คนไทยต้องยอมรับความจริงอยู่ประการหนึ่งนะครับว่าทุกวันนี้สังคมไทยเรามี ความแตกต่างทางความคิดเชิงการเมืองแบบแยกขั้วกันอย่างเห็นได้ชัดเจนเลยนะ ครับ แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าสังคมไทยเราจะมีความแตกแยกกันจนพูดคุยเรื่องการเมือง กันไม่ได้นะครับ เพียงแต่ว่าเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองเมื่อเดือนพฤษภาคม 2553 ทิ้งข้อสังเกตให้คนไทยต้องช่วยกันหาทางออกให้บ้านเราเมืองเรา อย่างน้อยที่สุดซากปรักหักพังและร่องรอยของไฟไหม้ห้างสรรพสินค้า ตึกแถวในย่านธุรกิจสำคัญกลางเมืองของกรุงเทพฯ ก็คงจะทำให้หลายฝ่ายคิดตรึกตรองก่อนจะใช้ความรุนแรงกันบ้างนะครับ

พูดถึงเรื่องซากปรักหักพังและร่องรอยเพลิงไหม้ทรัพย์สินต่างๆ ทำให้ผมอยากเขียนถึงกฎหมายประกันภัยทรัพย์สิน โดยเฉพาะการประกันภัยที่เกี่ยวข้องกับอัคคีภัยที่หลายคนเริ่มถามถึงว่ามี ความจำเป็นไหม? แล้วมันคุ้มครองอะไรแบบไหนบ้าง เพราะมีการรับทราบผ่านสื่อมาตลอดว่าอาจจะไม่คุ้มครองภัยก่อการร้ายหรือจลาจล ข้อเท็จจริงทางกฎหมายเป็นอย่างไร เราจะคุยกันใน Lisa ฉบับนี้ครับ

ประกันภัยทรัพย์สิน...คืออะไร

ส่วนใหญ่เรามักจะคุ้นเคยการทำประกันภัยส่วนบุคคลประเภทการประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันอวัยวะบางส่วนที่เราเห็นว่ามีความสำคัญ เช่น ประกันขา ประกันน่องเรียวยาวคู่สวยที่คุณนางแบบอาจใช้ทำมาหากิน ประกันดวงตาแสนหวาน ฯลฯ ฉันใดฉันนั้นครับ ประกันภัยทรัพย์สิน ก็หมายถึง การประกันภัยที่มีทรัพย์เป็นวัตถุที่เอาประกัน รวมถึงความเสียหายในทางทรัพย์สินซึ่งหมายถึงสิทธิหรือประโยชน์ที่กฎหมาย รับรอง เช่น สิทธิตามสัญญาเช่าหรือสิทธิครอบครองซึ่งเป็นสิทธิ์ที่กฎหมายรับรองการประกัน ภัยเกี่ยวกับทรัพย์และความเสียหายในทางทรัพย์สินนั้น โดยทรัพย์สินนั้นอาจเกิดความชำรุดเสียหาย หรือถูกวางเพลิง ฯลฯ ซึ่งค่าตอบแทนความเสียหายต่างๆ ก็จะขึ้นอยู่กับกรมธรรม์หรือข้อสัญญาประกันภัยนั้นๆ ครับ

ประกันอัคคีภัย...คุ้มครองอะไรบ้าง?

การประกันอัคคีภัยให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อทรัพย์สินจากภัย พื้นฐานต่าง ๆ ดังนี้  ไฟไหม้ ฟ้าผ่า  แรงระเบิดของแก๊สเพื่อแสงสว่าง (หุงต้ม) หรือแก๊สที่ใช้ประโยชน์เพื่อการอยู่อาศัยเท่านั้นแต่ไม่รวมถึงความเสียหาย จากการระเบิดของแก๊สจากแผ่นดินไหว รวมทั้งความเสียหายเนื่องจากภัยเพิ่มพิเศษที่ได้ระบุไว้ชัดเจนในกรมธรรม์ ประกันภัยครับ นอกจากนี้ยังคุ้มครองไปถึง ความเสียหายที่สืบเนื่องจากไฟไหม้ (ความเสียหายจากน้ำที่ใช้ดับไฟ จากเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ความเสียหายจากควัน หรือการถูกความร้อนจากเปลวเพลิงลนจนเกรียม ความเสียหายที่ถูกระเบิดเพื่อป้องกันมิให้ไฟขยายตัวต่อไป ความเสียหายจากสิ่งของที่หล่นลงมาใส่ทรัพย์ที่เอาประกันเนื่องจากเหตุไฟ ไหม้)ความเสียหายที่เกิดขึ้นโดยตรงหรือสืบเนื่องมาจากฟ้าผ่า ไม่ว่าจะมีไฟเกิดขึ้นหรือไม่ก็ตาม ย่อมได้รับความคุ้มครองจากกรมธรรม์ประกันอัคคีภัยทั้งนั้นครับ

ไม่คุ้มครอง...สงครามกลางเมือง

การประกันอัคคีภัยไม่คุ้มครองหลายอย่างเหมือนกันนะครับ แต่ที่ผมเห็นว่าน่าสนใจและน่าจะเกี่ยวข้องกับคุณผู้อ่านเพื่อให้ตะหนักไว้ ว่ากรมธรรม์จะไม่คุ้มครองความเสียหายซึ่งเกิดจากสงครามหรือการกระทำที่มุ่ง ร้ายคล้ายสงคราม ไม่ว่าจะได้มีการประกาศสงครามหรือไม่ก็ตาม สงครามกลางเมือง การจลาจล การนัดหยุดงาน การก่อความวุ่นวาย การกระทำของผู้ก่อการร้าย ปฏิวัติ รัฐประหาร การประกาศกฎอัยการศึกหรือเหตุการณ์ใด ๆ ซึ่งจะเป็นเหตุให้มีการประกาศหรือคงไว้ซึ่งกฎอัยการศึก (อันนี้แหละครับที่เป็นปัญหาของผู้ได้รับความเสียหายจากเหตุความไม่สงบเมื่อ เดือน พ.ค. 2553)

หรือแม้แต่เงินแท่ง เงินรูปพรรณ ทองคำแท่ง ทองรูปพรรณ หรืออัญมณี ต้นฉบับหรือสำเนาเอกสาร ภาพเขียน  โบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุ (สำหรับความเสียหายรวมต่อโบราณวัตถุส่วนที่เกินกว่า 10,000 บาท) หรือเงินตรา ธนบัตร เช็ค สมุดบัญชี หรือสมุดหนังสือเกี่ยวกับธุรกิจใด ๆ อันนี้ก็ไม่คุ้มครองนะครับ

นอกเหนือจากนี้หากผู้เอาประกันภัยต้องการความคุ้มครองเพิ่มเติมจากพื้นฐาน หรือต้องการความคุ้มครองในเหตุข้อยกเว้นข้างต้น คุณก็สามารถซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมได้โดยต้องจ่ายเบี้ยประกันภัยเพิ่ม ครับ แต่กระซิบไว้นิดหนึ่งว่าราคาค่อนข้างจะสูงนะครับ ซึ่งหากเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ก็มักจะยินดีจ่ายเบี้ยประกันสูงๆ เพื่อคุ้มครองธุรกิจที่จะทำรายได้ให้เขาต่อไป ซึ่งอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับการคำนึงถึงผลได้ผลเสียของแต่ละธุรกิจครับ