เมื่อศาลสั่งให้บุคคลนั้นเป็นคนสาบสูญ กฎหมายถือว่าบุคคลนั้นได้ถึงแก่ความตายหรือสิ้นสุดสภาพบุคคลแล้ว เมื่อครบกำหนดระยะเวลา 5 ปีหรือ 2 ปี ที่บุคคลนั้นหายออกไปจากบ้านแล้วแต่กรณี ในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยา เป็นเรื่องพิเศษ เพราะการสาบสูญไม่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาสิ้นสุด เพราะประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1501 บัญญัติว่า “การสมรสย่อมสิ้นสุดลงด้วยความตาย การหย่า หรือศาลพิพากษาให้เพิกถอน” ส่วนการสาบสูญนั้นไม่ได้มีบัญญัติไว้ว่าให้การสมรสสิ้นสุดลง และตามกฎหมายนั้นคนสาบสูญ กฎหมายถือเสมือนหนึ่งว่าเค้าตาย จึงไม่ใช่กรณีตายจริงๆ เป็นเพียงตายตามผลของกฎหมาย เนื่องจากคนสาบสูญเค้าอาจกลับมาแสดงตัวตนและร้องเพิกถอนคำสั่งศาลที่ให้เป็นคนสาบสูญได้

แต่อย่างไรก็ตาม กฎหมายได้กำหนดไว้ให้การสาบสูญเป็นเหตุให้คู่สมรสฟ้องหย่าได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1516 (5) สามีหรือภริยาถูกศาลสั่งเป็นคนสาบสูญ หรือไปจากภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่เป็น เวลาเกินสามปี โดยไม่มีใครทราบแน่ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้ อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้

ดังนั้นถ้าเราอยากต้องการขาดจากการสมรส เช่น ต้องการสมรสใหม่เราต้องฟ้องหย่าเสียก่อน เมื่อฟ้องหย่าแล้วศาลมีคำพิพากษาให้หย่า เราก็เอาคำพิพากษาไปจดทะเบียนหย่า แต่ถ้าเราไม่ทำเช่นนี้ก่อน การสมรสครั้งหลังจะกลายเป็นสมรสซ้อนทันที