เรื่องมีอยู่ว่า.. ย้อนไปตอนเราอยู่บ้านที่จังหวัดสุโขทัย เป็นครอบครัวใหญ่ค่ะ ตอนนั้นเราเรียนอยู่ชั้น
ม.5 ก็เคยได้ยินมาบ้าง เรื่องผีๆ ที่พวกผู้ใหญ่เล่าให้ฟัง แต่ไม่เคยเจอเลยสักครั้ง จนมาวันหนึ่ง ลูกพี่
ลูกน้องเราได้กลับมาอยู่ที่บ้าน หลังจากที่ไปทำงานที่กรุงเทพฯ มาหลายปี สาเหตุที่ต้องกลับมา
บ้านเนื่องจาก ป้าศร (นามสมมติ) เส้นเลือดในสมองแตก เป็นอัมพาตไปทั้งตัว ไม่สามารถทำอะไร
ได้เลย พูดไม่ได้ กินข้าวไม่ได้ ต้องเจาะคอให้อาหารทางสายแทน สามี และลูกแกเลยตัดสินใจพาก
ลับมารักษาตัวที่บ้าน เพื่อความสะดวกสบายหลายอย่างค่ะ
แต่แล้วก็เกิดเหตุประหลาดขึ้น วันหนึ่ง อยู่ๆ ป้าศรแกก็สามารถยกแขนยกขาเองได้ ยิ้มได้ ซึ่ง
เหมือนจะเป็นเรื่องที่น่ายิน แต่ก็น่าแปลกใจตรงที่ว่า ป้าศรจะอาการดี มีเรี่ยวแรงในช่วงเวลากลางคืน
เท่านั้น ซึ่งทุกคนต่างก็แปลกใจ แต่แล้วทุกคนก็ลงความเห็นกันว่า ป้าศรต้องเป็น ผีกะ แน่ๆ เพราะ
สามีแกเห็นป้าศรกินข้าวได้อย่างคนทั่วไป ทั้งที่เป็นอัมพาต ทุกคนช่วยกันคิด และหาทางพิสูจน์ว่า
ป้าศรจะเป็น ผีกะ จริงไหม โดยการซื้อเนื้อสดมาไว้ในตู้กับข้าว แล้วให้สามีป้าศรบอก
ป้าศรว่าจะออกไปดักนก..
รุ่งเช้ามา สามีป้าศรก็ทำตามแผนที่วางไว้ จากนั้นก็มารวมกลุ่มแอบดูกันอยู่ที่หลังบ้าน ที่สามารถ
มองเห็นได้ ..รอดูไปได้สักพัก ก็แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง เพราะภาพที่ทุกคนเห็นคือ ป้าศรลุกมา
หยิบเนื้อในตู้กับข้าวกินแบบสดๆ ตอนกลางวันแสกๆ สามีแกเห็นแบบนั้นเลยรีบวิ่งขึ้นบ้านไปหา
แล้วร้องทักว่า ‘ศร เอ็งทำอะไรน่ะ!’ ป้าศรตกใจหันมามอง เท่านั้นล่ะ แกล้มลงหัวฟาดพื้น นิ่งเป็น
อัมพาตเหมือนเดิมทันที สามีแกได้แต่ตกใจ จนลูกพี่ลูกน้องที่ตามมาทีหลัง ต้องไปช่วยกันอุ้มป้าศร
กลับมาไว้บนที่นอนเหมือนเดิม แล้วทุกคนก็ช่วยกันคิดหาทางแก้ไข
รุ่งเช้ามีคนไปตามพระอาจารย์ที่มีชื่อในสุพรรณฯ ให้มาช่วยทำการไล่ผี แต่พิธีนั้นกลับเหมือน
เป็นการปลุกให้ผีกะเฮี้ยนขึ้นมากกว่า เพราะพอตกกลางคืนเท่านั้นล่ะ ทุกคนที่มาช่วยกันเฝ้าป้าแก
ต่างก็ได้ยินเสียงคนพูดภาษาแปลกๆ ทั้งคืน บ้างก็เห็นเงาดำเดินไปมาตลอด ทุกคนต่างกลัวกัน
หมด แต่ก็ได้แค่ทำใจดีสู้เสือเท่านั้น ยังคงต้องนอนเฝ้าต่อไป เรียกว่าเป็นข่าวดังเลยในช่วงนั้น.. แต่
แล้ววันหนึ่ง ก็มีลุงคนหนึ่งมาเยี่ยมป้าศร ชื่อ ลุงทร แกเป็นคนมีวิชาเช่นกัน มาถึงก็บอกกับสามีป้าศร
ก่อนเลยว่า ‘ผีมันร้ายนัก เมียเอ็งมันตายแล้ว ที่ยังเห็นอยู่เพราะผีมันทรง มันกัดกินเมียเอ็งหมดแล้ว!’
ทุกคนในบ้านเลยขอร้องให้ลุงทรแกช่วย แกเลยบอกต่อว่า ‘ไม่รู้จะช่วยได้ไหม แต่จะลองดู..’ แล้ว
แกก็ขอให้ผู้ชาย 3 คนที่เหลือ ออกจากบ้านนี้ไปทางทิศเหนือก่อน ระหว่างที่แกเอาสายสายสิญจน์
ล้อมรอบที่นอนของป้าศร ป้าศรแกก็หัวเราะออกมา แล้วหันมามองตาขวาง ลุงทรเริ่มท่องคาถาไม่
นาน ป้าศรแกก็ดิ้นทุรนทุราย ลุงทรบอกให้ลุงของเราเอาน้ำมนต์พรมใส่ป้าศร พอพรมน้ำมนต์ไป
เท่านั้น ป้าแกดิ้นหนักเลย ส่วนลุงทรแกก็ท่องคาถาจนหอบเหงื่อออกไปทั้งตัว ป้าศรแกพยายามจะ
ลุกมาหาลุงทร ลุงทรแกเลยเอาสายสิญจน์ครอบหัวป้าศรทันที แล้วก็ท่องคาถา จนในที่สุดป้าศรก็
ตัวอ่อนลง ทรุดลงกับพื้น แล้วสามีแกเลยไปรับตัวป้าศรไว้ ก่อนจะหมดลมหายใจคาอ้อมกอดสามี..
แต่สิ่งที่น่าขนลุกคือ หลังจากจบพิธี กลิ่นเหม็นเน่านี่โชยแรงมากค่ะ
สภาพป้าศรแกเหมือนคนตายมาแล้วเป็นเดือนเลย..
