เอและบีต่างก็เป็นผู้ค้ำประกันการทำงานของลูกจ้างคนเดียวกันวงเงินรับผิดคนละ 15,000 บาท โดยค้ำประกันต่างวันต่างเวลากัน เมื่อลูกจ้างทำความเสียหายให้แก่นายจ้างเป็นเงิน 60,000 บาท นายจ้างฟ้องลูกจ้างและผู้ค้ำประกันทั้งสองเป็นจำเลยต่อศาลแรงงานให้ลูกจ้างรับผิดในเงินดังกล่าวและให้เอและบีรับผิดรายละ 15,000 บาท เอและบีต้องรับผิดตามฟ้องหรือไม่ เพราะเหตุใด?
เมื่อต้องถามหาความรับผิดของผู้ค้ำประกันหลายคนว่าจะรับผิดอย่างไร การหาคำตอบเรื่องนี้ต้องพึ่งกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เรื่อง ค้ำประกัน ดูซิว่ากำหนดความรับผิดไว้อย่างไร หากกฎหมายกำหนดไว้อย่างไรก็คงต้องเป็นอย่างนั้น
เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่า มาตรา 682 วรรค 2 บอกไว้ว่า ถ้าบุคคลหลายคนยอมตนเข้าเป็นผู้ค้ำประกันในหนี้รายเดียวกันไซร์ ท่านว่าผู้ค้ำประกันเหล่านั้น มีความรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วมกัน แม้ถึงว่าจะมิได้เข้ารับค้ำประกันร่วมกัน เมื่ออ่านกฎหมายแล้วได้ความชัดเจนมากตรงกับคำถามทุกประการเลย มีผู้ค้ำประกัน 2 คนก็ถือว่าหลายคนตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ ค้ำประกันหนี้ลูกจ้างรายเดียวกัน แม้จะต่างคนต่างค้ำกฎหมายก็ถือว่าไม่สำคัญ อย่างไรเสียก็ต้องรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วมกัน ถ้าเช่นนั้น คำตอบก็คือ รับผิดอย่างลูกหนี้ร่วมกัน (ใช่เลย) แล้วลูกหนี้ร่วมคืออะไร (นั่นนะซิ)
สรุปแล้ว เอจะต้องรับผิดเท่าใด บีต้องรับผิดเท่าใด (ยังนึกไม่ออก) ถ้าเช่นนั้นต้องหาต่อไปว่า ลูกหนี้ร่วมคืออะไร (เจออีกแล้ว) มาตรา 291 บัญญัติไว้ว่า ถ้าบุคคลหลายคนต้องทำการชำระหนี้โดยทำนองซึ่งแต่ละคนจำต้องชำระหนี้โดยสิ้นเชิงไซร์ แม้ถึงว่าเจ้าหนี้ชอบที่จะได้รับชำระหนี้สิ้นเชิงได้แต่เพียงครั้งเดียว (กล่าวคือลูกหนี้ร่วมกัน) ก็ดี เจ้าหนี้จะเรียกชำระหนี้จากลูกหนี้แต่คนใดคนหนึ่งสิ้นเชิง หรือแต่โดยส่วนก็ได้ตามแต่จะเลือก แต่ลูกหนี้ทั้งปวงก็ยังคงผูกพันอยู่ทั่วทุกคนจนกว่าหนี้นั้นจะได้ชำระเสร็จสิ้นเชิง (เข้าใจยากนะ) เห็นด้วยนะว่าเข้าใจยากต้องช่วยกันแปลไทยเป็นไทยเผื่อจะเข้าใจดีขึ้น เมื่อแปลแล้วก็สรุปได้ความว่าลูกหนี้ร่วม คือ มีหนี้ที่ลูกหนี้หลายคนต้องชำระโดยสิ้นเชิง ลูกหนี้คนใดคนหนึ่งอาจถูกบังคับให้ชำระหนี้ได้ทั้งหมดหรือเพียงบางส่วนก็ได้ (ตามแต่เจ้าหนี้จะเห็นสมควร) มาดูข้อเท็จจริงตามปัญหาลูกจ้างทำความเสียหายให้นายจ้างเป็นเงิน 60,000 บาท ตามกฎหมายลูกจ้างตกเป็นลูกหนี้ต้องชำระหนี้ให้นายจ้างจำนวน 60,000 บาทแน่นอน (นี่ซิเข้าใจง่าย) ส่วนเอกับบีเป็นผู้ค้ำประกันโดยทำสัญญารับผิดไว้คนละ 15,000 บาท ดังนั้น เอและบีจึงตกอยู่ในฐานะผู้ที่จะถูกบังคับให้ชำระหนี้ได้โดยสิ้นเชิงตามที่กฎหมายกำหนด เอกับบีจึงเป็นลูกหนี้ร่วมกัน (กฎหมายบอกไว้อย่างนั้น) แต่เอต้องรับผิด 15,000 บาท บีต้องรับผิด 15,000 บาท รวมเป็นเงิน 30,000 บาท ตามที่นายจ้างอ้างหรือไม่ ถ้าต้องรับผิดก็น่าจะตรงไปตรงมาดีเพราะสัญญาเขียนไว้เช่นนั้น แล้วมีปัญหาอะไรหรือ ปัญหามีอยู่ว่าถ้าต่างคนต่างรับผิดสัญญาใครสัญญามันก็ไม่เรียกว่าลูกหนี้ร่วมกันนะซิ เอกับบีจึงต้องรับผิดร่วมกัน (ช่วยๆกันชำระห้ามเกี่ยงกัน) วงเงินไม่เกิน 15,000 บาท ที่ว่ารับผิดร่วมกันก็หมายความว่าแล้วแต่เจ้าหนี้เขาจะเรียกให้แต่ละคนชำระหนี้อย่างไรก็ได้ เช่น เจ้าหนี้อาจเรียกให้เอชำระคนเดียวทั้งหมด 15,000 บาท ไม่เรียกให้บีชำระเลยก็ได้ หรือจะเรียกให้เอชำระบางส่วนบีชำระบางส่วนก็ได้ ดังนั้น ความรับผิดของเอและบีจึงรวมกันไม่เกิน 15,000 บาท ไม่ใช่รวมกันไม่เกิน 30,000 บาท อย่างที่นายจ้างเข้าใจ (ฎีกาที่ 4200/2536,2243/2536)
Mono Mobile
แหล่งรวบรวมคอนเทนต์คุณภาพ ทั้งในรูปแบบวิดีโอคลิป สามารถดูได้ทุกที่ ทุกเวลาตลอด 24 ชั่วโมง รองรับการใช้งานหลากหลายอุปกรณ์
Mono Technology
อาคารจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล ทาวเวอร์ เลขที่ 200 หมู่ 4 ถนนแจ้งวัฒนะ ปากเกร็ด นนทบุรี 11120 เบอร์โทร 021007007
TAGS
บันเทิง, ข่าวสาร, ก็อซซิป, คลิปตลก, คลิปเด็ด, ดูดวง, เพลงฮิต, เกม, ความรัก, กีฬา