คุณส้มโอเล่าว่า.. เหตุการณ์ที่จะเล่านี้ เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวันสิ้นปีที่ผ่านมานี้เองค่ะ คืนนั้นพ่อแม่ส้มเขา
ชวนเพื่อนๆ มากินเหล้าที่บ้านเสียงดัง ส้มเลยนัดเพื่อนไปสวดมนต์ข้ามปีกันที่วัดแห่งหนึ่งแถวดงขี้
เหล็ก ขาไปส้มขับรถไปรับเพื่อนที่บ้านก่อน ส่วนขากลับด้วยความที่มันดึกแล้ว เพื่อนเลยจะไปนอน
ค้างที่บ้านส้ม บ้านส้มอยู่จรัญ 46 ซึ่งค่อนข้างไกล ก็ขับรถกลับกัน 2 คนค่ะ
ระหว่างทางกลับ จะเห็นมีศาล และเครื่องเซ่นวางไว้ตามข้างทางบ้างประปราย อยู่ๆ เพื่อนส้มด้วย
ความปากดีมันก็ถามขึ้นมาว่า ‘มึงว่า..ของเซ่นพวกนี้ ผีมันได้มาแดกจริงป่าววะ?’ ส้มด้วยความที่เป็น
คนกลัวอะไรแบบนี้ก็เลยเงียบ ไม่ได้ตอบอะไร.. จากนั้นพวกเราก็แวะปั๊มไปเรื่อย เพราะไม่อยากให้
ถึงบ้านเร็ว ที่บ้านเปิดเพลงเสียงดัง พอถึงปั๊ม เพื่อนส้มก็ไปเข้าห้องน้ำ ส่วนส้มไปหาไรกินที่มินิมาร์ท
ตอนนั้นดึกมากแล้วคนก็ไม่ค่อยมี ในมินิมาร์ทมีลูกค้าแค่ 2-3 คนเท่านั้น พอส้มไปวางของจะจ่ายเงิน
ที่เค้าท์เตอร์ พนักงานก็ถามว่า ‘คนข้างหลังมาด้วยกันหรือเปล่า จ่ายรวมเลยไหม?’ ส้มก็หันไปมอง
ตาม แต่ก็ไม่เห็นมีใครอยู่ข้างหลัง เลยคิดว่าเขาคงเดินไปที่อื่นแล้ว เลยไม่ได้คิดอะไร.. ส้มกับเพื่อน
ก็นั่งเล่น นั่งกินกันอยู่หน้ามินิมาร์ทจนเกือบตี 3 ส้มเริ่มง่วงก็เลยชวนกันกลับบ้าน โดยส้มให้เพื่อนขับ
รถให้.. เวลานั้นถนนเปลี่ยวมาก มีแค่รถส้มคันเดียวบนถนน และด้วยความเพลีย ส้มเลยนอนหลับไป..
หลับไปได้สักพักก็ต้องตื่น เพราะเพื่อนเหยียบเบรคกระทันหัน ส้มถามมันว่า ‘เห้ย! เป็นไรวะ? หมาตัด
หน้ารถหรอ?’ มันตอบกลับมาว่า ‘กูเห็นเงาคนวิ่งตัดหน้ารถว่ะ เหี้ยน่ากลัว ดีนะกูมาไม่เร็ว เพราะข้าง
หน้ามันเป็นทางโค้งเลยชะลอรถ..’ ส้มพยายามหันมองรอบด้าน แต่ก็ไม่เห็นจะมีใคร ด้วยความที่ส้ม
เป็นคนกลัวผีมาตั้งแต่เด็ก เลยเงียบไว้ สรุปว่าไม่ได้นอน
ต้องคอยระแวงไปตลอดทางจนถึงบ้านเลยค่ะ
พอถึงบ้าน พ่อแม่ก็กำลังเก็บของเตรียมเข้านอน แต่เพลงยังเปิดไว้อยู่เสียงดัง คงกะว่าจะปิดทีหลัง
สุดตอนที่จะเข้านอนเลย แต่ตอนนั้นมันดึกมากแล้ว ส้มเลยบอกเพื่อนว่า ‘กดลดเสียงเพลงหน่อยดิ กู
กลัวคนเค้าด่า..’ พอเพื่อนกำลังลุกจะไปกด ปรากฏว่าเสียงเพลงมันกลับเบาลงเองอย่างเห็นได้ชัด!
