คุณตั๊กเล่าว่า.. เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ 20 ปีที่แล้ว สมัยเรายังเรียนชั้นประถมค่ะ ถึงจะผ่านมานาน
แต่ยังจำได้แม่น และฝังใจมาจนทุกวันนี้.. บ้านเราอยู่จังหวัดมุกดาหาร สมัยนั้นบ้านชาวอีสานส่วน
มากจะเป็นบ้านแบบมีใต้ถุนโล่ง มีแคร่ไว้นั่งพักผ่อนพูดคุยกันตามประสาญาติพี่น้อง หมู่บ้านเราเป็น
หมู่บ้านขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ มีประมาณ 50 หลังคาเรือน บ้านที่เป็นญาติกันก็จะสร้างติดกัน มีรั้ว
ไม้ไผ่เป็นเส้นแบ่งอาณาเขตเท่านั้น ตกเย็นหลังทานข้าวกันเสร็จ ก็จะมารวมตัวกันที่บ้านญาติข้างๆ
กัน เพื่อพูดคุยสนทนาเรื่องราวต่างๆ ในแต่ละวัน มีหลากหลายรุ่น ตั้งแต่ลูกเด็กเล็กแดงไปจนถึงคน
แก่ค่ะ ใครบ้านไกลก็ปั่นจักรยานมา มีฐานะหน่อยก็ขี่มอเตอร์ไซค์
มีวันหนึ่ง ได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นกับหนึ่งในญาติผู้ใหญ่ของเรา ซึ่งอายุค่อนข้างมากแล้ว เรา
เรียกแกว่า พ่อใหญ่ ซึ่งทางภาคอีสานหมายถึงคุณตานั่นเอง แกประสบอุบัติเหตุขี่รถมอเตอร์ไซค์
ไปถูกรถยนต์ชน ทำให้แกเสียชีวิตคาที่ทันที ญาติๆ ทุกคนต่างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะ
แกเป็นคนใจดี และชอบมานั่งพูดคุยกับพวกเราเป็นประจำ.. และเช่นเคยค่ะ วันนั้น พวกเราก็รวมตัว
ที่บ้านญาติกันเหมือนปกติ เพื่อพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น แต่วันนั้นใช้เวลาน้อยกว่าปกติ เพราะญาติๆ
ต้องไปช่วยงานศพพ่อใหญ่ และวันนั้นพ่อเราก็ไม่สบายมากด้วย เป็นไข้หวัดใหญ่ นอนซมไม่รู้สึกตัว
ไข้ขึ้นสูง ทำให้ยาย ย่า น้า อา ต้องมานอนรวมตัวกันที่บ้านเรา ตอนนั้นเราก็ไม่เข้าใจหรอกว่าทำไม
ต้องมากันเยอะ จนมารู้ทีหลังจากย่าว่า ‘พ่อหนูจะจิตอ่อนช่วงนี้ แถมยังมีคนตายโหงในหมู่บ้านอีก
เขาอาจจะมาเรียกพ่อไปอยู่ด้วยง่ายๆ ก็เป็นได้..’ ตกเย็นวันนั้น ซึ่งเป็นวันแรกที่พ่อใหญ่เสียชีวิต
บรรยากาศทั้งหมู่บ้านเงียบสงัด วังเวง ไม่มีใครออกมานั่งเล่นเหมือนเคย หมาก็ต่างเห่าหอนเป็น
ระยะๆ สังเกตเห็นเพียงแม่ และญาติๆ นั่งคุยกันหน้าตาเคร่งเครียด และเป็นกังวลเรื่องพ่อเรา กับพ่อ
ใหญ่ที่เสียชีวิตไป เราแอบไปฟังบ้าง ไม่ฟังบ้าง เราไม่ได้สนใจอะไรมาก เพราะมัวแต่เล่นกับพี่ๆ
น้องๆ ตามประสาเด็ก
จนกระทั่งถึงเวลานอน จำได้ว่าตอนนั้นน่าจะประมาณ 4 ทุ่มได้ ตามบ้านนอกถือว่าดึกมากแล้ว
ญาติๆ ทุกคนนอนรวมกันที่โถงบ้านเรา พ่อเรานอนกลางวงล้อมของญาติๆ ส่วนตัวเรานอนข้างยาย..
