คุณดอมเล่าว่า.. ที่บ้านผมเปิดอู่ซ่อมรถไว้อยู่ใกล้ๆ บ้านครับ ก็จะมีรถที่เกิดอุบัติเหตุเข้ามาทำ
เรื่อยๆ มีเบาบ้าง หนักบ้าง คนขับตาย หรือตายยกคันก็จะมีบ่อยๆ ครับ.. แต่มีครั้งหนึ่ง ที่เรียกว่า
เจอกันเกือบทั้งอู่เลย หลังจากที่มีรถกระบะคันหนึ่งเข้ามาซ่อมที่อู่ ด้วยสภาพด้านหน้าพังยับครับ
เรื่องมันเริ่มจากวันอาทิตย์ เป็นวันที่อู่ปิด ไม่มีคนอยู่ เวลาประมาณ 6 โมงเย็น แม่ผมได้เดินเอาข้าว
ไปให้หมาที่เฝ้าอู่รถ ระหว่างที่เดินไปนั้น แม่ผมก็แปลกใจ ที่ได้ยินเสียงหมาที่อู่เห่า เห่าแบบเอา
เป็นเอาตายเลย เพราะปกติหมาที่อู่นี่จะไม่ค่อยเห่าอะไร.. และช่วงที่แม่ผมก้มให้ข้าวหมาอยู่นั่นเอง
ก็ได้เหลือบไปมองที่รถกระบะคันนั้น สิ่งที่แม่ผมเห็น คือมีคนนั่งอยู่ที่กระโปรงรถ! เสื้อผ้ามีรอยเลือด
แดงเต็มไปหมด สีหน้าดูเศร้ามาก และเหมือนเขาจะรู้ว่าแม่มอง จึงหันมาหาแม่ผม แม่ตกใจรีบวิ่ง
กลับบ้านทันที แต่ไม่ได้บอกเรื่องนี้ให้ใครฟัง กลัวว่าคนที่อู่จะกลัวกัน..
และอีกคืนหนึ่ง อากาศค่อนข้างร้อน ช่างสีที่อยู่ที่อู่นอนไม่หลับ เลยเดินออกมาสูบบุหรี่ รับลม.. แสง
ไฟในอู่ตอนนั้นมีเพียงไฟจากด้านหน้าประตูอู่เท่านั้น ขณะที่ช่างสีนั่งสูบบุหรี่อยู่ ก็มองนั่นนี่ไปเรื่อย
และสายตาก็ไปเห็นเงาลางๆ ผ่านทางใต้รถกระบะ เคลื่อนไหวคล้ายๆ คนเดินไปมาอยู่ ทีแรกก็นึก
ว่าเป็นช่างคนอื่น เลยไม่ได้สนใจ แต่พอเงานั้นเดินพ้นช่วงรถออกมา ช่างสีก็ถึงกับเข่าอ่อน ตัวสั่น
เพราะเงาคนที่เดินนั้น มีแค่ครึ่งตัวส่วนล่าง! ลักษณะเขาเดินวนอยู่รอบรถกระบะ
เหมือนหาอะไรบางอย่างอยู่..
พอตอนเช้ามา พ่อกับแม่ผมรู้เรื่องก็รีบเลยครับ โทรไปถามลูกค้าที่เอารถกระบะคันนี้มาทำอย่าง
ละเอียด ก็ถึงได้ทราบเรื่องว่า รถกระบะคันดังกล่าว เพิ่งเกิดอุบัติเหตุเสียหลักพุ่งชนเข้ากับตอหม้อ
อย่างจัง ทำให้มีคนเสียชีวิตคาที่ 2 ศพ คนขับคอหัก ส่วนคนที่นั่งมาด้วยไม่ได้คาดเข็มขัด
ทำให้ร่างท่อนบนกระเด็นออกนอกรถ ส่วนท่อนล่างติดคาอยู่ภายในรถ.. ได้รู้อย่างนั้น ช่างสี แม่ผม
รวมถึงทุกคนในอู่ ต่างก็ขนลุกขนพองไปตามๆ กัน และช่างสีก็ได้บอกว่า ‘สิ่งที่เขาตามหาอยู่
อาจจะเป็นร่างอีกท่อนที่ขาดไปก็ได้!’ ..หลังจากนั้นก็ต้องนิมนต์พระ
มาปัดเป่าดวงวิญญาณที่อู่กันยกใหญ่เลยครับ..
