เมื่อคิดจะเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อ…เปลี่ยนนามสกุล

Week5 Content1

และแล้วคุณผู้หญิงไทยทั้งประเทศก็ได้เฮเมื่อ พ.ร.บ.คำนำหน้านามหญิง พ.ศ. 2551 ประกาศใช้ไปแล้วเมื่อ วันที่ 4 มิ.ย.2551 ที่ผ่านมา เรื่องนี้มีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยครับ แล้วต่างฝ่ายก็แสดงความคิดเห็นถึงข้อดีข้อเสีย ซึ่งก็ว่ากันไปครับ แต่เมื่อ ณ วันนี้มีการตราออกมาเป็นกฎหมายบังคับใช้แล้ว ผมคิดว่าสิ่งที่คุณควรจะทราบไว้คือเนื้อหาสาระและวิธีการปฏิบัติเมื่อคุณคิดอยากจะเปลี่ยนคำนำหน้านาม หรือแม้แต่คุณผู้หญิงที่กำลังจะแต่งงานมีวิธีการใช้นามสกุลได้กี่แบบ เหล่านี้คือเนื้อหาสาระที่เป็นประโยชน์ทั้งคุณผู้หญิงและคุณผู้ชายด้วยนะครับ

 

 

ทำไมต้องมี...ก.ม.ฉบับนี้

หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมต้องมีการตรากฎหมายฉบับนี้ออกมาบังคับใช้ด้วย ในเมื่อใครที่อยากเป็นนางสาวไปตลอดก็ต้องแลกเปลี่ยนด้วยความอดทนไม่ต้องแต่งงานสิ หรือหากแต่งงานแล้วก็ไม่ต้องจดทะเบียนสมรสสิ ง่ายนิดเดียว แต่คุณผู้อ่านครับเมื่อสภาพสังคมไทยเปลี่ยนแปลงรวดเร็วปรู้ดปร้าด คุณผู้หญิงทั้งหลายเธอไม่ได้เพียงแค่มีหน้าที่เป็นช้างเท้าหลังคอยเดินตามสามีอีกต่อไป เพราะบทบาทของผู้หญิงไทยมีมากขึ้น โดยเฉพาะการออกไปทำงานนอกบ้าน การจัดการดูแลธุรกิจการค้าที่อาปา อาม้าส่งต่อธุรกิจมาให้ สารพัดการงานและสารพัดความรับผิดชอบของผู้หญิงไทยสมัยนี้ครับ แต่เมื่อเธอมีเรื่องของหัวใจเข้ามาเกี่ยวข้องในชีวิต จนทำให้เธอตัดสินใจแต่งงานแต่งการไป การจดทะเบียนสมรส การเปลี่ยนนามสกุล ก็ทำให้เธออาจเกิดปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวัน เช่นการไปสมัครงาน เขาก็อยากจะรับแต่คนที่เป็นนางสาว หรือการทำนิติกรรมสัญญาต่าง ๆ ก็พลอยวุ่นวายไปด้วย

แล้วยิ่งสำหรับคุณผู้หญิงที่จดทะเบียนสมรส แต่ต่อมานาวารัก นาวาครอบครัวไปไม่ตลอดรอดฝั่ง เกิดอาการเตียงหักหย่าร้างกันขึ้น สถานภาพคำว่า นางก็ยังติดตัวเธอ จนทำให้เธอเสียโอกาสหลายอย่างในชีวิตของเธอไป เช่น อาจจะพลาดโอกาสได้เจอผู้ชายที่จะเข้ามาดูแลชีวิตของเธอ หรือพลาดโอกาสในเรื่องการงาน การทำนิติกรรมสัญญาก็ยุ่งยาก ซึ่งลักษณะแบบนี้แหละครับที่กฎหมายต้องมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย เพราะที่ผ่านมาเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคลเพราะเหตุแห่งความ แตกต่างทางเพศ ดังนั้นผู้หญิงจึงควรมีทางเลือกในการใช้คำนำหน้านามตามความสมัครใจ แถมยังเป็นการสอดคล้องกับการเลือกใช้นามสกุลตามกฎหมายว่าด้วยชื่อบุคคลที่เปลี่ยนแปลงไปแล้วครับ

