อัพเดท! มติ สนช.ถอดถอน ยิ่งลักษณ์ -ไม่ถอดถอน นิคม-สมศักดิ์ หลังสนช.ใช้บัตร 3 สีลงคะแนนเพื่อทำการถอดถอน
เมื่อเวลา 10.15 น. สนช. เริ่มประชุมเพื่อลงมติ ถอดถอน นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร , นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ขบวนการลงมติ จะใช้วิธี ลงคะแนนพร้อมกันทั้ง 3 สำนวน โดยบัตรสีชมพู ลงมติถอดถอนนายนิคม,บัตรสีขาวลงมติถอดถอน,บัตรสีเหลืองลงมติถอดถอนน.ส. ยิ่งลักษณ์
ล่าสุด 12.10 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สนช.ลงมติถอดถอน น.ส. ยิ่งลักษณ์ด้วยคะแนน 190 ต่อ 18, งดออกเสียง 8,บัตรเสีย 3 ซึ่งจะทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี ขณะที่ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ และ นายนิคม ไวยรัชพาณิช ไม่ถูกถอดถอน
โดยนายสมศักดิ์ มีคะแนนถอดถอน 100 ไม่ถอดถอน 115งดออกเสียง 4 ไม่มีบัตรเสีย มติดังกล่าว มีผลให้ นายสมศักดิ์ ไม่ถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง
ขณะที่นายนิคม มีคะแนนถอดถอน 95 ไม่ถอดถอน 120 งดออกเสียง 4 ไม่มีบัตรเสีย มติดังกล่าว มีผลให้ นาย นิคม ไม่ถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง
อัยการสูงสุด มี มติสั่งฟ้องสำนวนคดีอาญา ยิ่งลักษณ์ ต่อศาลฏีการแผนกคดีอาญาทางการเมืองในโครงการรับจำนำข้าว
วันนี้ เวลา 10.00 น. บรรยากาศที่สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ยังปกติ หลังอัยการเตรียมแถลงความคืบหน้าคดีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายรัฐมนตรี ที่ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหา
ซึ่งมีรายงานว่าเมื่อวานที่ผ่านมา ทางคณะทำงานฝ่ายอัยการได้ส่งมอบสำนวนคดีโครงการรับจำนำข้าว เสนอให้อัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาไปแล้ว และต้องรอดูผลการแถลงคดีว่าทางอัยการสูงสุดในวันนี้ จะมีความเห็นอย่างไร
เนื่องจากกรณีดังกล่าว ถือเป็นอำนาจของอัยการสูงสุดที่จะพิจารณาว่าจะมีความเห็นในการสั่งคดีอย่าง ไร แต่หากอัยการสูงสุดเห็นว่าสำนวนคดียังมีข้อไม่สมบูรณ์ ก็อาจจะมีความเห็นให้ทำการสอบสวนในประเด็นต่าง ๆ เพิ่มเติมอีกครั้ง
แต่ถ้าสำนวนคดีมีความสมบูรณ์ครบถ้วนเพียงพอแล้ว ก็อาจจะมีคำสั่งฟ้องดำเนินคดีนางสาวยิ่งลักษณ์ได้ทันที นอกจากนี้ มีรายงานว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ อาจไม่เดินทางมาด้วยตัวเองได้และมอบหมายให้ทนายความส่วนตัวเป็นผู้ดำเนินการ แทน
ด้าน นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณี อสส. จะแถลงข่าวเกี่ยวกับคดีอาญา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ฐานกระทำผิดต่อหน้าที่ไม่ระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าวว่า
ต้องฟังว่าทาง อสส. ว่าจะแถลงออกมาอย่างไร แต่ถ้าหาก อสส. ไม่ส่งฟ้อง ก็ต้องทำหนังสือมายัง ป.ป.ช. พร้อมเหตุผล จากนั้น ป.ป.ช. จะพิจารณาว่าฟ้องเองหรือไม่ แต่มีแนวโน้มอาจต้องฟ้องเอง
ตร.ตรึงกำลังเข้ม รัฐสภา – รอง ปธ.สนช.ยันไร้การล๊อบบี้ “ยิ่งลักษณ์”
ขณะที่บรรยากาศความเคลื่อนไหวที่รัฐสภาในช่วงเช้า มีเจ้าหน้าที่ทหาร-ตำรวจ ทั้งในและนอกเครื่องแบบ รักษาความปลอดภัยโดยรอบอาคารรัฐสภาอย่างเข้มงวด
ซึ่งวันนี้เป็นการลงมติถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร และ นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา ออกจากตำแหน่ง พร้อมกัน 3 คน
โดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ จะมีการลงมติถอดถอนนักการเมืองดัง 3 คน ด้วยกัน คือ นายนิคม ไวยรัชพานิช นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้เสียงที่จะใช้ถอดถอน สมศักดิ์-นิคม-ยิ่งลักษณ์ คือ 132 เสียงใน 220 เสียง หรือ 3 ใน 5 ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ผลคือ จะเป็นการตัดสิทธิ์การเมือง 5 ปี
ส่วนขั้นตอนการลงมติถอดถอน กรณีของ นายนิคม ไวยรัชพาณิช อดีตประธานวุฒิสภา และนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา จะขานชื่อสมาชิกแล้วให้รับบัตร 2 ใบไปลงมติ
ส่วนกรณี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะขานชื่อเช่นเดียวกัน และรับบัตร 1ใบ ทั้งนี้การลงมติเป็นแบบลับ ให้เข้าคูหาหย่อนบัตร เป็นไปตามข้อบังคับ มาตรา 158 และไม่สามารถยกเว้นข้อบังคับได้
แม้รัฐธรรมนูญปี 2540 และ ปี 2550 จะยกเลิกไปแล้ว แต่ยังมี พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พร้อมย้ำ ไม่มีใครล็อบบี้ สั่งให้ลงมติถอดถอนได้ สำหรับขั้นตอนหลังลงมติเสร็จ จะต้องแจ้งไปยังผู้เกี่ยวข้องและรัฐบาล
จนกระทั่ง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้( 23 ม.ค.) อัยการสูงสุดมีมติสั่งฟ้องคดีอาญาน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีในคดีรับจำนำข้าวต่อศาลฏีการแผนกคดีอาญาทางการเมืองของผู้ ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามข้อกล่าวหาของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ฐาน ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยมิชอบในโครงการรับจำนำข้าว โดยคาดว่าจะใช้เวลาจัดทำสำนวนคำฟ้องไม่เกิน 1 เดือนนับจากนี้
ในขณะเดียวกัน ด้านบรรยากาศบริเวณบ้านพัก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังเป็นไปด้วยความเงียบ บรรดาสื่อมวลชนต่างเฝ้าจับตาความเคลื่อนไหวของอดีตนายกรัฐมนตรี
ซึ่งวันเดียวกันนี้ ทางอดีตส.ส.พรรคเพื่อไทยก็ได้นัดทานข้างเที่ยงกันเพื่อรอฟังผลการลงมติของ สนช. ที่ โรงแรมเอสซี ปาร์ค ซึ่งตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์เอง ก็อาจจะเดินทางไปร่วมทานข้าวที่โรงแรมเอสซี ปาร์ค ด้วยเช่นกัน
