คนเราแต่ละคนแสดงความรักและต้องการได้รับความรักในรูปแบบที่แตกต่างกัน ดร. แชป
แมน ผู้แต่งภาษารักทั้ง 5 กล่าวว่า เราจะต้องเรียนรู้ภาษารักที่คู่รักของเราต้องการซึ่งมีความเป็นไป
ได้สูงว่าต่างจากภาษาแม่ของเราเปรียบเหมือนกับการเรียนภาษาต่างประเทศซึ่งต้องอาศัยการ
ฝึกฝน ยกตัวอย่างง่ายๆ หากภาษาแม่ของเราคือภาษาอังกฤษ แต่คู่รักของเรารู้แต่ภาษาจีนและเรา
ก็ไม่รู้ภาษาจีนเลย เราย่อมไม่สามารถสื่อสารภาษาจีนกับคู่รักของเราและทำให้เขาเข้าใจได้ ภาษา
รักของคนเราแบ่งออกมาได้เป็น 5 ภาษา
1. การชื่นชม
มาร์ก ทเวน (Mark Twain) ครั้งหนึ่งเคยกล่าวว่า “ฉันสามารถมีชีวิตอยู่ได้สองเดือนด้วยคำชื่นชม”
ลองคิดดูสิคะ ว่าคำชื่นชมจะมีค่าทำให้ชีวิตเรายาวนานได้แค่ไหน หากเราได้รับคำชมเพียงหนึ่งครั้ง
ทุกๆวัน การชื่นชมคนรักด้วยความจริงใจเป็นการแสดงให้อีกฝ่ายรับรู้ว่า เรารับรู้และชื่นชมสิ่งที่เขา
ทำให้เรา ไม่ว่าจะเป็นการขอบคุณที่ขับรถมาส่ง ขอบคุณที่ให้ความช่วยเหลือเรื่องงาน ขอบคุณที่พา
พ่อแม่เราไปทานข้าว ฯลฯ การชื่นชมนอกจากจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกดีแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นให้อีก
ฝ่ายอยากจะทำสิ่งดีๆให้เรามากยิ่งขึ้น การชื่นชมนั้นยังรวมถึงถ้อยคำที่ให้กำลังใจอีกฝ่าย ซึ่งจะ
เป็นการจุดประกายความมั่นใจทำให้คู่รักของเรามีกำลังใจในการทำตามความฝันของตัวเอง
2. การใช้เวลาร่วมกัน
บางคนต้องการการได้ใช้เวลาร่วมกันมากกว่าการได้รับการชื่นชม การใช้เวลาร่วมกันนั้นไม่ได้หมาย
ถึง การนั่งด้วยกันในร้านกาแฟ แต่ต่างคนต่างทำงานของตัวเอง การนั่งดูทีวีด้วยกันแบบต่างคนต่าง
ดู หรือการนั่งกินข้าวด้วยกันแต่ต่างคนต่างแชทมือถือกับเพื่อน แต่การใช้เวลาร่วมกันหมายถึง การ
ใส่ใจกันและกันร้อยเปอร์เซ็นต์ เช่น การรับฟังสิ่งที่คู่รักเล่าถึงชีวิตประจำวัน หรือเรื่องราวความ
สัมพันธ์เกี่ยวกับเพื่อนและครอบครัว เรื่องราวตอนเด็กๆ การแบ่งปันความรู้สึก ความคิด ความ
ต้องการ ความฝัน และพยายามรับรู้ความรู้สึกที่อีกฝ่ายมีโดยการสังเกตกิริยาอาการ สีหน้าท่าทาง
แววตา การใช้เวลาร่วมกันยังหมายถึงการได้ร่วมทำกิจกรรมที่แต่ละฝ่ายชอบด้วยกัน
3. การรับของขวัญ
ของขวัญก็คือสัญลักษณ์แสดงถึงความเอาใจใส่และความระลึกถึง เพราะการที่เราจะซื้อของขวัญ
หรือเลือกของขวัญให้ใครได้ เราจะต้องนึกถึงเขาก่อนจริงไหมคะ ของขวัญนั้นอาจเป็นสิ่งที่เราซื้อ
มา หามา หรือทำเองก็ได้ ของขวัญอีกอย่างหนึ่งที่มีค่าที่สุดในบรรดาของขวัญทั้งหมด ก็คือตัวคุณ
เอง คุณสามารถเป็นของขวัญที่ดีที่สุดในการไปอยู่ข้าง ๆ คนรักของคุณเมื่อเขาต้องการ ในยาม
