คดี ทะเลาะวิวาทในสังคมไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนข้างบ้าน หรือพวกที่นั่งดื่มสุราในผับหรือสถานบริการ เมื่อดื่มสุราเข้าไปแล้วควบคุมสติอารมณ์ไม่ได้ มีการลงไม้ลงมือกัน หรือโต้เถียงกัน บางครั้งมีการใช้อาวุธทำร้ายร่างกายหรือฆ่ากันตาย รวมถึงมีการหมิ่นประมาท ด่าทอกัน ทนายคลายทุกข์ได้รับเรื่องร้องเรียนทุกวันเช่นกัน จึงขอให้คำแนะนำผู้ที่มีส่วนได้เสียเกี่ยวกับคดีทะเลาะวิวาทดังนี้

1. เมื่อเกิดเหตุต้องจดจำรายละเอียดเกี่ยวกับคู่กรณี เพื่อเตรียมข้อมูลในการร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนในทันทีทันใดที่เกิดเหตุ ในทางปฏิบัติถ้าไปแจ้งความช้า แต่ตำรวจมักจะแต่งตั้งให้เป็นผู้ต้องหาตลอด ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุต้องรีบไปโรงพักโดยทันที จะได้อยู่ในตำแหน่งของผู้เสียหาย จะได้เปรียบกว่าการเป็นผู้ต้องหา

2. การจัดเตรียมพยานบุคคล พยานวัตถุเพื่อประกอบการดำเนินคดี ควรจะถ่ายภาพที่เกิดเหตุ ให้ละเอียด พร้อมหาพยานบุคคลที่รู้เห็นเหตุการณ์ และรีบนำไปให้การต่อพนักงานสอบสวนโดยทันที รวมทั้งขอเบอร์โทรศัพท์หรือที่อยู่โดยละเอียดของพยานไว้เพื่อติดต่อมาช่วย เหลือท่านในชั้นศาล ซึ่งในทางปฏิบัติพยานที่รู้เห็นมักไม่อยากเกี่ยวข้องกับคดี ซึ่งส่งผลให้พยานหลักฐานอ่อนและเจ็บตัวฟรี

3. ในกรณีได้รับบาดเจ็บจากการ ทะเลาะวิวาท เมื่อไปโรงพักแล้วให้ขอใบส่งตัวจากตำรวจเพื่อนำไปมอบให้กับแพทย์ในการ ชันสูตรบาดแผล หลักฐานการชันสูตรเป็นหลักฐานสำคัญในคดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งระยะเวลาในการรักษาพยาบาล ถ้าเกิน 20 วัน พนักงานสอบสวนจะแจ้งข้อหาผู้กระทำความผิดหนักกว่าเดิม เป็นทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้ได้รับอันตรายสาหัส ตาม ป.อ.มาตรา 297 ซึ่งมีโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสิบปี แต่ถ้ารักษาตัวไม่ถึง 20 วัน จะถูกตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายตามป.อ. มาตรา 295 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี เบากว่ากันเยอะ

เมื่อมีเรื่องทะเลาะวิวาทอย่า ตกใจหรือหลบหนี ควรเข้ามอบตัวและแจ้งความกับตำรวจไว้ก่อน จะเป็นประโยชน์มากกว่าการหลบหนี ซึ่งจะถูกกฎหมายสันนิษฐานว่าเป็นผู้กระทำความผิด