นอนไปได้สักพักเราก็เกิดปวดฉี่ขึ้นมา จะไปเองก็กลัว เพราะห้องน้ำอยู่ชั้นล่าง จึงปลุกยายให้พาไป
ฉี่ ยายก็งัวเงียตื่นพาเราไปฉี่ แต่ตอนนั้นคือปวดมากละ ทนไปฉี่ที่ห้องน้ำไม่ไหว เลยขอยายนั่งฉี่ข้าง
บันไดใต้ถุนบ้านแล้วกัน ยายก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ให้เราขยับไปอีกหน่อย ไปตรงใกล้รั้ว พอเราได้ที่ก็
จัดการนั่งเลย ยายก็นั่งหลับรอที่บันได แล้ววันนั้นเป็นอะไรไม่รู้ ดันฉี่เยอะกว่าปกติ นานเลย แถม
บรรยากาศก็เงียบสงัด เย็นยะเยือก สักพักสายตามันเหลือบไปเห็นคนยืนอยู่ที่ใต้ถุนบ้านญาติฝั่งติด
กัน ระยะห่างประมาณ 5 เมตรได้ มองเห็นชัดเจนมาก เพราะบ้านเราเปิดไฟใต้ถุนไว้ แถมรั้วก็เป็นรั้ว
โปร่ง มีไม้ไผ่แค่ 2 ท่อนพาด เราจ้องอยู่สักพัก นึกในใจว่าเป็นน้าชาย แต่เฮ้ย! ไม่ใช่ นี่ไม่ใช่น้า
ไม่ใช่ใครทั้งนั้น แต่คือพ่อใหญ่ที่ตายไปแล้วนี่หว่า!!! ลักษณะที่เห็นในตอนนั้นคือ แกใส่เสื้อยืด
คอกลมสีขาว กางเกงขายาวสีดำ เป็นชุดที่แกชอบใส่ และเป็นชุดที่แกใส่ในวันตาย ชิบหายละ! ฉี่ก็
ยังไม่สุด ตาก็จ้องมองไปที่พ่อใหญ่ ชัดเลย ใช่แน่ๆ แถมแกยังใกล้เข้ามาด้วย ..แต่ทำไมขาลอย
วะ!? คือจากส่วนหัวเข่าลงไปเรามองไม่เห็นเลย ว่างเปล่า และส่วนใบหน้านั้นกลับไม่มีตา จมูก ปาก
มันเกลี้ยงมันโล้นเลย กลางหน้าอกมีคราบเลือดเปื้อนเสื้อเต็มไปหมด..
เราแบบ เฮ้ย..นี่คืออะไร? จากที่เห็นแกยืนที่บันได ก็มาใกล้รั้วขึ้น สักพักไปตรงโอ่งน้ำ ไม่ได้เดินนะ
แต่ทำไมขยับได้ ตอนนั้นไม่ได้กลัวนะ แต่งงกับสิ่งที่เห็นมาก เรานั่งมองอยู่สักพักเพื่อทบทวนตัวเอง
ว่าเห็นจริงๆ ใช่ไหม? เลยหันไปหายาย กะว่าจะเรียกยายเพราะกลัวยายยังหลับอยู่ แต่ทันทีที่เรา
เห็นหน้ายาย คือหน้ายายนิ่ง ตาเบิกโพลง จ้องไปในทางเดียวกัน เรารู้ทันทีเลยว่ายายก็เห็นเหมือน
กัน! ยายเหลือบมามองเรานิดนึงแล้วถามว่า ‘เยี่ยวแล้วล่ะเบาะ ไวๆ ลูก!’ เรายังไม่ทันตอบยาย หัน
หน้ากลับมาทางเดิม กะว่าคงไม่เห็นแล้ว ‘เชี่ยยยยยย!!!’ ติดเลย มายืนติดรั้วเลย ห่างกับเราแค่เอื้อม
มือได้!!! แต่คราวนี้กลับกลายเป็นเงามัวๆ ที่เห็นแค่ส่วนบน เรารีบใส่กางเกงทันที ในใจอยากวิ่งมาก
แต่ขามันก้าวขาไม่ออก ระยะทางที่เดินไปหายายเหมือนมันไกลจริงๆ ยายจับมือเราแล้วพูดกับเราว่า
‘อย่าฟ้าวเว้าหยัง ไปนอน!’ เราพยักหน้ารับ มือยายนี่เย็นเฉียบ เสียงหมาหอนก็มาไม่หยุด คืนนั้นยาย
นอนกอดเราแน่น จนเราเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้..
ตื่นเช้ามาเห็นญาติๆ นั่งจับกลุ่มคุยกันว่า สิ่งที่ยายกับเราเห็นเมื่อคืน แกคงมาหาพ่อเรา อาจจะเพราะ
เป็นห่วงพ่อ หรือเป็นช่วงจิตพ่ออ่อนก็ไม่รู้ แกเลยมาหาคนไปอยู่ด้วย ผ่านมา 20 ปีแล้ว จนทุกวันนี้
ภาพนั้นยังติดตาเราอยู่เลย และคงไม่มีวันลืมเหตุการณ์วันนั้นได้แน่นอน เคยไปถามคนแก่คนเฒ่ามา
ว่าทำไมเราถึงมองไม่เห็นหน้าคนตาย? คำตอบที่ได้คือ ‘เพราะเขากลัวว่าเราจะจำหน้าได้
และกลัวเราสาปแช่งเขา..’
Mono Mobile
แหล่งรวบรวมคอนเทนต์คุณภาพ ทั้งในรูปแบบวิดีโอคลิป สามารถดูได้ทุกที่ ทุกเวลาตลอด 24 ชั่วโมง รองรับการใช้งานหลากหลายอุปกรณ์
Mono Technology
อาคารจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล ทาวเวอร์ เลขที่ 200 หมู่ 4 ถนนแจ้งวัฒนะ ปากเกร็ด นนทบุรี 11120 เบอร์โทร 021007007
TAGS
บันเทิง, ข่าวสาร, ก็อซซิป, คลิปตลก, คลิปเด็ด, ดูดวง, เพลงฮิต, เกม, ความรัก, กีฬา