ทางเลือก...เรื่องใช้นามสกุล

กฎหมายใหม่ในเรื่องของการเลือกใช้นามสกุลนั้นเขาให้สิทธิคุณสามีและคุณภรรยา ทำข้อตกลงกันในการใช้นามสกุลครับ โดยสามีภรรยามีสิทธิใช้ชื่อสกุลของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตามที่ตกลงกัน ถ้าไม่มีการตกลงกัน ให้ต่างฝ่ายต่างใช้นามสกุลเดิมของตน การตกลงกันนี้สามีภรรยาจะกระทำเมื่อมีการสมรสหรือในระหว่างสมรสก็ได้ หรือจะตกลงเปลี่ยนแปลงภายหลังก็ได้ ซึ่งจะทำให้เกิดลักษณะการใช้นามสกุลของคู่แต่งงานได้ 4 แบบ ดังนี้นะครับคุณผู้อ่าน (ไปพิจารณาเลือกใช้ตามชอบ)

 1. ชายใช้นามสกุลชาย + หญิงใช้นามสกุลหญิง (คงนามสกุลเดิมทั้งคู่)

 2. ชายใช้นามสกุลชาย + หญิงใช้นามสกุลชาย (รูปแบบเดิมคือหญิงเปลี่ยน/ชายไม่เปลี่ยน)

 3. ชายใช้นามสกุลหญิง + หญิงใช้นามสกุลหญิง (ชายเปลี่ยน/หญิงไม่เปลี่ยน)

 4. ชายใช้นามสกุลหญิง + หญิงใช้นามสกุลชาย (สลับนามสกุลกัน)

ส่วนคู่สมรสที่ไม่อยากให้ฝ่ายใดเกิดอาการน้อยเนื้อต่ำใจ ก็อาจจะใช้ทั้งสองนามสกุลนั่นแหละครับ อย่างไรก็ตามกฎหมายในเรื่องการใช้นามสกุลแบบควบสองไปเลยยังไม่มี แต่ให้สิทธิคุณนำเอานามสกุลของสามีหรือภรรยามาเป็นชื่อรอง แต่ฝ่ายสามีหรือภรรยาของคุณต้องให้ความยินยอมกับคุณด้วยนะครับ แล้วคุณก็ยื่นคำร้องขอเพิ่มชื่อรองได้ที่เขตหรืออำเภอที่คุณมีทะเบียนบ้านอยู่ เท่านี้ก็ได้นามสกุลของอีกฝ่ายหนึ่งเป็นชื่อรองแล้วครับ

แต่งงานไปนานแล้ว...ก็เปลี่ยนกลับมาได้

ในกรณีของคุณผู้หญิงซึ่งแต่งงานไปแล้วและใช้นามสกุลของสามีอยู่แล้ว หากต้องการใช้นามสกุลของสามีต่อไป สามารถใช้นามสกุลของสามีต่อไปได้โดยอัตโนมัติเลยครับ ส่วนคุณภรรยาที่จดทะเบียนแล้วและใช้นามสกุลของคุณสามีอยู่ แต่อยากกลับไปใช้นามสกุลเดิมของตนสามารถยื่นคำร้องขอเปลี่ยนนามสกุลได้ที่เขตหรืออำเภอที่คุณมีทะเบียนบ้าน เช่นเดียวกับคุณภรรยาที่ใช้นามสกุลตามกำเนิดของตนเองเป็นนามสกุลหลังสมรส แต่อยากเปลี่ยนมาใช้นามสกุลของคุณสามีบ้าง ก็สามารถเปลี่ยนได้ โดยยื่นคำร้องขอเปลี่ยนนามสกุลได้ที่เขตหรืออำเภอที่คุณมีทะเบียนบ้านอยู่นั่นแหละครับ

ผลของ...พ.ร.บ.คำนำหน้านามหญิง

กลับมาถึงเรื่อง พรบ.คำนำหน้านามหญิง พ.ศ. 2551 นะครับ ถามว่าเมื่อมี พ.ร.บ.ฉบับนี้จะส่งผลต่ออะไรบ้างก็ง่าย ๆ ครับ คือคราวนี้คุณผู้หญิงที่จดทะเบียนสมรสแล้ว ก็มีสิทธิส่วนบุคคลที่จะยังคงเลือกใช้คำนำหน้านามของตนเอง ว่าเป็น "นางสาว" ได้ตลอดไป และถึงแม้ว่าแต่เดิมใช้คำนำหน้านามว่า "นาง" อยู่ก่อนแล้วหากต่อมาเมื่อการสมรสสิ้นสุดลง ไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม ก็สามารถที่จะกลับมาเลือกใช้คำนำหน้านามว่าเป็น "นางสาว" เมื่อใดก็ได้ ทั้งนี้เพียงแต่แจ้งให้นายทะเบียนที่อำเภอหรือเขตทราบเท่านั้น เช่นเดียวกับคุณผู้หญิงผู้เป็นภรรยา ซึ่งเดิมนั้นใช้คำนำหน้านามว่า นางก็สามารถเปลี่ยนกลับไปใช้ นางสาวได้แล้วครับผม