วิกฤตหรือในขณะที่เรากำลังเผชิญปัญหา สิ่งที่เราต้องการมากที่สุดก็คือ อยากให้คนรักของเรามา
อยู่ข้าง ๆ คอยเป็นกำลังใจ คอยปลอบใจ ถึงแม้ว่าคุณอาจจะช่วยอะไรไม่ได้มาก แต่การที่คุณมาก็มี
ค่าและสำคัญมากที่สุดแล้วค่ะ
4. การบริการ
บางคนให้ความสำคัญกับการที่คนรักบริการหรือให้ความช่วยเหลือเล็กน้อยๆ เช่น ทำอาหาร ช่วย
เดินเลือกซื้อเสื้อผ้า ช่วยจัดหนังสือ ช่วยหาข้อมูล พาหมาไปเดินเล่น ช่วยพับเสื้อผ้า ชงกาแฟ ฯลฯ
ในขณะเดียวกันหลายๆคนชอบใช้ภาษาแห่งการบริการในขณะที่อีกฝ่ายอาจไม่ได้ต้องการ เช่น ผู้
หญิงหลาย ๆ คนชอบทำกับข้าว หรือทำเค้กให้แฟนทาน โดยจริง ๆ แล้วแฟนอาจไม่ได้ต้องการให้
ทำให้ทาน แต่อยากไปทานข้างนอก ซึ่งสะดวก รวดเร็วกว่า เราต้องถามตัวเองว่า การทำกับข้าวนั้น
เป็นการสนองความต้องการของเราหรือของเขากันแน่
5. การสัมผัส
การสัมผัสด้วยการจับมือ การโอดกอด การจูบ การสัมผัส ทำให้เรารู้สึกถึงการเป็นที่รัก คู่รักที่ไม่
สัมผัสกันเลยเป็นระยะเวลานานทำให้ความรักแห้งเหี่ยวเฉาตาย ในสถานการณ์วิกฤตเรายังต้องการ
ได้รับการสัมผัสมากเป็นพิเศษ เช่น การโอบกอดยามเราต้องการกำลังใจ หรือการได้ซบไหล่ใครสัก
คนในตอนที่เราร้องไห้เสียใจ
หลายคนมีคำถามว่าแล้วเราจะรู้ได้ยังไงล่ะว่าภาษารักของเราและของคู่รักเราเป็นแบบไหน
นอกจากแบบสอบถามที่คุณหาได้จากอินเตอร์เน็ทแล้ว คุณยังสามารถสังเกตภาษารักได้ง่าย ๆ ลอง
ถามตัวเองว่า
– อะไรที่คู่รักของคุณทำให้คุณแล้วคุณรู้สึกได้รับความรักมากที่สุด คุณต้องการให้คู่รักคุณแสดง
ความรักแบบไหนอีก
– อะไรที่คู่รักคุณทำแล้ว คุณรู้สึกแย่มากที่สุด เช่น การถูกวิพากษ์วิจารณ์ ดังนั้น ภาษารักของคุณก็
คือ ภาษาแห่งการชื่นชม เพราะการกระทำที่ตรงกันข้ามกับความต้องการของคุณจะทำให้คุณรู้สึก
แย่ได้มากที่สุด
– อะไรที่คุณชอบทำให้คู่รักมากที่สุด แท้จริงแล้วนั่นก็คือภาษารักที่คุณต้องการ
เมื่อเรารู้ภาษารักที่เราต้องการแล้ว เราอาจร้องขอให้คู่รักเราทำในแบบที่เราต้องการ การสังเกต
ภาษารักของคู่รักก็ง่ายมาก คือ สังเกตว่าอะไรที่คู่รักคุณชอบทำให้คุณบ่อย ๆ เพราะเขาจะคิดว่าคุณ
เองมีภาษารักแบบเดียวกับเขาและสิ่งที่เขาทำจะทำให้คุณรู้สึกดีด้วย อีกอย่างคือ คนเรามักจะได้รับ
การเรียนรู้ภาษารักจากพ่อแม่ เช่น หากเราเห็นแม่ชอบบริการสิ่งต่าง ๆ กับพ่อ เราก็จะคิดว่านั่นเป็น
สิ่งที่ควรทำ การเรียนรู้ภาษารักของอีกฝ่ายทำให้ความสัมพันธ์อบอุ่นและเติมเต็ม ภาษารักเหล่านี้ไม่
จำเป็นที่จะต้องให้คู่รักของคุณเท่านั้น คุณยังสามารถนำมาใช้กับทุก ๆ คนที่มีความสัมพันธ์กับคุณ
เช่น พ่อแม่ พี่น้อง เจ้านาย เพื่อนร่วมงาน หุ้นส่วนทางธุรกิจได้อีกด้วย
