ใครที่ได้รับรางวัลจากการชิงโชคภายในปี 2553 ต้องนำรายได้มาคำนวณภาษีเงินได้ที่คนไทยต้องจ่ายภายในเดือนมีนาคม 2554 นี้แล้วนะครับ หลายคนอาจจะสงสัยว่า ...เงินหรือของรางวัลที่ได้จากการชิงโชคต้องเสียภาษีอีกหรือคะ (ครับ)? และจ่ายกันแค่ไหน?อย่างไร?

เบื้องต้น...หักภาษี ณ ที่จ่าย 5 %

เมื่อคุณผู้อ่านได้รับรางวัลจากการประกวดแข่งขันหรือชิงโชคเป็นสิ่งของ เงิน ทองคำ ฯลฯ พื้นฐานเลยนะครับว่า คุณผู้อ่านจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย ร้อยละ 5 จากมูลค่าของสิ่งของที่ได้รับเป็นเงินรางวัล เช่น สมมุติว่าคุณผู้อ่านได้ของรางวัลมูลค่า 1,000,000 บาท คุณผู้อ่านก็จะถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายเป็นจำนวน 50,000 บาทครับผม

ยื่นแบบคำนวณภาษี...ภายในมี.ค. ปีถัดไป

หลังจากที่คุณผู้อ่านได้สิ่งของหรือเงินรางวัลมาครอบครองแล้ว ใช่ว่าทุกอย่างจะจบแค่นั้นนะครับเพราะผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลเงินสดหรือของ รางวัลจากการประกวดแข่งขันหรือชิงโชคนั้น รางวัลที่ได้รับถือเป็นเงินได้ตามมาตรา 40(8) แห่งประมวลรัษฎากร ดังนั้นคุณผู้โชคดีมีหน้าที่ต้องนำมูลค่าของรางวัลที่ได้รับไปยื่นแบบแสดง รายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี ด้วยแบบฯ ภ.ง.ด.90 รวมกับเงินได้ประเภทอื่น ๆ (ถ้ามี) ภายในเดือนมี.ค. ของปีถัดไปครับผม

รางวัลมูลค่าสูง...ต้องเสียภาษีเยอะ

เงินรางวัลหรือมูลค่าของรางวัลจะถูกนำไปรวมเป็นเงินได้ในการคำนวณภาษีครับ ซึ่งถ้าเอาไปรวมแล้วไม่มากมายอะไร รัฐก็จะไม่เข้าไปยุ่งวุ่นวายกับคุณเท่าไรนัก ซึ่งเมื่อคุณยื่นแบบแสดงภาษีไปแล้วกรมสรรพากรก็จะพิจารณาว่าต้องเสียภาษี เพิ่มเติมหรือได้รับเงินคืนจากภาษีที่หักไว้ ณ ที่จ่ายซึ่งหากคำนวณสุทธิโดยหักค่าลดหย่อนต่างๆ แล้ว

- หากมีเงินได้ทั้งปีโดยหักค่าลดหย่อนแล้วมีเงินได้สุทธิ 1-150,000 บาท ไม่ต้องเสียภาษีครับ
- หากมีเงินได้ทั้งปีโดยหักค่าลดหย่อนแล้วมีเงินได้สุทธิ 150,001 - 500,000 บาท เสียภาษีร้อยละ 10 ของเงินได้
- หากมีเงินได้ทั้งปีโดยหักค่าลดหย่อนแล้วมีเงินได้สุทธิ 500,001 - 1,000,000 บาทเสียภาษีร้อยละ 20 ของเงินได้
- หากมีเงินได้ทั้งปีโดยหักค่าลดหย่อนแล้วมีเงินได้สุทธิ 1,000,001 - 4,000,000 บาท เสียภาษีร้อยละ 30 ของเงินได้
- หากมีเงินได้ทั้งปีโดยหักค่าลดหย่อนแล้วมีเงินได้สุทธิ 4,000,001 บาทขึ้นไป เสียภาษีร้อยละ 37 ของเงินได้

เด็กน้อยได้รางวัลเยอะๆ...ก็ต้องจ่าย

กรณีที่เป็นข่าวขึ้นมาเมื่อปีก่อนก็คงไม่พ้นเรื่องของน้องปลายฟ้าอายุไม่กี่ ขวบที่ส่งไปรษณียบัตรไปตั้งชื่อหมีแพนด้าที่จังหวัดเชียงใหม่จนได้รางวัล เป็นมูลค่า 1,600,000 ต้องไปเสียภาษีเป็นเงิน 270,000 บาท แบบนี้แหละครับที่พูดกันตรงๆ ว่า ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่เมื่อมีเงินได้ก็ต้องเสียภาษีทั้งนั้นโดยหากผู้โชคดี เป็นผู้เยาว์ ให้ถือเป็นหน้าที่ของผู้แทนโดยชอบธรรม ได้แก่ บิดา มารดา หรือผู้ปกครอง ต้องทำหน้าที่ยื่นแบบและชำระภาษีแทนครับผม

ระวังมิจฉาชีพ...หลอกว่าได้รางวัล

บ้านเรามีการแจกโชคชิงรางวัลกันอยู่เสมอ ก็เลยกลายเป็นเครื่องมือของมิจฉาชีพที่หลายครั้งได้ยินข่าวว่ามักจะโทรศัพท์ ไปยังเหยื่อบอกว่าเหยื่อเป็นผู้โชคดีได้รับรางวัลเป็นอะไรก็ว่าไป แต่ต้องเสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย โดยให้โอนเงินเข้า ATM หรือบัญชีธนาคารในนามส่วนตัว อย่าไปเชื่อนะครับ เพราะหากคุณผู้อ่านได้รับการแจกรางวัลจริงๆ ทางบริษัทจะติดต่อมาเองครับพร้อมกับบอกให้คุณผู้อ่านนำเงินสดหรือแคชเชียร์ เช็คมาชำระภาษีหัก ณ ที่จ่าย 5% ตามมูลค่าของรางวัลที่คุณได้รับ และจำไว้เลยนะครับว่าบริษัทจะให้ท่านนำมาชำระ ณ สถานที่ที่คุณได้รับรางวัลเพื่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์ และหากบางบริษัทจำเป็นต้องให้คุณผู้อ่านชำระเงินภาษีของรางวัล ก็จะต้องเป็นการชำระยังบริษัทไม่ใช่ในนามส่วนตัว และพร้อมกันนั้นต้องทำการส่งมอบทรัพย์สินหรือเงินรางวัลแล้วเท่านั้นนะครับ
บนโลกใบนี้ไม่มีอะไรเป็นของฟรีอย่างร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ ทุกอย่างต้องจ่ายทั้งนั้น จะมากหรือน้อยหรือจ่ายด้วยอะไรเป็นอีกเรื่องหนึ่งครับ