ถ้าคิดจะเปลี่ยน...แค่คำนำหน้า

คำนำหน้าใน พ.ร.บ. ฉบับนี้คือคำว่า นางกับ นางสาวนะครับ ยังไม่เกี่ยวข้องกับสาวประเภทสองที่แปลงเพศแล้ว และไม่เกี่ยวข้องกับยศถาบรรดาศักดิ์ หรือตำแหน่งต่าง ๆ โดยคุณผู้หญิงที่จดทะเบียนสมรสแล้วสามารถมายื่นขอเปลี่ยนคำนำหน้านามจาก "นาง" ไปเป็น "นางสาว" ได้ด้วยตนเอง โดยนำหลักฐานเป็นสำเนาทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรส และบัตรประจำตัวประชาชนมาแจ้งต่อเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตหรืออำเภอทั่วประเทศ แต่ถ้าจะสะดวกที่สุดก็ไปยังเขตหรืออำเภอตามที่คุณมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน เพื่อเปลี่ยนข้อมูลในฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ต่อไป และทำบัตรประชาชนใหม่ได้ทันทีเลยครับ

ถ้าคิดจะเปลี่ยน...นามสกุลด้วย

ส่วนกรณีที่คุณภรรยาต้องการเปลี่ยนทั้งคำนำหน้านามและเปลี่ยนกลับไปใช้นามสกุลเดิม จะต้องมีสามีมาทำข้อตกลงยินยอมที่สำนักงานเขตหรืออำเภอตามที่อยู่ในทะเบียนบ้าน โดยให้นำใบทะเบียนสมรสมาประกอบด้วย เมื่อเปลี่ยนแปลงข้อมูลเสร็จแล้วสำนักงานเขตหรืออำเภอจะส่งเรื่องไปยังสถาน ที่ที่ออกใบสำคัญสมรส เช่น สมชายกับสมหญิงมีที่อยู่ตามสำเนาทะเบียนบ้านในเขตลาดพร้าว แต่ไปจดทะเบียนสมรสที่เขตบางรัก เจ้าหน้าที่ก็จะส่งเรื่องกลับไปยังเขตบางรัก เพื่อแจ้งเรื่องให้ทราบ และการทำข้อตกลงระหว่างสามีกับภรรยาในเรื่องเปลี่ยน กลับไปใช้นามสกุลเดิมนี้ไม่ถือว่าเป็นการหย่าขาดหรือหย่าร้างนะครับ สิทธิตามการจดทะเบียนสมรสยังมีอยู่ครบถ้วนจ๊ะ

หญิงหย่าแล้ว...ไปเปลี่ยนได้เลย

สำหรับกรณีที่สามีภรรยาหย่าร้างกันแล้ว ฝ่ายหญิงสามารถแจ้งกลับไปใช้นามสกุลเดิมและเปลี่ยนคำนำหน้านามจาก นางเป็น นางสาวได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องพาอดีตสามีมาทำข้อตกลงด้วย เพียงแค่นำใบหย่ามาแสดงประกอบด้วยเท่านั้น เมื่อเปลี่ยนแปลงข้อมูลใหม่แล้ว ทั้งคำนำหน้านามและนามสกุลแล้ว สามารถทำบัตรประจำตัวประชาชนใหม่ได้ทันทีเลยครับ

