวเองจากมาแต่เหตุการณ์ที่ Hangar-7 ที่เครื่องบินกระดาษนับร้อยลำลอยบินคว้างอยู่กลางอากาศจะยังคงอยู่ในความทรงจำของผู้เข้าแข่งขันทุกคนในนามของ ‘ประสบการณ์อันมีค่า’ ถ้าอยากเป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำเหล่านี้อย่าลิมติดตามกิจกรรมสุดท้าทายของ Red Bull
ในครั้งต่อไปที่https://www.redbull.com/th-th/