ประเทศไทยเรายังได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำ ท่วมครอบคลุม 51 จังหวัดไล่มาตั้งแต่ภาคเหนือตอนล่าง ภาคอีสานที่จมอยู่ใต้น้ำมาเกือบ 2 อาทิตย์ ภาคกลางแถบอยุธยา ชัยนาท อ่างทอง ลพบุรี สระบุรี จนกระทั่งพายุดีเปรสชั่นพัดผ่านภาคใต้ ฝนตกติดต่อกันสองสามวันจนทำให้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ในเมืองหาดใหญ่ จ.สงขลา ไล่ไปถึงตัวเมืองสงขลา พัทลุง ยะลา นครศรีธรรมราช สุราษฎรธานี ตรัง ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ สร้างความเสียหายต่อชีวิต บ้านเรือนและทรัพย์สิน เรือกสวน ไร่นา สวนยางพารา ฯลฯ ของพี่น้องประชาชนจนไม่สามารถประเมินค่าได้เลยนะครับ

น้ำท่วม...ผู้คนเดือดร้อน

คงไม่มีใครเถียงหรอกนะครับว่าสิ่งที่มีค่ามากที่สุดก็คือ ชีวิตมนุษย์ ดังนั้นปฏิบัติการช่วยชีวิตผู้คนที่ติดอยู่บนหลังคาบ้าน ดาดฟ้าตึก  และบนต้นไม้ คือภาพที่เราเห็นและสะเทือนใจในเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 พ.ย.53 สำนักป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน เขาสรุปยอดน้ำท่วมเบื้องต้นของภาคอีสาน กลาง เหนือพบว่า มีผู้เดือดร้อน 1,685,019 คน เสียชีวิต 110 ราย ภาคเกษตรเสียหายกว่า 4,104,313 ไร่

น้ำท่วม...ทรัพย์สินเสียหาย

อีกภาพหนึ่งที่เห็นแล้วก็นึกเสียดายและสงสารเจ้าของทรัพย์สิน นั่นก็คือบรรดารถยนต์ที่จมน้ำนับร้อยนับพันคัน อย่างที่อำเภอหาดใหญ่ชาวบ้านพยายามนำรถไปจอดในบริเวณพื้นที่สูงๆ ก็ไม่รอดพ้นจากการถูกน้ำท่วม ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) สรุปตัวเลขความเสียหายจากเหตุน้ำท่วม 51 จังหวัดทั่วประเทศใน วันที่ 2 พ.ย.2553 พบว่ามีความเสียหายของรถยนต์คิดเป็นมูลค่าความเสียหายประมาณ 92 ล้านบาท ส่วนการประกันอัคคีภัยและการประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน ได้รับรายงานความเสียหายของทรัพย์สิน คิดเป็นมูลค่าความเสียหายประมาณ 558 ล้านบาท อันนี้แค่เบื้องต้นนะครับ ยังต้องมีการสรุปความเสียหายทั้งหมดอีก

ประกันภัยน้ำท่วม...ประกันภัยทรัพย์สิน

หลังจากเกิดเหตุน้ำท่วมและทรัพย์สินเสียหาย หลายคนก็ถามถึงเรื่องของการประกันภัยทรัพย์สินซึ่งก็คือการประกันภัยที่มี ทรัพย์เป็นวัตถุที่เอาประกันรวมถึงความเสียหายในทางทรัพย์สินซึ่งหมายถึง สิทธิหรือประโยชน์ที่กฎหมายรับรอง เช่น สิทธิตามสัญญาเช่าหรือสิทธิครอบครองซึ่งเป็นสิทธิที่กฎหมายรับรองการประกัน ภัยเกี่ยวกับทรัพย์และความเสียหายในทางทรัพย์สินนั้น เช่น ถ้าทรัพย์สินนั้นชำรุดเสียหาย ถ้าทรัพย์สินนั้นถูกน้ำท่วมฯลฯ ซึ่งค่าตอบแทนความเสียหายต่างๆ ก็จะขึ้นอยู่กับกรมธรรม์หรือข้อสัญญาประกันภัยนั้นๆ ครับ

น้ำท่วม...ประกันแบบไหนที่ครอบคลุม

ต้องเรียนอย่างนี้นะครับว่า ความเสียหายที่มีต่อรถยนต์ บ้านเรือนหรือชีวิตของผู้ที่ได้ทำประกันภัยนั้นขึ้นอยู่กับเงื่อนไขในข้อ สัญญาประกันภัย เช่น รถยนต์ที่ทำประกันภัยประเภท 1 ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมจะได้รับความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้น ทั้งหมด และถ้ารถยนต์เสียหายจนไม่สามารถซ่อมได้หรือประเมินมูลค่าความเสียหายตั้งแต่ ร้อยละ 70 ของมูลค่ารถ บริษัทประกันภัยจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนเต็มจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ระบุไว้ ส่วนกรณีที่รถเลื่อนไถลไปชนรถคันอื่นได้รับความเสียหายนั้น กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจทุกประเภทจะให้ความคุ้มครองค่าเสียหายแก่ คู่กรณี

สำหรับการประกันชีวิต การประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล การประกันภัยสุขภาพ โดยเฉพาะการประกันภัยทรัพย์สิน เช่น การทำประกันอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัย ซึ่งได้ซื้อความคุ้มครองภัยน้ำท่วมไว้ หรือการประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน (IAR) ผู้เอาประกันภัยจะได้รับความคุ้มครองความเสียหายจากภัยน้ำท่วมด้วย

กันไว้ดีกว่าแก้...แนะซื้อประกันรวมมิตร

สำหรับคุณที่เห็นถึงพิษภัยของธรรมชาติที่มีแนวโน้มสร้างความเสียหายมากขึ้นเรื่อยๆ นั้น ผู้รู้ด้านประกันวินาศภัยเขาแนะนำเจ้าของที่อยู่อาศัยซื้อแพ็กเกจประกันภัย ที่ครอบคลุมความคุ้มครองไฟไหม้ โจรกรรม น้ำท่วม และอุบัติเหตุที่เกิดภายในบ้าน เนื่องจากราคาเบี้ยประกันภัยจะถูก เมื่อเทียบกับการแยกซื้อแต่ละประเภทความคุ้มครอง โดยราคาจะขึ้นอยู่กับที่ตั้งและประเภททรัพย์สินของท่านครับ

สำหรับคุณที่ทำประกันทรัพย์สินไว้แล้วได้รับความเสียหายขอให้รีบแจ้งให้บริษัทประกัน ภัยทราบโดยทันทีนะครับ นอกจากนี้หากมีข้อสงสัย คปภ. เขาให้คุณสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนประกันภัย 1186 ทั่วประเทศได้เลยครับ