ผู้หญิงทำธุรกิจ...ธุรกรรม

คุณผู้หญิงบางคนอาจจะกังวลว่าหากไปเปลี่ยนคำนำหน้านามหรือเปลี่ยนนามสกุล อาจจะทำให้มีปัญหาในการทำธุรกรรมต่าง ๆ ต้องเรียนอย่างนี้ครับว่าในส่วนของการทำธุรกรรมทางการเงินในสถานภาพที่ เปลี่ยนแปลงใหม่นั้นไม่มีปัญหาครับ เพราะทันทีที่คุณผู้หญิงซึ่งเป็นผู้ใช้บริการธนาคารได้เปลี่ยนแปลงคำนำหน้า นามและนามสกุลแล้ว และนำเอาเอกสารสำคัญที่สำนักงานเขตหรืออำเภอออกให้ว่าเธอได้เปลี่ยนคำนำหน้านาม เปลี่ยนนามสกุลไปยังธนาคารที่เปิดบัญชีไว้ เจ้าหน้าที่ธนาคารก็จะตรวจสอบเอกสารแล้วนำเอกสารเก่าเมื่อครั้งที่ผู้ใช้บริการมาเปิดบัญชีไว้ ไม่ว่าจะเป็นบัญชีออมทรัพย์ บัญชีกระแสรายวัน บัญชีเดินสะพัด หรือบัญชีฝากประจำ ซึ่งจะมีต้นขั้วอยู่แล้วมาเปลี่ยนแปลงข้อมูล โดยให้เจ้าของบัญชีเซ็นเอกสารเปลี่ยนแปลงข้อมูล แล้วเก็บข้อมูลใหม่แนบไว้กับข้อมูลเก่าเป็นหลักฐาน จากนั้นก็จะออกสมุดบัญชีเล่มใหม่เลขบัญชีเดิม เพียงเปลี่ยนคำนำหน้านามหรือนามสกุลในบัญชีเท่านั้น ส่วนบัญชีที่มีคำว่า "และหรือ, และ/หรือ" ที่เกี่ยวข้องกับสามีต้องนำสามีมาด้วยนะครับ

สำหรับเรื่องลายเซ็นในกรณีที่บางคนอาจเซ็นชื่อโดยมีนามสกุลอยู่ด้วยก็ไม่มี ปัญหาครับ โดยคุณอาจจะยึดลายเซ็นเก่าเอาไว้ก่อน แต่ถ้าหากคุณเปลี่ยนแปลงลายเซ็นใหม่ด้วยก็แค่กลับมาแจ้งที่ธนาคารในสาขาที่ เปิดบัญชีไว้เพียงแค่นั้นแหละครับ ที่สำคัญคุณอย่าลืมแจ้งไปยังคนที่คุณร่วมทำธุรกรรมกับคุณว่าคุณเปลี่ยนแปลง ใช้คำนำหน้านาม หรือนามสกุลไปอย่างไรบ้าง แล้วก็อย่าลืมย้ำกับเขานะครับว่าถึงคำนำหน้านาม หรือนามสกุลจะเปลี่ยนไป แต่ธุรกิจของเรายังไม่เปลี่ยนนะจ๊ะ

ไม่มีผล...ต่ออาชญากรหญิง

หลาย ๆ คน ก็อาจจะสงสัยเรื่องการ หลบหนีของบรรดามิจฉาชีพหรืออาชญากร เรื่องนี้ไม่มีผลครับ เพราะการเปลี่ยนคำนำหน้านามหรือนามสกุลกรณีของหญิงที่ต้องคดีนั้น ไม่เป็นอุปสรรคต่อการสืบสวนติดตามตัวแต่อย่างใด เนื่องจากการติดตามตัวอาชญากรนั้นเขาตามจากหมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก ดังนั้นเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงชื่อหรือนามสกุลในฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ก็ สามารถตรวจสอบได้จากหมายเลขประจำตัว 13 หลักนี่แหละครับ ดังนั้นไม่ต้องกังวลว่าคนชั่วจะลอยนวลเพราะการเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อ หรือเปลี่ยนนามสกุล

หวังว่าเนื้อหาคงจะทำให้คุณผู้หญิงที่จดทะเบียนสมรสแล้ว หรือที่กำลังคิดจะแต่งงานเบาใจเมื่อคิดจะเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อ หรือเปลี่ยนนามสกุล แต่สิ่งที่ผมขอย้ำคือคุณจะต้องดำเนินการแก้ไขสิ่งที่คุณเปลี่ยนแปลงใน ทะเบียนบ้าน บัตรประจำตัวประชาชน เอกสารทางราชการต่าง ๆ ให้ถูกต้องตรงกัน เพื่อสิทธิประโยชน์ของตัวคุณเองต่อไปครับ

Back

SOCIAL NETWORK

Mono Mobile

แหล่งรวบรวมคอนเทนต์คุณภาพ ทั้งในรูปแบบวิดีโอคลิป สามารถดูได้ทุกที่ ทุกเวลาตลอด 24 ชั่วโมง รองรับการใช้งานหลากหลายอุปกรณ์

Mono Technology

อาคารจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล ทาวเวอร์ เลขที่ 200 หมู่ 4 ถนนแจ้งวัฒนะ ปากเกร็ด นนทบุรี 11120 เบอร์โทร 021007007

TAGS

บันเทิง, ข่าวสาร, ก็อซซิป, คลิปตลก, คลิปเด็ด, ดูดวง, เพลงฮิต, เกม, ความรัก, กีฬา