ส้มกับเพื่อนตกใจมาก ต้องรีบปิดเพลง และเข้าห้องนอนเลย พยายามข่มตาให้หลับ ซึ่งกว่าจะหลับ
ได้ก็นานมาก.. จนส้มมาสะดุ้งตื่นอีกทีคือตอน 6 โมงเช้าแล้ว ฟ้าเริ่มสว่าง แสงแดดลอดส่องเข้ามาใน
ห้อง ทำให้เห็นสภาพห้องได้ชัดพอสมควร คือส้มนอนหงายค่ะ พอลืมตามาจะมองไปที่ด้านหน้าเลย
และสิ่งที่เห็นคือเงาคนยืนอยู่ปลายเตียงค่ะ! ตอนแรกเห็นไม่ชัด เพราะตายังไม่ปรับแสง จนขยี้ตาไป
หลายรอบ ก็ยังเห็นอยู่เหมือนเดิม แถมยังชัดขึ้นอีกต่างหาก ลักษณะเหมือนผู้หญิงวัยทอง แต่ไม่เห็น
หน้า มืออีกข้างส้มก็สะกิดเพื่อน ทั้งหยิกก็แล้ว เขย่าก็แล้ว เพื่อนก็ไม่ตื่น ทีนี้ได้ยินเป็นเสียงหัวเราะ
เลยค่ะ หัวเราะแบบสะใจมาก ส้มกลัวมากๆ เลยหลับตาสวดมนต์ในใจ พยายามนึกถึงพระพุทธรูป
นึกถึงพ่อแม่ อยู่พักใหญ่ เสียงหัวเราะถึงค่อยๆ เงียบลง พอลืมตามาอีกทีเงานั้นก็หายไปแล้ว..
พอช่วงสายๆ ส้มกับเพื่อนตื่นมาอีกที ส้มเลยถามเพื่อนว่า ‘เมื่อเช้ากูปลุกมึง มึงไม่รู้ตัวเลยเหรอวะ
หยิกตั้งแรงก็ไม่ตื่น?’ เพื่อนส้มตอบว่า ‘กูรู้ว่ามึงเห็น.. กูเลยไม่กล้าตื่น เพราะกูเห็นมาก่อนมึงอีก!!
แม่งกูสะดุ้งมาตอนตี 5 เหมือนมีคนมาสะกิดเท้า พอกูลืมตามามองเท่านั้นแหละ เห็นใครไม่รู้นั่งยองๆ
อยู่ที่ปลายเท้ากู! กูตกใจรีบสวดมนต์ผิดๆ ถูกๆ แม่งเสือกหัวเราะกูแล้วสวดมนต์ตามกูอีก กูเลย
หลับตานอนกำพระที่คอแล้วหลับไป..’ ส้มได้ฟังนี่ขนลุกเลยค่ะ เพราะส้มอยู่ห้องนี้มานานยังไม่เคย
เจออะไรจังๆ ขนาดนี้มาก่อนเลย ..จากนั้นส้มกับเพื่อนก็ได้คุยกันถึงลักษณะ ท่าทาง น้ำเสียง ของเงา
นั้น ซึ่งก็ชัดเจนว่าเป็นคนเดียวกันแน่ๆ ..วันปีใหม่เลยต้องพากันไปเข้าวัดทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เขา
ค่ะ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นใครมาจากไหน ทำไมต้องตามมาหลอกกัน?
