เรื่องความสวยความงานนั้น เป็นเรื่องที่ไม่มีใครยอมใครโดยเฉพาะให้หมู่สาวๆ ที่มักจะหาวิธีที่สามารถช่วยแต่งเสริมเพิ่มความสวยให้ตัวเองอยู่ตลอด ซึ่งในปัจจุบันที่เทคโนโลยีต่างๆ ได้รับการพัฒนาให้เจริญก้าวหน้าไปไกล ก็ทำให้มีมากมายหลากหลายวิธี ที่สามารถช่วยเนรมิตความสวยได้ในชั่วข้ามคืน เช่นการทำศัลยกรรม ที่สามารถเพิ่มส่วนขาดและตัดส่วนเกินให้อยู่ในรูปของความพอดีได้ แต่ทุกอย่างย่อมมีโอกาสเกิดความผิดพลาดกันขึ้นได้ การศัลยกรรมก็เช่นกัน และหากเกิดความผิดพลาดขึ้น ผู้เสียหายมีสิทธิ์เรียกร้องความเป็นทำได้อย่างไรบ้าง ลุงหนวดจะมาอธิบายกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการศัลยกรรมกันบางดีกว่า

         เรื่องศัลยกรรมที่สาวๆ และหนุ่มๆ หลายคนยอมเจ็บตัวในการทำศัลยกรรมตามสถานเสริมความงามต่างๆ เพราะอยากให้ตัวเองดูดี จากความคาดหวังในผลลัพธ์ที่จะได้หลังจากการทำศัลยกรรมแล้ว หากผลออกมาเป็นที่น่าพอใจก็คงไม่ต้องมานั่งปวดหัวทีหลัง แต่ในบางรายที่ผลออกมาไม่เป็นไปตามที่หวังนี่ ก็ต้องมีคนรับผิดชอบ ซึ่งผลกระทบที่สามารถเกิดขึ้นได้ในภายหลังก็มีหลายระดับ บางคนอาจจะเป็นเรื่องเล็กน้อย เช่น ความผิดพลาดในการทำศัลยกรรมที่ออกมาไม่เป็นไปตามต้องการ และสามารถแก้ไขได้ บางคนอาจจะทำแล้วมีผลกระทบต่อปัญหาสุขภาพ หรือเกิดผลข้างเคียงตามมา เช่น เป็นแผลเน่า หน้าเละ หน้าย้วย บิดเบี้ยวผิดรูป สารพัดปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นได้ จนถึงขั้นที่ร้ายแรงที่สุด คืออันตรายถึงชีวิตก็เคยมีมาแล้ว
โดยเฉพาะคนที่ไปทำกับหมอเถื่อน หรือหมอกระเป๋า เป็นหมอที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพแพทย์ ซึ่งเป็นการเสี่ยงอันตรายอย่างมาก แต่ก็ยังมีคนไปทำด้วยอยู่ตลอด อาจจะเป็นเพราะการบอกปากต่อปาก และราคาที่ถูกกว่าทำในโรงพยาบาล หรือสถานเสริมความงามที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ดูแล และหากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นจะทำยังไง กรณีแบบนี้ สามารถร้องเรียนได้ต่อแพทย์สภา

หากแพทย์ทำการผ่าตัดโดยไม่ใช้ความระมัดระวังพอ หรือเป็นการทำที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานของวิชาชีพ หรือในกรณีหมอเถื่อนที่ทำลงไปโดยไม่รู้ จนเป็นเหตุให้คนไข้เกิดเสียโฉม ได้รับความเสียหายต่างๆ ตามมา ถือได้ว่าเป็นการกระทำโดยประมาทขาดความระมัดระวัง ซึ่งตามกฎหมายสามารถฟ้องร้องได้ทั้งทางแพ่งและทางอาญา โดยทางอาญามีโทษจำคุกถึง 3 ปีเลยทีเดียวค่ะ ส่วนทางแพ่งนั้นก็สามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายได้ เพราะกฎหมายถือว่าเป็นคดีละเมิดที่ต้องดำเนินการฟ้องร้องเพื่อเรียกค่าเสียหายและสินไหมทดแทน ที่ถูกทำให้เสียโฉมไป ซึ่งการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายนี้ ก็ต้องรีบทำภายใน 1 ปีก่อนที่คดีจะหมดอายุความด้วย

นี่ก็เป็นความรู้เกี่ยวกับกฎหมายสำหรับใครที่ไปทำศัลยกรรมหรือมีโครงการคิดจะทำ ไว้เป็นกรณีศึกษา เผื่อเกิดความผิดพลาดขึ้น จะได้รู้ว่าจะต้องทำยังไงกันบ้าง แต่ยังไงก็ตาม ในการทำศัลยกรรมเราต้องเสี่ยงกับผลข้างเคียงหลายอย่างที่สามารถเกิดขึ้นได้ ทั้งเรื่องความสะอาด ทั้งเรื่องอาการแทรกซ้อนต่างๆ และยังมีปัญหาอื่นๆ อีกหลายอย่าง แต่หากต้องการทำจริงๆ ก็ควรจะศึกษาข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ให้เข้าใจ และเลือกทำศัลยกรรมกับแพทย์เฉพาะทางที่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้โดยตรงจะดีที่สุดเพราะมีประสบการณ์และได้ศึกษาเล่าเรียนมาโดยตรง